สึกแล้ว!แก๊งเจ้าอาวาส


เพิ่มเพื่อน    

 

สึกพ้นผ้าเหลือง 4 เจ้าอาวาสปาร์ตี้หมูกระทะ-ดกเบียร์ในกุฏิ พร้อมพระลูกวัด หลังตำรวจจับข้อหามั่วสุม-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่กำชับพระในปกครองอยู่ในพระธรรมวินัย-กฎมหาเถรสมาคม ระบุขอบวชใหม่เป็นอำนาจพระอุปัชฌาย์พิจารณา เช็กประวัติอาชญากรรม

จากกรณีที่ตำรวจได้บุกจับกลุ่มพระสงฆ์ตั้งวงปิ้งย่างหมูกระทะและดื่มเบียร์ ในกุฏิที่วัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีพระสงฆ์ 7 รูป และฆราวาส 1 คน โดยได้มีการดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค และฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน​ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 8​ ถูกส่งฟ้องศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นจำเลยที่ 1-8 ฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ ​พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน
ศาลได้พิจารณาลงโทษ จำเลยที่ 1 ถึง 8 ฐานความผิดตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ลงโทษให้เสียค่าปรับคนละ 10,000 บาท และจำคุก 15 วัน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี นอกจากนี้ ในส่วนของจำเลยที่ 1-4 ยังถูกลงโทษปรับมั่วสุมดื่มสุราในศาสนสถาน ให้เสียค่าปรับอีกคนละ 2,500 บาท รวมคนละ​ 12,500 บาท ซึ่งหลังจากชำระค่าปรับแล้ว ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวทันที
    ก่อนเข้ารับพิจารณา​จากศาล พระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวได้เข้าลาสิกขาสละสมณเพศ พร้อมลงนามในหนังสือแจ้งการลาสิกขาสละสมณเพศกับเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยที่วัดอุปคุต ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 30​ ส.ค. ​ ประกอบด้วย 1.พระครูปลัดสุรเดช สายแผ่เยือง อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดยางกวง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ 2.พระครูมนูญธรรมศาสก์พุทธกร วิมุติญาณกุล อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ 3.พระอธิษฐณัฏฐ์ ปัญญาอิ่นแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่​ 4.พระภานุกร คำป็อก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดปันเสา 5.พระใบฎีกาอานนท์ ปัญญาปโชโต ยานนท์ประทุม อายุ 35 ปี 6.พระทักษิณ ศรีธิ อายุ 36 ปี พระลูกวัดปันเสา ได้แจ้งลาสิกขาสละสมณเพศกับทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
ด้านพระเทพปริยัติ เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงอดีตพระสงฆ์ 7 รูป พร้อมลูกศิษย์ จัดปาร์ตี้หมูกระทะว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ซึ่งพระสงฆ์ดังกล่าวยอมรับสารภาพที่มั่วสุม และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด จนถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 15 วัน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี และได้ลาสิกขาด้วยความสมัครใจแล้ว ถือว่าสิ้นสุดการพิจารณาคดีในทางโลกและทางธรรมแล้ว พระได้ลาบวชและสึกออกไปเป็นคนปกติแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับวงการสงฆ์และพระพุทธศาสนาอีก
พระเทพปริยัติกล่าวว่า ส่วนมาตรการควบคุมดูแลวัดกว่า 2,000 แห่ง และพระสงฆ์ สามเณรที่มีอยู่กว่า 10,000 รูปนั้น มีคณะสงฆ์ปกครองทุกระดับชั้น ภายใต้การบริหารจัดการของมหาเถรสมาคม ได้วางมาตรการควบคุมดูแลวัดและพระสงฆ์มานานแล้ว ทั้งนี้ ได้พูดคุยและกำชับพระในปกครองให้อยู่ในพระธรรมวินัย และกฎระเบียบมหาเถรสมาคมอยู่ตลอด หลังจากนี้ได้กำชับไปยังเจ้าคณะอำเภอ 25 อำเภอ สั่งการไปยังเจ้าคณะตำบลให้สอดส่องดูแลพระในปกครองเข้มงวดมากขึ้น เพื่อรักษาพระธรรมวินัย พร้อมปฏิบัติตนให้ประชาชนเคารพศรัทธา และเป็นที่ยอมรับของสังคม เพื่อฟื้นฟูและเผยแผ่พระพุทธศาสนา
หากพระสงฆ์ 7 รูป ที่ลาสิกขาไปแล้ว ขอกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่ พระเทพปริยัติกล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์พิจารณา โดยเฉพาะเจ้าคณะอำเภอ ต้องพิจารณาร่วมกับเจ้าคณะตำบลว่า เห็นชอบหรือไม่ พร้อมตรวจสอบว่ามีทะเบียนประวัติอาชญากรรม หรือศาลตัดสินลงโทษแล้วหรือไม่ เพื่อประกอบการขอบวชเป็นพระสงฆ์ เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติมด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"