เลขาธิการสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียนนำคณะสื่อมวลชนอาเซียนและจีน ลงพื้นที่ทัศนศึกษาการจัดการท่องเที่ยวโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของไทย ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่างประทับใจเมื่อได้แต่งชุดไทยย้อนยุค ตามรอยละครเรื่อง

“บุพเพสันนิวาส” เข้าชมวัดไชยวัฒนาราม

 

เมื่อตอนสายวันที่ 19 มิถนายน 2561 นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียนได้นำคณะสื่อมวลชนอาเซียนและจีน รวม 10 ประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติการเยี่ยมเยือนเพื่อการเรียนรู้ ระหว่างสื่ออาเซียน (การท่องเที่ยวไทย-ลาว) ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมนักข่าวลาว และสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งอาเซียน ลงพื้นที่ทัศนศึกษาการจัดการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของไทย ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีสถานท่ีท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญที่มีชื่อเสียง

 

การทระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดนำทัศนศึกษาวัดใหญ่ไชยมงคล วัดพนัญเชิง วัดมงคลบพิตร จากนั้นแต่งตัวชุดไทยย้อนยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามรอยละครโทรทัศน์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” เพื่อเข้าชมวัดไชยวัฒนาราม สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่สื่อมวลชนอาเซียนตามๆกัน บางคนตื่นเต้นดีใจที่ได้ใส่ชุดไทย โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวชายหญิงจากไทย  สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา ที่ช่วยกันสวมใส่เครื่องประดับ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับเครื่องประดับดี 

 

ส่วนผู้สื่อข่าวจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน อยากจะแต่งชุดไทยบ้างแต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากไม่มีขนาดที่พอดีกับตัวเอง นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวจากจีน เปิดเผยว่า รู้จักการแต่งกายย้อนยุคของไทย จากละครโทรทัศน์เรื่อง”บุพเพสันนิวาส” ที่โด่งดังไปถึงประเทศจีน และยังทำหน้าที่อธิบายให้ผู้สื่อข่าวชาติอื่นๆได้ทราบอย่างละเอียด ด้วย 

 

คณะสื่อมวลชนอาเซียนและจีน ได้เดินฟังบรรยายการเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนาราม พร้อมถ่ายภาพมุมต่างๆ ในชุดไทยด้วยความประทับใจ เพื่อนำกลับไปเผยแพร่ในประเทศของตน ก่อนจะไปทัศนศึกษาวัดพระศรีสรรเพ็ชร และวังช้าง ต่างสนุกสานที่ได้ขี่ช้างชมวิว ปิดท้ายด้วยการล่องเรือวัชราชัย ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก

 

นายวรสัก ประวงเวียงคำ รอง ผอ.วิทยุแห่งชาติลาว และกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวลาว เปิดเผยว่า สื่อมวลชนที่มาร่วมโครงการ มีความชื่นชมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมนุมและท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น โดยจะนำกลับไปเผยแพร่ในประเทศของแต่ละคน.