ตูนกลับมาวิ่งอีกหน หาเงินให้รพ.ราชวิถี


เพิ่มเพื่อน    

    "ตูน บอดี้สแลม" ร่วมวิ่งระดมทุนสร้าง "ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร" รพ.ราชวิถี พร้อมจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้งบกว่า 200 ล้านบาท 
    เมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 17 มิถุนายนนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย และ นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ร่วมเปิดงาน "โครงการเดิน-วิ่งการกุศล ราชวิถีมินิมาราธอน 2018" เพื่อระดมทุนจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ศูนย์ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร อาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี โดยมีนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม ร่วมวิ่งเป็นระยะทาง 10.5 กิโลเมตรด้วย 
    นพ.มานัสกล่าวว่า การจัดโครงการเดิน-วิ่งดังกล่าว เพื่อก่อสร้างศูนย์ส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร รพ.ราชวิถี และการจัดหาครุภัณฑ์ โดยได้รับเกียรติจากคุณตูน ซึ่งถือว่าเป็นไอดอลและสัญลักษณ์ของการออกกำลังกายมาร่วมวิ่งภายในงานด้วย สำหรับการก่อสร้างศูนย์ส่องกล้องฯ และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ต้องใช้งบประมาณราวกว่า 200 ล้านบาท โดยจะเน้นในการจัดหาคือ กล้องที่ใช้ในการส่องตามระบบทางเดินอาหารต่างๆ ตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไปจนถึงการส่องกล้องทางทวาร ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุน สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เท่าที่ทราบมีรายได้ประมาณ 7-8 ล้านบาท ส่วนจำนวนผู้เข้าร่วมวิ่งนั้น ตามกำหนดคือประมาณ 5,000 คน มีผู้ติดต่อเข้ามาหลังปิดรับสมัครประมาณ 6,000 คน 
    สำหรับประชาชนที่สนใจในการร่วมสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ศูนย์ส่องกล้องฯ มีอีกหลายช่องทางในการบริจาค เช่น เว็บไซต์โรงพยาบาลราชวิถี www.rajavithi.go.th/ มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี และในเร็วๆ นี้จะมีการรับบริจาคผ่านแอปพลิเคชันในการบริจาคแบบออนไลน์ หรือเข้ามาติดต่อด้วยตนเองที่โรงพยาบาลก็ได้     
    ด้าน ตูน บอดี้สแลม กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลราชวิถี ที่ให้เกียรติตนเป็นหนึ่งในนักวิ่งรายการนี้ ซึ่งก็ดีใจและมีความสุขที่จะได้มาวิ่งร่วมกับทุกคน ทั้งนี้ หลายคนเวลาเจอตนมักจะทักว่า เอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย เพราะอาจเห็นว่าตนมีกิจกรรมเยอะ ซึ่งอยากจะบอกว่า หากทุกคนคิดว่าการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทุกคนก็จะมีเวลากับมัน ถ้าร่างกายตัวเองเราไม่ดูแลแล้วใครจะดูแล อย่าไปหวังพึ่งให้โรงพยาบาลดูแลอย่างเดียว ส่วนที่จะมีการวิ่งระดมทุนอีกหรือไม่นั้น ถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ก็อยากทำ แต่ต้องดูรูปแบบและจังหวะของชีวิตด้วย สิ่งสำคัญที่มากกว่าเงินบริจาค คือเห็นทุกคนมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพเบื้องต้นแบบนี้ 
    นายธีรทัศน์ สังขทัต ณ อยุธยา ผู้จัดการโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรเงินจากโครงการดังกล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนทั้งหมด 1,413 ล้านบาท ซึ่งได้มีการจัดสรรเงินก้อนแรกไปให้แก่ 11 โรงพยาบาลแล้วประมาณ 1,300 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลืออีกกว่า 113 ล้านก็จะทำการจัดสรรให้แก่โรงพยาบาล โดยอีกประมาณ 2 เดือน เราจะรวบรวมว่าทั้ง 11 โรงพยาบาลได้นำเงินไปทำอะไรบ้าง ซึ่งทางโรงพยาบาลก็จะทำข้อมูลสรุปมา เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าทำโครงการนี้เกิดผลเป็นอย่างไรบ้าง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"