31 ส​.ค.64 - จากรณีที่ตำรวจได้บุกจับกลุ่มพระสงฆ์ตั้งวงปิ้งย่างหมูกระทะและดื่มเบียร์ ในกุฏิที่วัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีพระสงฆ์ 7 รูป และฆราวาส 1 คน โดยได้มีการดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ​ ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 8​ ถูกส่งฟ้องศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นจำเลยที่ 1-8 ฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และ​พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ

ศาลได้พิจารณาลงโทษ จำเลยที่ 1 ถึง 8 ฐานความผิดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ลงโทษให้เสียค่าปรับคนละ 10,000 บาท และจำคุก 15 วัน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี นอกจากนี้ ในส่วนของจำเลยที่ 1 ถึง 4 ยังถูกลงโทษปรับ มั่วสุมดื่มสุราในศาสนสถาน ให้เสียค่าปรับอีกคนละ 2,500 บาทรวมคนละ​ 12,500 บาท ซึ่งหลังจากชำระค่าปรับแล้ว ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวทันที

โดยก่อนเข้ารับพิจารณา​จากศาล พระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวได้เข้าลาสิกขาสละสมณะเพศ พร้อมลงนามในหนังสือแจ้งการลาสิกขาสละสมณะเพศกับเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยที่วัดอุปคุต ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่ำวานนี้ (30​ ส.ค.)​ คือ 1.พระครูปลัดสุรเดช สายแผ่เยือง อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดยางกวง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ 2.พระครูมนูญธรรมศาสก์พุทธกร วิมุติญาณกุล อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ 3.พระอธิษฐณัฏฐ์ ปัญญาอิ่นแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่​ 4.พระภานุกร คำป็อก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดปันเสา 5.พระใบฎีกาอานนท์ ปัญญาปโชโต ยานนท์ประทุม อายุ 35 ปี 6.พระทักษิณ ศรีธิ อายุ 36 ปี พระลูกวัดปันเสา ได้แจ้งลาสิกขาสละสมณเพศกับทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่แล้ว

จากเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์​ของประชาชน​ในเชียงใหม่และทั่วประเทศ​ทันที โดยเฉพาะสังคมออนไลน์​ โดยชาวบ้านในละแวกวัดดังกล่าวต่างชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินคดีพระกลุ่มนี้ทั้งที่เป็นถึงเจ้าอาวาสมีลูกศิษย์​จำนวนมากแต่ทำผิดพระวินัยสงฆ์ที่ไม่เป็นแบบอย่างเสียเอง​ ซึ่งเข้าข่ายโลกะวัชชะ หรือ โลกติเตียน จากเดิมที่มีข่าวว่ามีความผิดไม่รุนแรงถึงขั้นปาราชิก แต่หลังกระแสวิจารณ์​หนักทำให้พระสงฆ์​ที่ทำผิดต้องขอลาสิกขาดังกล่าว