ชาวบ้านกว่า600 แห่ขอวัคซีนสุนัขบ้า


เพิ่มเพื่อน    

    ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งเอกซเรย์ 8 อำเภอพื้นที่เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้าแพร่ระบาด หลังมีคนตายรายแรกที่อำเภอยางตลาด เร่งฉีดวัคซีนหมา แมวให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ เผยคนในครอบครัวผู้ตายอีก 4 รายอยู่ในภาวะเสี่ยง ด้านชาวบ้านกว่า 600 คนแห่ไปขอรับวัคซีน
    เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนี้ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ นพ.ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ นายอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ สาธารณสุขอำเภอยางตลาด และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนางสมจิตร นระแสน อายุ 62 ปี มารดานายอานนท์ ภูชะนาม อายุ 42 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 8 บ้านหัวงัว ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และจะเคลื่อนศพไปทำพิธีฌาปนกิจในวันเดียวกัน พร้อมทั้งทำการรณรงค์แจกเอกสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังโรค
    นายอานนท์ถูกสุนัขกัดเมื่อเดือนตุลาคม 60 ที่ร้านขายของชำ เป็นแผลถลอก และได้ใช้เหล้าขาว 40 ดีกรีล้างแผล โดยไม่ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จนถึงเดือนพฤษภาคม 61 นายอานนท์มีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น ถูกนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แพทย์ตรวจพบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
    ขณะที่นายไกรสรกล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ปัจจุบันมีพื้นที่เสี่ยงอยู่จำนวน 8 อำเภอ จากทั้งหมด 18 อำเภอ เนื่องจากมีบางช่วงที่วัคซีนป้องกันโรคขาดตลาด อาจจะทำให้การรณรงค์ฉีดวัคซีนไม่ต่อเนื่องจึงทำให้โรคมีอยู่ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ 1 ราย ตนได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน เพื่อติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์และดำเนินการป้องกันทันที โดยในส่วนของพื้นที่ 8 อำเภอที่พบการแพร่ระบาดและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้านั้น จะต้องดำเนินการเอกซเรย์ปูพรมครั้งใหญ่ ขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงทุกตัว โดยเฉพาะสุนัขและแมว จะต้องฉีดวัคซีน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าที่บ้านหัวงัว ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จะต้องค้นหาและทำการฉีดวัคซีนในพื้นที่รัศมี 5 กม.รอบจุดเกิดโรคจำนวน 11 หมู่บ้าน พร้อมกับรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
    “สิ่งที่อยากฝากถึงประชาชนคือ อย่าได้ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ ต้องมีสติเมื่อประสบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการหวั่นเกรงว่าเชื้อพิษสุนัขบ้าจะติดจากคนสู่คน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นไปได้ยากมาก และโอกาสที่จะติดจากคนสู่คนนั้นมีน้อย ยกเว้นผู้ที่มีบาดแผลแล้วไปถูกน้ำลายคนป่วย ซึ่งจะต้องสัมผัสและคลุกคลีจริงๆ จึงจะติดได้ ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักมากที่สุดคือ หากครอบครัวใดมีสุนัขและแมวจะต้องนำไปฉีดวัคซีนทุกตัว อย่างได้ปล่อยปละละเลย และเมื่อหากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน เลียบาดแผล จะต้องไปฉีดวัคซีน และควรรีบไปพบแพทย์ทันที อย่าได้เผลอหรือประมาท เพราะอาจจะทำให้เสียชีวิตได้” นายไกรสรกล่าว
    ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงชายชาวกาฬสินธุ์เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นรายที่ 11 ของประเทศ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงวิตกกังวลจะติดเชื้อ เพราะมีการดูแลใกล้ชิดและเคยสัมผัสเลือดผู้เสียชีวิตมาก่อน ว่า ปกติการติดโรคจากคนสู่คน ทางทฤษฎีเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน ที่เคยเจอคือการผ่าตัดเอาแก้วกระจกตาจากคนที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ามาใส่ให้คนที่ปกติถึงจะติด และโดยปกติเชื้อโรคจะอยู่ที่น้ำลาย ดังนั้น ถูกสัตว์กัดถึงจะมีน้ำลาย เช่นเดียวหากเป็นการติดจากคนก็น่าจะเป็นการกัดถึงจะมีการสัมผัสน้ำลายจากคน แต่อย่างที่บอกว่ายังไม่มีรายงานยืนยัน ดังนั้นโอกาสติดจากคนสู่คนจึงต่ำ ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งกังวล แต่ถ้าไม่สบายใจก็ไปปรึกษาบุคลากรทางการแทพย์ได้ อย่างไรก็ตาม เวลาลงพื้นที่เจ้าหน้าที่จะหาคนสัมผัสเสี่ยง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ต้องพิจารณาการให้วัคซีนต่อไป
    ส่วน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า กรณีนายอานนท์ถูกสุนัขบ้ากัดเสียชีวิต จากรายงานการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พบว่ามีคนเสี่ยงที่อยู่ในบ้านหลังนั้นอีก 4 คน ซึ่งมีการสัมผัสน้ำลายสุนัขตัวเดียวกัน จึงได้มีการสอบสวนข้อมูลเชิงลึกถึงจุดที่สัมผัสน้ำลายว่ามีบาดแผลหรือไม่ บาดแผลรุนแรงหรือไม่ เพื่อประเมินการรับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานกว่า 8 เดือน แต่ถ้าแพทย์ประเมินว่าควรได้รับวัคซีนก็จะต้องรับ นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ รพ. 2 แห่งที่มีการสัมผัสประมาณเกือบ 100 คน ก็ต้องประเมินว่าควรรับวัคซีนหรือไม่เช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่วิตกกังวลและจะมาขอรับวัคซีนกว่า 600 คน ตัวเลขนี้นับว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมาก ต้องมีการประเมิน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"