‘บิ๊กป้อม’ทุบโต๊ะ!ไม่ปรับครม.-พปชร.


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กป้อม" ยืนยันไม่มีการปรับ ครม. และไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใน พปชร. ลั่นตอนนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น ขอแก้ปัญหาประเทศก่อน   "ชัยวุฒิ" ยัน "สุพัฒนพงษ์" มีผลงาน เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดจากตำแหน่งรองนายกฯและ รมว.พลังงาน ขณะที่ประชาธิปัตย์ฟันเฟิร์ม "ดร.ซุป" ไม่ร่วม ครม. เลือกตั้งครั้งหน้า "จุรินทร์" เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค 
    เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ท่ามกลางกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี 2/5 ในเดือนต.ค. ทาบนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) นั่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ควบ รมว.พลังงาน แทนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะให้ควบรองนายกฯ และกำลังหาบุคคลที่เหมาะสมมาเป็น รมว.การต่างประเทศ แทนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศนั้น
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าไม่มีการปรับ ครม.และไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอะไรในพรรค ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพราะรัฐบาลยังต้องใช้เวลาแก้ปัญหาประเทศก่อน โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ และนายกฯ ยังไม่มีมาปรึกษาเรื่องปรับ ครม. ตอนนี้ยังไม่มีการปรับ ครม.
    ส่วนนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจจะมีการปรับนายดอน ปรมัตถ์วินัย ออกจากรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ รวมถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ว่าการปรับครม. ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากมีการปรับรัฐมนตรี 2 คนออกก่อนหน้านี้ ส่วนจะมีใครถูกปรับออกอีกนั้นถือว่ายังคงเร็วไปที่จะสรุป 
    เขาแย้งว่า ข่าวว่าจะปรับนายสุพัฒนพงษ์ออก มองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านทำงานได้ดี และมีผลงานในการเยียวยาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนเรื่องเศรษฐกิจเยอะ และในข่าวคนที่จะมาแทนไม่ใช่คนที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐด้วย ถ้ารอบนี้มีการปรับก็คงจะเป็นคนในพรรคพลังประชารัฐ ไม่น่าเป็นคนนอก พรรคจะได้เข้มแข็ง ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่
    รมว.ดีอีเอสให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวลานี้ว่า ยืนยัน ส.ส.ยังคงรักกันเหมือนเดิม ยังรักหัวหน้าพรรคพร้อมจะทำงานร่วมกับพรรคและสนับสนุนนายกฯเหมือนเดิม ซึ่งทุกคนที่เข้ามาร่วมทำงานในพรรคก็มาเริ่มแรกด้วยการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ดูแล ส.ส.ทุกคนอย่างดีในการทำงาน สมาชิกไม่มีใครมีปัญหา คนที่มีปัญหาคือคนนอกพรรคทั้งนั้น 
    ส่วนกรณีที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ จะออกไปตั้งพรรคใหม่นั้น นายชัยวุฒิกล่าวว่า หากจะออกไปตั้งพรรคใหม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ถือว่า พ.อ.สุชาติไม่ใช่คนในพรรค ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ ส.ส. ก็อย่าไปให้ความสำคัญมาก ฟังเสียง ส.ส.ในพรรคดีกว่า
เสนอชื่อ"จุรินทร์"เป็นนายกฯ
    รมว.ดีอีเอสยังกล่าวถึงผู้ชุมนุมบุกต่อต้านขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำที่ จ.นนทบุรี ว่า ผู้ชุมนุมมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ควรจะเคารพการทำหน้าที่ของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ ที่ไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวนนทบุรีและ กทม. ดังนั้นควรจะมาช่วยกันทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งเรื่องการเมืองควรจะเอาไว้ก่อน ควรจะให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติก่อน เนื่องจากตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วม
    "เล่นการเมืองมากไปประเทศก็ไปไม่ได้ ประชาชนก็จะเดือดร้อน ก็อยากฝากไปถึงผู้ชุมนุมทุกคนให้คำนึงถึงประเทศชาติ ให้รักประเทศชาติมากๆ ส่วนที่พบว่าผู้ชุมนุมทุบรถตนนั้น ไม่เป็นไร ปล่อยไป ไม่ซีเรียส" นายชัยวุฒิกล่าว
    ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาประกาศชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าคนที่เป็นหัวหน้าพรรคคือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่านายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หากได้รับเสียงเพียงพอในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีประสบการณ์มากพอจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วเกือบทุกกระทรวง 
    ปัจจุบันในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการประกันรายได้สินค้าเกษตร รวมถึงการส่งออก ที่ทำได้จริง ตามที่เคยแถลงไว้กับประชาชน และถือว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
    นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ขณะที่บุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความพร้อม เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับประเทศหลายคนที่ยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด จึงยืนยันได้ว่านายจุรินทร์มีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี
    "ส่วนที่พรรคการเมืองเริ่มเดินสายประกาศเป้าจำนวนที่นั่ง ส.ส.นั้น ส่วนตัวมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกตัวเลข แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการส่งผู้สมัครทุกพื้นที่ โดยที่จังหวัดเพชรบูรณ์ยังคงส่งผู้สมัครเดิม คือนายยุพราช บัวอินทร์ และหวังว่าอดีต ส.ส. ภาคเหนือจะสามารถทวงที่นั่งคืนได้ทั้ง 13 ที่นั่ง และพื้นที่ใหม่ๆ ก็มั่นใจว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน" นายนิพนธ์ กล่าว
    นายนิพนธ์ยังกล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไร และอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี สำหรับสัดส่วนของพรรค ก็อยู่ที่แต่ละพรรคจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ย้ำว่าพันธสัญญาการร่วมคณะรัฐมนตรีและสัดส่วนต่างๆ ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
    นอกจากนี้ นายนิพนธ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ได้โควตามานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ควบ รมว.พลังงาน ว่าไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าว และเมื่อวานนี้ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นบุตรชายของนายศุภชัย ยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่เชื่อว่านายศุภชัยเป็นบุคลากรที่มีความสามารถและมีคุณค่าของพรรคประชาธิปัตย์ 
"ธีระชัย"หนุนสามนิ้ว?
    ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ยกตัวอย่างม็อบไล่นายกฯ ที่นนทบุรี เพราะประชาชนไม่นิยมตัวนายกฯ แล้ว โดยตนเองมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังอยากให้นายกฯ แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศอยู่ ส่วนม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้นก็มีเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นม็อบที่ผู้อยากเข้ามามีอำนาจให้การสนับสนุนอยู่ หวังว่าจะขับไล่นายกฯ สำเร็จ
    นายเสกสกลระบุว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ก็เป็นหน้าที่ต้องลงพื้นที่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ ได้ลงพื้นที่เช่นนี้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นการหาเสียงหรือเล่นละคร
    นายธีระชัยคงเคยชินกับการทำงานแบบเล่นละครตบตาประชาชน หวังผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง จนคิดว่าคนอื่นจะเป็นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ประเทศเกิดวิกฤตขนาดนี้ นายธีระชัยที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี ควรคำนึงถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าที่จะมาคิดถึงเรื่องทางการเมือง และการที่นายกฯ ประยุทธ์ลงพื้นที่ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ก็ลงพื้นที่เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันเพราะนายกฯ ประยุทธ์ลงพื้นที่เพื่อไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยแท้จริง และที่บอกว่านายกฯ ไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไปเพราะมีม็อบออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ ตนเองก็มองว่าน่าจะมีจำนวนน้อยกว่าเยอะ กับม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่มีนายธีระชัยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยุคที่โกงเงินชาวนาแล้วขนเงินหนีไปอยู่ต่างประเทศ มีม็อบออกมาไล่เป็นแสนเป็นล้านมากมายหลายเท่ากว่านี้มิใช่หรือ นายธีระชัยแกล้งลืมหรือความจำเสื่อมกันแน่
     "ม็อบสามนิ้วเหล่านี้เคยจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันฯ และออกมาปลุกระดมสร้างความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และบางคนไม่ใช่คนนนทบุรีด้วย คงถูกว่าจ้างมาจากที่อื่น การที่ออกมาพูดเช่นนี้เสมือนหนึ่งว่า นายธีระชัยต้องการสนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจกับม็อบกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่ นายธีระชัยก็คงมีกิเลสตัณหาอยากกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกหรือเปล่า จึงออกมาพูดจาเช่นนี้ บุญบารมีเก่าที่หินเคยหล่นใส่ตีนได้เป็นรัฐมนตรี คงอยากหาหินหล่นใส่อีก จึงต้องตอบแทนบุญคุณเจ้าของหินคนเดิมที่โกงเงินชาวนาหนีไปอยู่ต่างประเทศ จึงได้ออกมาพ่นน้ำลายน้ำเน่าใส่นายกฯ และรัฐบาล อย่าคิดว่าคนอื่นจะรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนชอบตีกินประเภทนี้เลย" นายเสกสกลกล่าว
     นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า เนื่องจากมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลงถึง 2 ตำแหน่ง ฉะนั้นถ้าจะมีการปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าตอนนี้รัฐบาลก็บริหารประเทศมาได้กว่า 2 ปีครึ่งแล้ว และเกือบ 3 ปีก็จะเข้า 3 ปีเดือนมีนาคมนี้ ฉะนั้นถ้าเปรียบเทียบเป็นวิ่งผลัด ก็คือวิ่งมา 3 ไม้ และจนไม้ 3 แล้วกำลังจะส่งไปถึงไม้ที่ 4 ฉะนั้นไม้ต้องไม่หล่น ต้องจับไม้ให้นิ่งแล้ววิ่งถึงเส้นชัยให้ได้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"