‘ชัยวุฒิ’ชงบุหรี่ไฟฟ้า ถูกกม.เจอ‘บิ๊กตู่’ค้าน


เพิ่มเพื่อน    

ครม.ถกโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ รมว.ดีอีเอสเสนอทบทวนแบนบุหรี่ไฟฟ้า อ้างนักสูบนิยมมาก เมินแบบมวน เก็บภาษีต่ำกว่าเป้า เกษตรกรปลูกใบยาสูบกระทบหนัก ฟุ้งอนาคตตั้งโรงงานส่งออกได้ ยกต่างประเทศไม่ฝืนเปลี่ยนให้ถูก กม. นายกฯ เบรกหัวทิ่ม ยันหมอชี้อันตรายต่อสุขภาพ
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างภาษีบุหรี่​ช่วงหนึ่ง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่าควรพิจารณาให้บุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไอคอสถูกกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคบุหรี่มวนลดลง หันไปบริโภคบุหรี่รูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้จัดเก็บภาษีของรัฐน้อยลงตามไปด้วย และเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในประเทศก็ได้รับผลกระทบจากราคาใบยาสูบตกต่ำ ทำให้รัฐต้องจ่ายชดเชยช่วยเหลือ 
นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า นอกจากนี้โครงสร้างภาษีของประเทศไทย ทำให้บุหรี่ไทยหลายยี่ห้อที่โรงงานยาสูบผลิตและจำหน่ายในประเทศราคาสูงกว่ายี่ห้อต่างประเทศที่นำเข้ามาค่อนข้างมาก ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจึงหันไปสูบบุหรี่ต่างประเทศ ตรงนี้ทำให้โรงงานยาสูบขาดทุนและบุหรี่ไทยจะตาย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายชัยวุฒิได้นำเสนอที่ประชุมด้วยว่า หากทำให้บุหรี่ไอคอสถูกกฎหมายจะช่วยลดการขาดทุนของโรงงานยาสูบ เป็นการช่วยเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ​ รัฐไม่ต้องจ่ายชดเชยอีกต่อไป และจะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคบุหรี่ประเภทนี้เป็นจำนวนมาก และในอนาคตอาจมีการตั้งโรงงานเพื่อส่งออก​ เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรใบยาสูบด้วย
พร้อมกันนี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังได้ยกตัวอย่างหลายประเทศในยุโรป รวมถึงประเทศญี่ปุ่นที่ทำให้บุหรี่ไอคอสถูกกฎหมาย และยังได้หยิบยกงานวิจัยจำนวนมากที่ระบุว่า บุหรี่ไอคอสมีผลกระทบต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวน ดังนั้นการทำให้ถูกต้องเป็นการปรับตัวที่ให้ผลดีมากกว่าและไม่เป็นการฝืนธรรมชาติ
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า สาธารณสุขและแพทย์ยังยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความอันตรายอยู่ ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานานาประเทศมีมาตรการควบคุมและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงประเทศไทย หลังจากมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในยุโรปเมื่อราว 13 ปีที่แล้ว บุหรี่ไฟฟ้าก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากคำกล่าวอ้างจากผู้ผลิตว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ปกติ แต่จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อปี 2016 พบว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้ผู้ใช้เลิกบุหรี่มวน ขณะที่องค์กรด้านสุขภาพและรัฐบาลหลายประเทศออกคำเตือนว่า บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวนส่งผลเสียต่อสุขภาพไม่ต่างกัน
วันเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28  ก.ย.64 เห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.64  เป็นต้นไป ส่วนจะเป็นอัตราใดนั้นขอให้รอประกาศไม่เกิน  1-2 วันนี้ ทั้งนี้ วันที่ 30 ก.ย. กรมสรรพสามิตจะลงพื้นที่ตรวจสต๊อกคงเหลือของบุหรี่เพื่อป้องกันมิให้มีการกักตุน หรือฉวยโอกาสในการใช้อัตราภาษีเดิม ซึ่งบุหรี่ในสต๊อกคงเหลือทั้งหมดจะต้องใช้อัตราภาษีใหม่
รายงานข่าวกระทรวงการคลังระบุว่า โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่มีการปรับทั้งหมด ในส่วนการจัดเก็บตามปริมาณจาก 1.20 บาทต่อมวน เป็น 1.25 บาทต่อมวน ขณะที่การเก็บภาษีตามมูลค่ายังเป็น 2 อัตรา จากที่เก็บ 20% ของราคาขายปลีกซองละไม่เกิน 60 บาท และ  40% สำหรับราคาขายปลีกที่เกิน 60 บาท เป็น  25% ของราคาขายปลีกซองละไม่เกิน 72 บาท และ  42% สำหรับราคาขายปลีกที่เกิน 72 บาท
"ครม.เห็นชอบภาษีบุหรี่ใหม่ คาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่ขยับขึ้นอีกซองละ 6-8 บาท โดยกรมสรรพสามิตจะชี้แจงรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ทั้งหมดในวันที่ 30 ก.ย. เวลา 16.00 น. หลังอัตราภาษีใหม่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว" รายงานข่าวระบุ
นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ถ้ามีการปรับขึ้นภาษี  ยสท.ต้องปรับราคาขายขึ้นตามเพื่อให้อยู่ได้ ส่วนจะปรับเท่าไหร่นั้นต้องรอติดตามกรมสรรพสามิต และต้องนำผลเข้าหารือกับคณะกรรมการด้านราคา ยสท.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามห่วงเรื่องบุหรี่เถื่อนจะเพิ่มกระฉูด ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 20% แล้ว รวมทั้งการสูบยาเส้นที่มีผลต่อสุขภาพมากกว่า ก็ได้เพิ่มจาก 1 หมื่นล้านมวน เป็น 3.7 หมื่นล้านมวนต่อปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"