ศาลไต่สวนการตาย เหยื่อ‘อดีตผกก.โจ้’


เพิ่มเพื่อน    

 

จเรตำรวจเรียกสอบ "ทนายษิทรา" ส่งหลักฐานคลิปถุงดำคลุมหัวเข้าสู่สำนวน แจ้งข้อหาผิดวินัยร้ายแรง "อดีต ผกก.โจ้-พวก" ด้านทนายตั้มระบุได้คลิปจาก ตร.ชั้นผู้น้อย ยันไม่ได้รับงานจากใคร อัยการยื่นคำร้องขอไต่สวนการตายเหยื่ออดีต ผกก.ดัง ศาลนัด 4-5 ต.ค.นี้

    เมื่อวันที่ 14 กันยายน พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจ ​แห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการ​ตรวจสอบวินัยร้ายแรง​ กรณีเหตุการณ์​อดีต ผกก.โจ้​ใช้ถุงดำคลุมหัว​ผู้ต้องหา​คดียาเสพติด ​เปิดเผยว่า​  วันนี้ได้เชิญนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม​ มาให้ปากคำ​ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของคลิปและรายละเอียด​ทั้งหมด​ โดยคณะทำงานจะรวบรวมพยานหลักฐาน​ให้แล้วเสร็จ​ จากนั้นจะเข้าไปแจ้งข้อหาแก่​นายตำรวจทั้ง 7​ นายภายในเรือนจำ​ ซึ่งจะให้สิทธิ์​ทั้ง 7 นายสามารถชี้แจงข้อเท็จจริง​ได้ทุกเรื่อง​ แต่ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ การตรวจสอบครั้งนี้​คณะทำงานของตนเน้นตรวจสอบเพื่อลงโทษ​ทางวินิย ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา
ส่วนประเด็น​ที่มีกระแสข่าว​ว่า​ ที่มาของคลิปเกิดจากความขัดแย้งของตำรวจชุดจับกุมยาเสพติด​นั้น​ รองจเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า จะยังไม่มีการตรวจสอบในชั้นนี้เนื่องจากเป็นคนละประเด็น​ แต่ยืนยันว่าที่มาของคลิปไม่มีผลต่อการพิจารณา​โทษทางวินัย​นายตำรวจทั้ง 7 นาย​ ซึ่งโทษจะพิจารณา​เป็นรายบุคคล​ตามพยานหลักฐาน​และการกระทำ การสอบปากคำในวันนี้​หากทนายตั้มปฏิเสธ​ที่จะบอกที่มาของคลิปดังกล่าว ​ก็ไม่เป็นอุปสรรค​ต่อการสอบสวน​ เนื่องจากตำรวจมีขั้นตอนการสอบสวน​ อีกทั้งมีพยานหลักฐาน​อย่างอื่นประกอบ
ต่อมานายษิทรา​ หรือ​ทนายตั้ม​ ได้เดินทางเข้าพบคณะสอบสวน​  พร้อม​ทั้งแสดง​ทรัมป์ไดรฟ์​ที่ภายในบรรจุข้อมูลคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นหลักฐานพฤติกรรม​ของ​นายตำรวจทั้ง 7 นาย​ พร้อมยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจ​และพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจ ส่วนจะมีการเปิดเผยข้อมูลกับสื่อได้หรือไม่นั้นต้องขอปรึกษา​เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเข้าให้ปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง นายษิ​ทรา​เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้ได้นำคลิปที่มีการโพสต์​ลงสื่อ​ต่างๆ มามอบให้คณะกรรมการ​จเรตำรวจ​แห่งชาติตรวจสอบ ในคดีตำรวจ 7 นาย​ ซ้อมทรมาน​ผู้ต้องหาคดียาเสพติด​จนเสียชีวิต​ ก่อนที่จะนำเข้าสู่สำนวนคดี​ เบื้องต้น​ทราบว่า​คณะกรรมการ​สอบสวนจเรตำรวจ​แห่งชาติได้ดำเนินการแจ้งข้อหา​ผิดวินัย​ร้ายแรงแก่ตำรวจทั้ง 7 นายแล้ว​ โดยผู้บัญชาการ​ตำร​วจ​แห่งชาติได้สั่งให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว​
การสอบปากคำวันนี้​ คณะกรรมการสอบสวนได้สอบถามถึงที่มาของคลิปดังกล่าว​ ตัวเองได้ให้ข้อมูลว่ามาจากตำรวจชั้นผู้น้อย​นายหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกันอีก​ คณะกรรมการ​สอบสวนก็ไม่ได้กดดันให้บอกรายละเอียดทั้งหมด​ การเข้าให้ปากคำวันนี้ถือว่าตัวเองเป็นปากสุดท้ายในฐานะพยาน​ ขอยืนยันว่าตนไม่ได้รับงานมาจากใครเพื่อโจมตีอดีต  ผกก.โจ้ ​หรือกลั่นแกล้งใคร​ ​เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยเจอและไม่เคยรู้จักกับตำรวจทั้ง 7 นายเป็นการส่วนตัว​ ส่วนอดีต ผกก.โจ้​ยอมรับว่าเคยเจอเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ​สอบสวนของจเรตำรวจแห่งชาติ​เปิดเผยการสอบสวนเบื้องต้นว่า​ มีมติแจ้ง​ผิดข้อหาวินัยร้ายแรงแก่ตำรวจทั้ง​ 7​ นาย​ ส่วนคลิปที่ได้รับจากทนายตั้มจะนำส่งให้กองพิสูจน์​หลักฐาน​ดำเนินการตรวจพิสูจน์​พยานหลักฐานเพื่อเข้าสู่สำนวนคดี​​ รวมถึงตรวจสอบวิเคราะห์​คัดแยกเสียงในคลิปดังกล่าว​เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม​ เช่น​ว่ามีการเรียกรับเงินหรือไม่​ คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบพยานหลักฐาน​ทั้งหมดภายในสัปดาห์​นี้​ และในสัปดาห์​หน้าจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรงแก่อดีตตำรวจทั้ง 7​ นายที่​เรือนจำคลองเปรม​ เพื่อให้ทั้งหมดชี้แจงข้อเท็จจริง​ตามกระบวนการพิจารณา​โทษ​ต่อไป
วันเดียวกัน พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ ขอไต่สวนการเสียชีวิตของนายจิระพงศ์ หรือมาวิน เหยื่อในคดีอดีต ผกก.โจ้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ซึ่งมีการกล่าวหาว่าการเสียชีวิตของนายจิระพงศ์ เกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน และเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่
โดยขอให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 150  วรรคห้า แสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด กับเหตุกับพฤติการณ์ที่ตาย และหากตายโดยคนทำร้าย ใครเป็นผู้กระทำเท่าที่จะทราบได้ ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครสวรรค์รับคำร้องไว้เพื่อทำการไต่สวนตาม ป.วิ.อ.  มาตรา 150 โดยกำหนดนัดไต่สวนวันที่ 4 และ 5 ต.ค.นี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"