มติกอ.ตั้งกก.สอบ วินัยร้ายแรงเนตร ชี้เลินเล่อคดีบอส


เพิ่มเพื่อน    

ก.อ.มีมติเอกฉันท์ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง "เนตร  นาคสุข" รอง อสส.สั่งไม่ฟ้อง "บอส วรยุทธ" ตั้ง "ธนพิชญ์" ปธ.สอบภายใน 60 วัน โทษสูงสุดไล่ออกจากราชการ "พชร" เผยมติ 9 เสียงชี้ขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่อ ค่อนข้างร้ายแรง 
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้เป็นประธานการประชุม ก.อ. โดยมีวาระสำคัญเกี่ยวกับผลสรุปสอบสวนทางวินัยนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีที่นายเนตรมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม  สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3  ก.ย.55 โดยมีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย ซึ่งมีความเห็นว่านายเนตร นาคสุข  ผิดวินัยไม่ร้ายแรง เนื่องจากไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรงดบำเหน็จหรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี  และไม่เสนอให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส
        ทั้งนี้ หลังจากมีการเลื่อนประชุม ก.อ.เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา  เนื่องจาก ก.อ.บางคนยังไม่ได้รับเอกสารสรุปผลสอบ ทำให้ ก.อ.บางคนได้รับเอกสารช้าและเอกสารมีจำนวนมากนับร้อยหน้า ทำให้ไม่สามารถอ่านเอกสารได้ทัน   
    ภายหลังประชุมเเล้วเสร็จ เวลา 13.00 น. นายพชรเปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุม ก.อ.กรณีของนายเนตร นาคสุข ที่ประชุมมีมติ 9 เสียงว่านายเนตรขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่อ อย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยวินัยร้ายแรงมีโทษทางข้าราชการสูงสุดคือการไล่ออก หากผู้เสียหายไม่พอใจหรือไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ ทั้งนี้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อสส.  กับนายไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส.งดออกเสียง ซึ่งที่ประชุม ก.อ.ยังได้ตั้งนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการ และหลังจากนี้นายธนพิชญ์จะเป็นฝ่ายหากรรมการอีก 2 คน และเลขานุการอีก 1 คน 
    นายพชรกล่าวอีกว่า วันนี้ถือว่าได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตรแล้ว จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3 ครั้ง จะสอบในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่วนประเด็นที่นายเนตรจะยื่นหนังสือลาออกครั้งที่ 2 นั้น เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา สำหรับประเด็นที่นายวงศ์สกุลยื่นหนังสือต่อ ก.อ.ว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุม ก.อ.ได้พิจารณาแล้วและอนุมัติ และจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ 
    เมื่อถามว่า ก.อ.จะส่งมติว่านายเนตรผิดร้ายแรงให้ ป.ป.ช.หรือไม่  นายพชรกล่าวว่า ทั้งอัยการและ ป.ป.ช.ต่างคนต่างสอบและอาจมีการรวมสำนวนกันในอนาคตก็ได้ ส่วนกรณีที่มีอัยการเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วนั้น คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายเนตรที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็จะสอบสวนในประเด็นนี้ไปด้วย หลังจากนั้นจะนำเสนอผลสอบให้ ก.อ.พิจารณาลงโทษอัยการคนดังกล่าวด้วย
    นายพชรกล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมวันนี้มีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คน จาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน โดยผลการลงมติเห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายเเรงนายเนตร 9 เสียง และงดออกเสียง ได้แก่ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์, นายไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส. ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนต้องออกจากห้องประชุม และตนในฐานะเป็นประธาน  ก.อ.ก็งดออกเสียงเช่นกัน เนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"