ถกชุมชนฯสกัดม็อบ/ชวนฝ่ายค้านชุมนุม


เพิ่มเพื่อน    

"ตำรวจ" แถลงจับ 3 คนร้ายป่วนแยกดินแดง ยึดระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดปิงปอง หนังสติ๊กลูกแก้วอื้อ เร่งคุยปธ.ชุมชนแฟลตดินแดงหามาตรการป้องกันม็อบแฝงตัวก่อเหตุ "แรมโบ้" เตรียมแจ้งจับ "ณัฐวุฒิ-สมบัติ" ป่วนเมือง "สิระ" จี้ "ผบช.น." เคลียร์กลุ่มทะลุแก๊สก่อความวุ่นวายรายวัน "เต้น" นำคาร์ม็อบร่วมชุมนุมแยกอโศก ขอประเมิน 3 วันหาแนวทางจัดชุมนุมใหญ่ไล่บิ๊กตู่ ชิงไสหัวกลุ่มทะลุแก๊สเป็นคนละขบวน "บ.ก.ลายจุด" ชวนฝ่ายค้านร่วมชุมนุม
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 6 ก.ย. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองว่า จากการข่าวยังคงเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่อาจก่อเหตุบริเวณสามแยกดินแดง ดังนั้นขอเตือนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย 
    "เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบผู้ที่แฝงตัวเข้าไปก่อเหตุ แต่จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มาจากจังหวัดใกล้เคียง ไม่ใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ในแฟลตดินแดงแต่อย่างใด" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    โฆษก บช.น.กล่าวว่า ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 5 ก.ย.นั้น กลุ่มทะลุแก๊สบริเวณแยกดินแดงมีการก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย ขว้างปาสิ่งของทุบทำลายทรัพย์สินราชการและทรัพย์สินทางสาธารณะ มีการใช้ระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดปิงปอง ใช้พลุเพลิง พลุไฟ หนังสติ๊ก จุดไฟเผาทรัพย์สิน รวมถึงมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่และมีประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บด้วย 
    นอกจากนี้ มีกลุ่มที่แฝงตัวเข้าไปใช้พื้นที่ในแฟลตดินแดงเพื่อก่อเหตุ โดยอ้างว่าเป็นประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตดินแดง ซึ่งจากการชุมนุมเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คนพร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นระเบิดแสวงเครื่องพันเทปพันสายไฟสีดำจำนวน 1 ลูก,  ระเบิดปิงปองหลากสีจำนวน 10 ลูก,   หนังสติ๊กด้ามไม้จำนวน 1 อัน, ลูกแก้วจำนวน 118 ลูก
    "ขณะนี้ บช.น.ได้ประสานกับ สน.ดินแดงเพื่อประชุมหามาตรการป้องกันผู้ก่อเหตุ ที่อ้างว่าเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในแฟลตดินแดง เพื่อก่อความวุ่นวายและสร้างสถานการณ์ รวมถึงหารือกับประธานชุมชนแฟลตดินแดงเพื่อหาแนวทางไม่ให้ผู้ก่อเหตุแฝงตัวเข้าไปในพื้นที่และทำให้เกิดความเดือดร้อนอีกด้วย" โฆษก บช.น.กล่าว
    ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของนายณัฐวุฒิ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ว่าการที่ประชาชนไม่ร่วมการชุมนุมเหตุผลเพราะให้ความร่วมมือต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด และรู้ว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และมวลชนส่วนใหญ่รู้เช่นเห็นชาติคนพวกนี้ว่านายณัฐวุฒิและนายสมบัติเดินตามม็อบ 3 นิ้วที่คิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูง ยิ่งนายณัฐวุฒิมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยเข้าร่วมชุมนุมปี 53 รู้ไส้รู้พุงหมดแล้วว่าหากเข้าร่วมการชุมนุมจะตกเป็นเครื่องมือของนายณัฐวุฒิที่หลอกให้ออกมาต่อสู้เพื่อตัวเอง สู้เพื่อนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศ และสู้เพื่อพรรคการเมืองของนายใหญ่ หากสำเร็จก็จะได้โบนัสก้อนใหญ่ เหมือนที่เคยได้รับมาแล้ว สุดท้ายก็ทิ้งมวลชนคนเสื้อแดง
แจ้งจับ'เต้น'ป่วนเมือง
    "ผมและทนายความจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ นายสมบัติ และพวกเพิ่มเติมที่ สน.ทองหล่อ ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ เพราะความผิดของคนพวกนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ บ้านเมืองต้องยึดกฎหมาย ใครทำผิดต้องเอาเข้าคุกให้ได้ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเด็ดขาด" นายเสกสกลกล่าว
    ส่วนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การปะทะบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงระหว่างตำรวจกับกลุ่มเยาวทะลุแก๊สตนติดตามเหตุการณ์นี้มาเป็นเดือนๆ สู้รบกับทุกวัน เด็กไม่ถึง 100 คน ตำรวจกว่า 2 แสนนาย ไม่สามารถจัดการกับผู้กระทำผิดกฎหมายได้ จึงต้องการถาม ผบช.น.ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงว่าพื้นที่ตรงนี้กลายเป็นสนามเด็กเล่นและเอาไว้ใช้ซ้อมยิงไปแล้วใช่หรือไม่ เพราะเหตุใดถึงไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งๆ ที่สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การประกาศเคอร์ฟิว รวมไปถึง พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ กลับปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยเอาแก๊สน้ำตา กระสุนยางไปใช้แบบพร่ำเพรื่อ ไม่เกิดประโยชน์ 
    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานสอบสวน สน.บางเขน นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายอานนท์ นำภา กับพวกรวม 8 คน ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นสถาบันฯ, ยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 เเละข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2563 หัวข้อ “ปลดอาวุธศักดินา” ซึ่งเดิมได้ประกาศว่าจะมุ่งไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เเต่ภายหลังย้ายมายังกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ เขตบางเขน
    นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนนำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 เรียงลำดับคือ นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยาบาลอาสา, น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือทราย พร้อมข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112, มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองและข้อหาอื่นฯ ส่วน น.ส.อินทิราจะมีข้อหาร่วมชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มมาอีก
    ภายหลังรายงานตัวเสร็จแล้ว พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ประเมิน 3 วันชุมนุมใหญ่
    วันเดียวกัน ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ตามที่นายณัฐวุฒินัดชุมนุมคาร์ม็อบ เพื่อเคลื่อนขบวนผ่านทางถนนสุขุมวิทผ่านไปยังแยกอโศก และยูเทิร์นกลับเป็นจำนวน 3 รอบ พร้อมมีการบีบแตรไปตามเส้นทางเป็นวันแรกเพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์นั้น ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ได้มีการปิดช่องจราจรหน้าเกษรพลาซ่า เพื่อให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นำรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาจอดเป็นขบวน มีผู้ชุมนุมคาร์ม็อบทยอยเดินทางมาตั้งขบวน โดยหัวขบวนอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์และหางขบวนอยู่ที่หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ
    เวลา 16.10 น. นายณัฐวุฒิได้เดินทางมาถึงสี่แยกราชประสงค์ และให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมครั้งนี้เราพยายามสร้างรูปแบบใหม่ โดยผสมผสานจุดแข็งเดิม คือคาร์ม็อบที่ให้พี่น้องได้ออกมาแสดงพลังได้มาก ซึ่งจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ก.ย. พบมีการขยายตัวในเชิงปริมาณคือคาร์ม็อบพาคนข้ามข้อกำหนดโควิด เรากำลังจะมีการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งใหญ่อีกเร็วๆ นี้ ดังนั้นการชุมนุมนี้จะเป็นการผสมสูตร ในวันที่ 8 ก.ย.จะมีมอเตอร์ไซค์และมีขบวนอื่นๆ ที่ประสานจะเข้าร่วมภายในสัปดาห์นี้จะเห็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น
    ถามว่าจะมีการชุมนุมปักหลักหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่เอื้อให้ปักหลักค้างคืน แต่เราจะผนึกกำลังกับกลุ่มชุมนุมของ บ.ก.ลายจุดที่แยกอโศก โดยจะประเมินสถานการณ์ใน 3 วัน ก่อนนัดชุมนุมครั้งใหญ่ 
    ซักถึงการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ถือเป็นคนละขบวนมาตั้งแต่ต้น ส่วนตัวเป็นห่วงสถานการณ์ทั้งของประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงเจ้าหน้าที่ แต่ก็เคารพแนวทางการต่อสู้ของแต่ละฝ่าย 
    จากนั้นเวลา 16.43 น. ขบวนเดินทางมาถึงแยกอโศก โดยมีมวลชนบางส่วนที่ปักหลักร่วมชุมนุมกับกลุ่มของ บ
.ก.ลายจุด และขบวนคาร์ม็อบได้กลับรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์  และมุ่งหน้ากลับไปยังแยกอโศกเช่นเดิมเป็นจำนวน 3 รอบ ก่อนแยกย้ายร่วมทำกิจกรรมกับเวทีของ บ.ก.ลายจุด
    นายสมบัติกล่าวว่า วันนี้เป็นการทดสอบความเป็นไปได้ที่เราจะตั้งป้อมค่ายกันที่บริเวณแยกอโศก โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ในการทดสอบว่าจะทำได้หรือไม่ เนื่องจากการชุมนุมที่ผ่านมายังไม่มีลักษณะการชุมนุมที่ต่อเนื่องยืดเยื้อ เพราะฉะนั้นวันนี้เราแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน ตนจะดูความเป็นไปได้ในการปักหลักป้อมค่ายที่อโศก และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังมวลชนที่ร่วมทำกิจกรรมคาร์ม็อบ และจะดึงคาร์ม็อบมาร่วมกิจกรรมที่อโศก
    ถามว่าหลังจากประเมินแล้วจะยกระดับการชุมนุมอย่างไร นายสมบัติกล่าวว่า ขอรอดู 1 สัปดาห์ก่อนว่าสถานการณ์จะสามารถตั้งป้อมค่ายได้หรือไม่ ประชาชนเป็นคนตัดสินว่าจะอยู่ต่อหรือไปไม่ได้
    “ผมไม่มีปัญหาที่จะมีการเชิญ ส.ส.ฝ่ายค้านมาร่วมกิจกรรมกับเรา แม้แต่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่โหวตสวนมติของพรรค ผมก็ยังเชิญเขามาร่วมเลย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสถานะของนักการเมืองเขาจะมาปรากฏตัว หรือแสดงออกได้มากน้อยเพียงใด ก็ฝากสื่อเชิญนักการเมืองมาด้วย” นายสมบัติกล่าว
    เวลา 17.10 น. ไฮโซลูกนัทและ บ.ก.ลายจุดสลับกันขึ้นปราศรัย พร้อมมวลชนร่วมทำกิจกรรมต่างๆ โดย นสพ.บูรณ์ อารยพล หรือ “หมอบูรณ์” เจ้าของเพจ "ขอคืนไม่ได้ขอทาน" ซึ่งเป็นผู้เรียกร้องในประเด็นขอคืนเงินสมทบชราภาพขึ้นเวที โดยกล่าววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และโครงการเยียวยาจากประกันสังคม จากนั้น นสพ.บูรณ์ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมที่แยกอโศกต่อเนื่องทุกวัน แล้วทำการถอดเสื้อบนเวทีเพื่อแสดงสัญลักษณ์ประท้วงรัฐบาล ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งยังชักชวนให้ผู้ชุมนุมชายขึ้นเวทีมาถอดเสื้อร่วมกันและระบายความในใจ โดยมีผู้ทยอยขึ้นเวทีร่วมถอดเสื้อรวมกว่า 10 ราย
    ในช่วงท้าย นสพ.บูรณ์กล่าวผ่านไมโครโฟน ขอให้นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ถอดเสื้อด้วย นายสมบัติได้ขึ้นเวทีแล้วถอดเสื้อท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุม
    ต่อมา เวลา 17.49 น. ขบวนคาร์ม็อบผ่านแยกอโศก ผู้ชุมนุมชู 3 นิ้ว ใช้ตีนตบต้อนรับอย่างครึกครื้น จากนั้นเวลา 17.57 น. รถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ขี่เข้ามาบนถนนอโศกมนตรี นายสมบัติตะโกนว่า "มันต้องอย่างนี้ เบิ้ลอีก ขอต้อนรับ มาได้ทุกวัน" ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"