ลายแทง"ล้างบาง"ตำรวจ


เพิ่มเพื่อน    

"ม.จ.จุลเจิม ยุคล" โพสต์เฟซเมื่อวาน (๒๙ ส.ค.) ว่า
    "ตั๋วช้างทำให้กระเทือนถึง เบื้องพระยุคลบาท ให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่ทรงรู้เห็นอะไรทั้งนั้น จะต้องมีคนรับผิดชอบ"
    ก็คงสืบเนื่องจากคดี "ผู้กำกับโจ้" นั่นแหละ 
    พวกมุ่งร้ายสถาบัน มันฉวยโอกาสโยงเรื่อง เพื่อสร้างประเด็นใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
    การที่ "ท่านใหม่" โพสต์ให้คนได้รู้ 
    ประหนึ่งวัคซีนสร้างภูมิ "ความเข้าใจ" ให้ตรงทิศ-ตรงทางกับประชาชน ในขณะที่ธนาธร-ปิยบุตร โหมปฏิบัติการ "ปฏิรูปแบบปฏิวัติ" หวังโค่นล้มสถาบัน เต็มสูบ
    นี่ จากพรุ่งนี้ถึง ๓ กันยา. ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ทางนอกสภา "ขบวนการสามนิ้ว" ก็นัดกวนเมืองเป็นแนวประสาน 
    ปากอ้างไล่ประยุทธ์....
    แต่เจตนาและพฤติกรรมมุ่ง "โจมตีสถาบัน" ชนิดจงใจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
    "ลบหลู่" ด้วยรูปแบบต่างๆ นานา หวังกัดกร่อน "ศรัทธา-พระบารมี" ทางจิตวิทยามวลชนให้เป็น "น้ำหยดลงหิน" เรื่อยๆ
    เมื่อวาน ณัฐวุฒิ "หมาเห่านอกรั้ว" ด้วยคาร์ม็อบแล้ว ยังมีพวก ส.ส.ล้มเจ้าโผล่หน้าเป็นแนวร่วม ในขณะที่กองโจรมอ'ไซค์ก่อจลาจลยั่วตีนตำรวจซ้ำซาก ที่ดินแดง
    ก็แก๊งเดิม-หน้าเดิม-กระหย่อมเดียวเดิมๆ
     ที่เห่ยและมุกแป้กจริงๆ คือนายณัฐวุฒิ อยากบอกด้วยสุดแสนจะทนทุเรศว่า 
    "มึงเปลี่ยนเทปได้แล้วละ...ไอ้เต้น"!
    กูเหม็นเบื่อมึงเต็มทนแล้ว กับไอ้ลีลาพระเอกเผาเมืองปี ๕๓ ของมึงนั่นน่ะ แอ็กตะโกนคำโตซ้ำซากเหมือนตดทางปากมาเป็นเดือนๆ แล้ว
    มุดออกนอกรั้วมาเลยซี...มา
    มานำม็อบล้มประยุทธ์/ล้มสถาบันหรือเผาเมืองด้วยก็ได้เอาให้มันสมคำโตตามเห่าให้เห็นเป็นบุญตาอีกซักรอบเหอะ
    จะได้รู้ "คำโต" กับ "ติดคุกหัวโต" อย่างไหนของจริง?
    แล้วบอกนายใหญ่มึงด้วย
    อย่าเห่าอยู่แต่ในคลับเฮาส์...เดี๋ยวผมจะกลับมานำหน้าพ่อแม่พี่น้องเอง นั่นน่ะ
    อยากล้มรัฐบาล อยากล้มนายกฯประยุทธ์ ก็อย่าเหยงๆ เหมือนหมาตะกุยขาขี้อยู่เลย
    รีบมาเลย ยังทัน บินแป๊บเดียวก็ถึง ปิยบุตร-ธนาธร ไม่อยู่ด้วย ก็มานำม็อบด้วยตัวเองเลย 
    เห็นมีคนทุ่มทุนไม่อั้นมิใช่เรอะ ระดมใหญ่ ในสภา-นอกสภา กะอัดแซนด์วิชประยุทธ์ให้มันขี้แตกคราวนี้เลยมิใช่หรือ?
    กลับไปเรื่องตำรวจ ว่าด้วย "ผู้กำกับโจ้" ต่อ
    ก่อนคุย ตั้งหัวข้อเป็นประเด็นที่จะวิสัชนากันวันนี้ก่อน
    คดีนี้ เป็นเคสพิสูจน์ว่า "สถาบันตำรวจ" ถือกฎหมายเพื่อพิทักษ์ประชาด้วยธรรม หรือตำรวจพิทักษ์ตำรวจเพื่อ "ปล้น-ฆ่า-รีดไถ" ประชาด้วยอยุติธรรมต่อไป?
    นครสวรรค์ อยู่ในเขตดูแล "กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค ๖" พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ เป็นผู้บัญชาการ ซึ่งท่านจะเกษียณเดือนกันยา.นี้แล้ว
    พูดกันให้เข้าเป้า ถ้าให้ภาค ๖ ทำสำนวนส่งฟ้องศาลกันเอง ก็..อิ๊บอ๋าย!
    ผบ.ตร.จึงแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนขึ้นชุดหนึ่งทำคดีนี้โดยเฉพาะ มี "พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์" เป็นหัวหน้าคณะ
    ถึงประเด็นที่จะคุย....
    ช่วงนี้ เป็นช่วงแต่งตั้ง-โยกย้ายใหญ่ประจำปี เมื่อ ๓-๔ วันก่อน ก.ตร.ประชุมกันลงตัวแล้วในตำแหน่งใหญ่ๆ
    ผมดูรายชื่อบิ๊กตำรวจที่เขาจัดแถวเสร็จ ก็หยิบรายชื่อคณะสอบสวนผู้กำกับโจ้มาดู
    ดูในความหมายว่า มีใครในคณะสอบสวนได้เลื่อนชั้น-เลื่อนตำแหน่งบ้างหรือไม่?
    เพราะอะไร?
    ก็เพราะ ถ้า ผบ.ตร.จริงใจ "ไม่ตัดตอนจบ-ไม่มวยล้มต้มคนดู" จะวัดได้จากตัว "นายตำรวจ" ที่คัดมาตั้งเป็นคณะสอบสวนนี่แหละ!
    มันเป็นปรอทบอกอุณหภูมิได้เลย ว่าส่งมือสอบสวนมุ่งสู่การล้างบางตำรวจ ประเดิมภาค ๖ เป็นปฐมบท 
    หรือส่งมือสอบสวนสู่การตัดตอน เพื่ออนุรักษ์สถาบันตำรวจเป็นแหล่งโจรถือกฎหมายสืบต่อกันไป?
    ในคณะสอบสวน นอกจาก พล.ต.อ.สุชาติ หัวหน้าคณะ ที่ประชาชนไม่ข้องใจการเป็น "ตำรวจที่รัก" ของประชาชนแล้ว
    ก็ไล่ดูรายชื่อไปเรื่อยๆ พบชื่อคณะสอบสวนอยู่ในบัญชี "ขึ้นชั้น-ขึ้นตำแหน่งใหม่" น่าสนใจ ๒ ท่าน คือ
    "พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์" ผช.ผบ.ตร. ที่เป็นรองหัวหน้าคณะสอบสวน 
    เลื่อนชั้นจากผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็น "รอง ผบ.ตร."
    และ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)คณะพนักงานสอบสวน
    เลื่อนชั้นเป็น "ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง" (ผบช.ก.) 
    ไปเป็นแทน "พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเป็น "ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" (ผช.ผบ.ตร.)
    อีกท่านที่ควรรู้กันไว้ แม้ไม่ได้เป็นคณะสอบสวน...
     แต่ต่อจากนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการล้างบางหรือไม่ล้างในกองบัญชาการตำรวจ ภาค ๖ คือ
    "พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี" จากผู้บัญชาการประจำ สง.ผบ.ตร. ได้รับแต่งตั้งไปเป็น "เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๖"  
    ต่อจาก "พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์" ที่จะเกษียณ นั่นแหละ!
    ไหนๆ ก็พูดเรื่องแต่งตั้่งแล้ว ก็เอาซะให้จบในตำแหน่งสำคัญที่ควรรู้ไปด้วยเลย
    ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล "พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา" ที่หน้าดำ-หน้าแดงกับม็อบตอนนี้ ท่านจะเกษียณ
    คนที่มาแทนก็คือ....
    "พล.ต.ต.สำราญ นวลมา" เลื่อนจากตำแหน่ง ผบช.น. ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)
    สรุป จากคณะสอบสวนที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ๒ นาย คือ พล.ต.อ.รอย กับพล.ต.ต.จิรภพ
    จาก ๒ ชื่อนี้ ปรู๊ฟได้เลย ผบ.ตร.สุวัฒน์ "หวังผลล้างบาง" ๘๐-๙๐%
    พูดกันชัดๆ ผบ.ตร.สุวัฒน์และรองฯสุชาติ เกษียณพร้อมกันปี ๒๕๖๕ คือปีหน้า
    พล.ต.ท.รอย ที่ขึ้นกินยศ พล.ต.อ.ในตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ท่านนี้แหละ ถือว่าได้รับการวางตัวเป็น "ผบ.ตร." ต่อจากพล.ต.อ.สุวัฒน์ ๙๙%
    อีก ๑% เหลือ ขึ้นอยู่กับลมการเมืองในอนาคต!
    ส่วน "พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช" อายุ ๔๕ ปี เลื่อนชั้นยศเป็น พล.ต.ท. ในตำแหน่ง "ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง"
    นี่คือ "ว่าที่ ผบ.ตร." ในอีก ๑๕ ปีข้างหน้า!
    ดูตามคุณสมบัติและประวัติงานแล้ว ที่ใครว่า "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล" ที่ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.คราวนี้ด้วย ซึ่งมีอายุราชการอีก ๙ ปี ว่าตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่หนีไปไหนนั้น เพราะคนอื่นเกษียณกันหมดนั้น
    ก็อย่าเพิ่งมั่นใจ เมื่อ "พล.ต.ต.จิรภพ" โดดเด่นเป็นทางช้างเผือกเห็นชัด
    วันนี้ รู้ไว้แค่นี้ก่อน แล้วค่อยลงรายละเอียดกันหลังเน้อ!

คนปลายซอย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"