รณรงค์งดดื่มได้ผล ภาษีเหล้า-เบียร์ตกรูด


เพิ่มเพื่อน    

“สรรพสามิต” หืดจับรีดภาษีปีงบ 61 หลังแนวโน้มจัดเก็บจากเหล้า-เบียร์เริ่มแผ่ว สาเหตุแผนรณรงค์เรื่องสุขภาพของกระทรวงสาธารณะสุขได้ผล ทำคนบริโภคแอลกอฮอร์วูบ รับเป้าหมายรีดภาษีปีงบ 62 ที่ 6.2 แสนล้านบาท แจงขอถกรายละเอียดหลังเกษตรกรผู้ปลูกใบยาอ้อนขอขยับใช้อัตราภาษีบุหรี่เต็มอัตราที่ 40% ออกไปก่อน

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2562 กรมฯ ได้รับเป้าหมายให้เก็บภาษีให้ได้ 6.2 แสนล้านบาท ซึ่งได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี และเร่งปราบปรามสินค้าหนีภาษีทำให้ได้สามารถจัดเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้น และเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีรายอื่น
สำหรับภาพรวมการเก็บภาษีปีงบประมาณ 2561 มีเป้าหมาย 6 แสนล้านบาท คาดว่าจะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ซึ่งอยู่ระหว่างประเมินตัวเลขการเก็บภาษีที่จะได้จริงกับทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการเก็บรายได้โดยรวมของรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาลยังเกินเป้าหมายอยู่ 4% หรือ 6 หมื่นล้านบาท

โดยสาเหตุที่การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นผลจากการรณรงค์เรื่องสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผลทำให้คนบริโภคสุรา เบียร์ ลดลงค่อนข้างมาก โดยจากการรายงานวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงเดือน ต.ค. 2560 ถึง เม.ย. 2561 มีการบริโภคเบียร์ลดลงถึง 10% ซึ่งส่งผลให้การเก็บภาษีสรรพสามิตเบียร์ต่ำกว่าเป้าหมาย

นายณัฐกร กล่าวอีกว่า การจัดเก็บภาษีบุหรี่ล่าสุดของปีงบประมาณ 2561 ยังเกินเป้าหมายอยู่ 4.2 พันล้านบาท แม้ว่าอัตราภาษีบุหรี่จะเพิ่มขึ้น แต่ยังมีการบริโภคบุหรี่ที่มีราคาถูกไม่เกินซองละ 60 บาท เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

“เรื่องข้อเสนอของภาคเกษตรผู้ปลูกใบยาสูบที่ต้องการให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ตามมูลค่าจาก 20% เป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 ออกไปก่อนนั้น ยังต้องพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบ เนื่องจากที่ผ่านมาการที่อัตราภาษีบุหรี่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นเด็กและเยาวชนเข้าถึงการสูบบุหรี่ได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่ และนโยบายของกระทรวงสาธารสุข ที่ต้องการให้มีการลดบริโภคบุหรี่ให้มากที่สุด” นายณัฐกร กล่าว

ทั้งนี้ กฎหมายภาษีสรรพสามิตใหม่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2560 มีการเก็บภาษีบุหรี่ตามปริมาณ 1.20 บาทต่อมวน และตามมูลค่า 20% สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาท และ 40% สำหรับบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท ทั้งนี้เมื่อถึงวันที่ 1 ต.ค. 2562 ที่ปรับภาษีตามมูลค่าเป็น 40% เท่ากัน จะทำให้บุหรี่ที่ราคา 60 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 80 บาท และบุหรี่ที่ปัจจุบันราคา 100 บาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 160 บาท

“กรมสรรพสามิตยอมรับว่า ภาษีบุหรี่ที่สูงทำให้บุหรี่แพงขึ้นมาก ทำให้เกิดแรงจูงใจในการลักลอบนำเข้าบุหรี่ปลอมและบุหรี่เลี่ยงภาษีมากขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิตได้เข้มงวดปราบปรามผู้กระทำผิด ทำให้การทำผิดลดลง ส่งผลให้กรมเก็บภาษีบุหรี่ได้เพิ่มขึ้น” นายณัฐกร กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"