เหล่าทัพแจงยิบ จ่อเลิกซื้ออาวุธ! ยืดอายุ‘ของเก่า’


เพิ่มเพื่อน    

เหล่าทัพปรับตัวใช้งบฯ 65  ทบ.แถลง 1 ปี เลิก-ลดซื้ออาวุธ ตปท. เน้นซ่อมบำรุง ขณะที่ ทร.เตรียมโละเรือร่วม 10 ลำ ยืดอายุใช้งานของเก่า ด้าน ทอ.ควบรวมฝูงบินเอฟ-16 "บิ๊กโต" รับไม้ "บิ๊กต่อ" นั่งแม่ทัพภาค 1 กำลังหลัก ปกป้องสถาบัน-รักษาพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์
    เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ให้แก่ พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ประกอบด้วยพิธีลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 และพิธีส่งมอบการบังคับบัญชา แม่ทัพภาคที่ 1 ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง กองทัพภาคที่ 1 ร่วมพิธี
    โดย พล.อ.เจริญชัยกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับความร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดีจากผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานทุกคน ส่งผลให้ภารกิจต่างๆ ของกองทัพภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบจากผู้บังคับบัญชาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้บังคับบัญชา และเป็นที่ยอมรับของประชาชน
    กองทัพภาคที่ 1 เป็นกำลังหลักของกองทัพบกในการปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศ ซึ่งภายใต้การนำของ พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง จะมีความเจริญก้าวหน้า เพื่อสร้างความผาสุกให้เกิดแก่พี่น้องประชาชนและประเทศชาติสืบไป
    ขณะที่ พล.ท.สุขสรรค์กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยทหารที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงจัดตั้งขึ้น และได้ทรงไว้วางพระราชหฤทัยในการเป็นหน่วยทหารที่มีหน้าที่ในการปกปักรักษาความมั่นคงของประเทศชาติ รักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และเป็นที่ยอมรับเชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของอดีตผู้บังคับบัญชาที่ผ่านมาทุกท่าน ในอันที่จะเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต โดยจะสืบสานงานตามแนวทางและมาตรฐานในการปฏิบัติงานของ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ได้วางรากฐานไว้ต่อไปให้ดีที่สุด
    ทั้งนี้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ลำดับที่ 54 ในขณะที่ พล.ท. สุขสรรค์ หนองบัวล่าง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1ลำดับที่ 55
    วันเดียวกันนี้ พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก แถลงผลการปฏิบัติงานกองทัพบกประจำปี 2564 และแนวทางการพัฒนากองทัพบกตามช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63-30 ก.ย.66 ว่า กองทัพบกมีแนวทางยกเลิกหรือลดจำนวนโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ราคาสูงจากต่างประเทศให้มากที่สุด และสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศมาใช้มากขึ้น ภาพรวมคือเราจะพยายามรักษาสภาพยุทโธปกรณ์ให้ใช้งานได้ดีที่สุด โดยเน้นการซ่อมบำรุงรักษาสิ่งอุปกรณ์นั้น เพื่อใช้งานได้ดีที่สุดและนานที่สุดเพื่อให้ใช้งานได้ แต่หากเราไม่สามารถรักษาได้ก็ซื้อจากต่างประเทศ แต่เป็นจำนวนน้อย  
    นอกจากนั้นยังคงให้ความสำคัญต่อทหารประจำการ และกำลังพลชั้นผู้น้อย ป้องกันการไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ได้รับสิทธิตามที่พึงจะได้ และให้โอกาสความก้าวหน้าในการรับราชการทหารต่อ การพัฒนาระบบการตรวจเลือก ทหาร โดยส่งเสริมการสมัครใจให้มากขึ้น เพื่อลดจำนวนการเกณฑ์ทหารลง และเร่งรัดการนำข้าราชการพลเรือนกลาโหมมาบรรจุทดแทนทหารประจำการ
    โฆษกกองทัพบกแถลงว่า กองทัพยังคงเน้นย้ำในเรื่องการปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมระบุว่า กำลังพลและข้าราชการทุกคน นายทหาร นายสิบ นายทหารกองประจำการ เรามีระเบียบวินัยและปฏิบัติตามแนวทางที่กองทัพบกกำหนดในการพิทักษ์ รักษาสถาบัน รวมถึงทำหน้าที่ด้วยการสื่อการรับรู้ให้กับผู้ร่วมงานและประชาชน เช่น กองทัพบกจัดตั้งอาสาสมัครกิจการพลเรือนที่เป็นประชาชนสมัครใจและมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน เราก็บอกเล่าให้เขาไปเล่าต่อเพื่อให้เข้าใจถึงพระมหากรุณาธิคุณสถาบันที่มีต่อประเทศและประชาชนชาวไทย  
    ส่วนการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาที่มีการสู้รบ โดยเฉพาะขณะนี้มีการเคลื่อนไหวขบวนการค้าอาวุธสงครามว่า กองทัพบกโดย 7 กองกำลังชายแดน มีวิธีปฏิบัติในการดูแลเรื่องดังกล่าวที่ชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ดูแลเฝ้าระวังแนวชายแดนอย่างเต็มที่ เราไม่ยอมให้มีการลักลอบหรือนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยเด็ดขาด ในขณะที่การดูแลคลังอาวุธของกองทัพนั้น กองทัพบกมีมาตรการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างดี มีระเบียบการตรวจตราที่ชัดเจนและมีผู้รับผิดชอบ และยืนยันว่าไม่มีอาวุธ หลุดจากคลังกองทัพแน่นอน 
    พ.ท.หญิงนุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เผยว่า การเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์และการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ คลัง กระสุน  คลังยุทโธปกรณ์ เน้นให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด ได้ก่อสร้าง ดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์เป็นคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ควบคุม อุณหภูมิและความชื้น จำนวน 34 หลัง สำหรับเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ยุทโธปกรณ์ที่มีมูลค่าสูง ให้มีสถานที่เก็บเหมาะสม ป้องกันการชำรุดและช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น 
    กองทัพบกมุ่งเน้นการซ่อมคืนสภาพยุทโธปกรณ์ เพื่อดำรงสภาพยืด อายุการใช้งาน รวมถึงซ่อมปรับปรุงยุทโธปกรณ์และชิ้นส่วนซ่อมสำคัญให้สามารถดำรงสภาพการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ทดแทนการจัดหาหรือซื้อใหม่ ที่ผ่านมามีการดำเนินการที่สำคัญ อาทิ โครงการซ่อมสร้างเครื่องยนต์รถถัง, โครงการซ่อมปรับปรุงรถสายพานลำเลียง M 113 เป็น M 113 A2I รวมถึงสิ่งอุปกรณ์สายพลาธิการ อาทิ จักรเย็บผ้า อุปกรณ์เครื่องสนาม รถยก เป็นต้น เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่ พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กองทัพเรือ  กองทัพอากาศ ต่างประสบปัญหางบประมาณเพื่อเดินหน้าตามแผนพัฒนากองทัพเช่นกัน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ถูกตัดงบไปเยียวยาประชาชนจำนวนมาก ทำให้การจัดหาเรือรบ-  เครื่องบินรบ รวมไปถึงอากาศยานแบบต่างๆ ในโครงการใหญ่ต้องชะลอออกไป และใช้แนวทางในการซ่อมบำรุงเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยกองทัพเรือกำลังจะปลดระวางประจำการเรือรบประมาณ 10 ลำ และเตรียมส่งมอบให้กับหน่วยงานหรือเอกชนที่ต้องการ เนื่องจากยังมีงบประมาณในการดูแลรักษาในแต่ละเดือนประมาณ 3 แสนบาท และเลื่อนแผนการจัดหาเรือลำใหม่มาทดแทนไปก่อน ขณะที่กองทัพอากาศมีการควบรวมฝูงบิน 102 ไปอยู่กับฝูงบิน 103 เนื่องจากเครื่องบิน F-16 ADF ถูกปลดประจำการหลายเครื่อง และเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ ทอ.จึงได้บริหารใหม่ โดยนำเครื่องที่เหลือมาประจำการที่ฝูงบิน 103 ซึ่งมีเครื่องบิน F-16 AB ประจำการอยู่ด้วยเช่นกัน.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"