รู้สึกขยับกายคลายเครียดได้สักนิดแล้วนะ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่มีการคลายล็อกดาวน์ เพราะการได้นั่งกินอะไรอร่อยๆ ในร้าน ย่อมดีกว่าซื้อใส่ห่อกลับบ้าน หรือสั่งเดลิเวอรีเป็นไหนๆ 
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านค้าอาหารต่างๆ ก็คงจะหายใจโล่งมากขึ้นด้วย เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์นั้น ส่งผลกระทบต่อรายได้ของทุกฝ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย 
    ชื่อได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นร้านใหญ่ ร้านขนาดกลาง ร้านมีแฟรนไชส์ ล้วนถูกโควิด-19 ปล่อยฤทธิ์เดชทั้งนั้น ส่วนจะมากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการ "อยู่ให้เป็น" กับสถานการณ์ที่ว่ากันว่า จะอยู่ยั้งยืนยาวคู่กับสังคมมนุษย์ต่อๆ ไป ตามธรรมชาติของเชื้อไวรัสที่มันเองก็จะพัฒนากลายพันธุ์สู้รบกับวัคซีนไปเรื่อยๆ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนกัน 
    ชีวิตที่คลายล็อก พวกเราจึงต้องรู้อยู่ให้เป็น อย่าได้ประมาท คิดว่าวัคซีน 2 เข็มแล้วจะอยู่รอดตลอดฝั่งฝันนะคะ เพราะคุณหมอท่านบอกมาโดยตลอดว่า วัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือปิดประตูไม่ให้โควิดเข้ามากล้ำกราย แต่มันช่วยลดความรุนแรงของอาการต่างๆ และลดอัตราการเสียชีวิต
    ช่วงนี้การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นดูแลทำความสะอาดมือ ตลอดจนร่างกายของตัวเอง สถานที่ที่เราต้องเอามือไปแตะไปสัมผัส ยังคงต้องกระทำให้เป็นกิจวัตร โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้ม อย่างกรุงเทพมหานคร ก็ยังต้องรักษาระดับความเข้มข้นในการดูแลสุขภาพตัวเองนะคะ
    สำหรับมนุษย์ป้านั้น วางแผนว่าจะไปเยี่ยมเยียนสวนสาธารณะสักหน่อย คิดถึงมากถึงมากที่สุดเลย สงสัยเหลือเกินว่า สวนไหนจะถูกประชากร "ตัวเงินตัวทอง" จับจองพื้นที่มากที่สุดหนอ?!?

"ป้าเอง"