ฆ่าอุกอาจ "เสี่ยสด" เศรษฐีเจ้าของสวนยางพารา ทุเรียนในอำเภอสวี 2 คนร้ายขับรถมาหาถึงบ้าน เจรจากันชั่วครู่ ก่อนหนึ่งในนั้นชักปืนจ่อยิง 3 นัดซ้อนตายคาที่แล้วพากันหลบหนี ตำรวจพบปมมรดกที่พ่อทิ้งไว้ได้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งกับญาติ 
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 มิถุนายนนี้ พ.ต.ต.สมชาย บุญเกิด สว.สส.สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 12 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร, พ.ต.ท.อัมพร ธนาพิทักษ์กุล สวป. หน่วยกู้ภัยเขาทะลุ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยทวีทรัพย์ เป็นบ้านหลังใหญ่ 2 ชั้น หรูหราสวยงาม มูลค่าหลายล้านบาท ที่หน้าประตูโรงเก็บรถยนต์ข้างบ้าน พบศพนายวสันต์ แก้วชลคราม อายุ 31 ปี หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “เสี่ยสด” เจ้าของสวนยางพาราและสวนทุเรียน สภาพศพนอนคว่ำหน้า นุ่งกางเกงขาสั้น 2 ส่วนสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเหลือง อยู่ใกล้กับท้ายรถยนต์กระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บท 8374 ชุมพร มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด เข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด กลางลำคอ 1 นัด และหัวไหล่ด้านซ้าย 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกอยู่ 3 ปลอก และพบรอยล้อรถยนต์กระบะของคนร้ายที่ขับเข้ามาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนปืนและบันทึกภาพล้อรถยนต์เก็บเป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันก็วิทยุให้ตำรวจในทุกพื้นที่ซึ่งคาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี สกัดจับ แต่ยังไร้วี่แวว
    จากการสอบสวน นางสาวปรัชญาณีย์ สระทองเลื่อน อายุ 29 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า นายวสันต์ หรือ “เสี่ยสด” ขับรถคันดังกล่าวกลับมาจากไปส่งลูกสาวอายุ 8 ขวบ ที่โรงเรียนประถมศึกษาประจำตำบล ขณะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงรถ ปรากฏว่าได้มีรถยนต์กระบะสี่ประตู สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ เจ้ามาจอดที่หน้าบ้าน แล้วมีชายฉกรรจ์ 2 คน เดินลงมาจากรถ โดย 1 ใน 2 คนร้าย ศีรษะด้านหน้าล้าน เดินเข้าหาสามีแล้วนำเอกสารบางอย่างที่ถือลงมาจากรถด้วยยื่นให้สามีดู จากนั้นทั้ง 3 คนได้ยืนคุยกันพึมพำอยู่ที่หน้าประตูโรงรถ ซึ่งตนเห็นว่าทั้งหมดยืนคุยกันมีฝนตกลงมาปรอยๆ จึงเอ่ยปากเรียกให้เข้ามานั่งคุยในบ้าน พร้อมทั้งเดินเข้าไปจะเอาน้ำมาให้ดื่ม แต่ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้น 3 นัด เห็นสามีถูกยิงล้ม ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งเข้าบ้านปิดล็อกประตูทันที จากนั้นได้ยินเสียงคนร้ายขับรถออกไป จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว
     สำหรับสาเหตุการบุกฆ่าเสี่ยสดครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากความขัดแย้งเรื่องมรดก ซึ่งหลังจากบิดาของนายวสันต์ หรือเสี่ยสด ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ทิ้งมรดกทั้งที่ดิน สวนทุเรียน สวนยางพารา และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนมาก มูลค่าหลายล้านบาท ทั้งในพื้นที่ อ.สวี และ อ.ท่าแซะ แต่ผู้ตายยังมีความขัดแย้งกับผู้ญาติคนอื่นที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะเกิดเหตุคนร้าย 2 คน ซึ่งอาจจะรู้จักกับเสี่ยสดมาก่อน ได้ขับรถกระบะมาหาเพื่อนำเอกสารบางอย่างมาให้เซ็น แต่อาจจะถูกปฏิเสธ จึงทำให้ 1 ใน 2 คนร้ายชักอาวุธปืนจ่อยิง 3 นัดซ้อน จนตายคาที่แล้วขับรถหลบหนีดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว จะได้เรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป.