สุดเวทนา แม่วอนพาลูกชายคลั่งยาไปรักษา หลังถูกทำร้ายไม่เว้นวัน


เพิ่มเพื่อน    

3 ต.ค.64 - ชาวบ้านในเขต อ.ชนบท จ.ขอนแก่น  ต่างพากันขอความช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีที่นางหนูเพียร ตรีศรี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 บ้านโซ่ง ม. 1 ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกลูกชายที่ติดยาบ้า ทำร้ายร่างกาย จนพักอาศัยอยู่บ้านไม่ได้  จนญาติต้องพาหนีออกจากบ้าน ไปอยู่ตามที่ต่างๆ เพื่อหลบลูกชาย และอยากให้ทางราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือนางหนูเพียร และนำลูกชายไปบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด

ทั้งนี้นางหนูเพียร ซึ่งถูกลูกชายทำร้าย ที่บริเวณแขนข้างขวา และซี่โครงข้างขวา ระบุว่า  บาดแผลดังกล่าว ถูกนายชัยพิชิต ตรีศรี อายุ 28 ปี ลูกชาย ซึ่งติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้แม่กุญแจทุบที่แขน และใช้ด้ามเสียมตีที่ซี่โครงจนบาดเจ็บ  เพื่อนบ้านและลูกสาวจึงได้เข้าช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลชนบท   แต่บาดแผลไม่สาหัส แพทย์จึงให้ยาทาและให้กลับบ้าน

นางหนูเพียร  กล่าวว่า ครอบครัว มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงทำงานอยู่กรุงเทพ ส่วนนายชัยพิชิตเป็นลูกชาย และเป็นลูกคนที่ 2  ส่วนสามีเสียชีวิตไปประมาณ 7 ปีแล้ว ในบ้านจึงพักอาศัยยู่กับลุกชายเพียง 2 คน ซึ่งลูกชายติดยาเสพติดหนักมาก  โดยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมามักจะขอเงินทั้งเช้าและเย็นประมาณ วันละ 200 บาท เพื่อเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ หากขอไม่ได้ก็จะทำร้ายร่างกายและตบตี

นางหนูเพียร กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มาขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ตนไม่ให้ จึงถูกตบตีและทำร้ายร่างกาย ญาติพี่น้องพากันแจ้งตำรวจสภ.ชนบทมาจับกุมตัวลูกชายไป และพาตนเองส่งโรงพยาบาล  ซึ่งลูกชายถูกตำรวจกักขังในห้องเป็นเวลา 2 วัน ในข้อหาเสพยาเสพยาเสพติด จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปศาล เพื่อไปเสียค่าปรับ แต่ไม่มีเงินเสีย และลูกชายก็ถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งทันทีที่ ถูกปล่อยตัวออกมาถึงบ้านก็ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพทันที  เมื่อไม่ให้ลูกชายก็ขู่ว่า กูจะฆ่ามึงให้ตายอย่างช้าๆ พร้อมทั้งใช้เท้าถีบ แต่โชคดีที่ไม่ล้มลง  จากนั้นตนเองจึงรีบออกจากบ้านมาอาศัยน้องสาวอยู่  แต่ลูกชายก็ตามคุกคามขอเงินไปซื้อยาบ้า จนต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ กระทั่งน้องสาวพาออกมาอยู่ทุ่งนา ลูกชายก็ยังตามมาอีก

นางหนูเพียร  กล่าวต่ออีกว่า  ขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  หาทางมาเอาตัวลูกชายไปบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติดให้ด้วย  เพราะทุกวันนี้ตนเองไม่มีใครหาเลี้ยง เพิ่งได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก็ถูกลูกชายบังคับขู่เข็ญอาไปซื้อยาบ้ามาเสพจนหมด  ตนเองไม่มีเงิน จนต้องกู้เงินจากเพื่อนบ้านมาใช้จ่าย มาซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว  หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับลูกชายไปบำบัดตนเองก็คงจะมีชีวิตที่ปลอดภัย กลับไปพักอาศัยที่บ้านตัวเองได้ดังเดิม

ทางด้านนางสุดใจ  น้องสาวของนางหนูเพียร กล่าวว่า ปกติทำมาหากินกับครอบครัวในกรุงเทพ แต่ช่วงโควิดระบาดกลับมาอยู่บ้าน ก็มาทราบว่าหลานชายติดยาเสพติดและทำร้ายแม่ จนแม่ต้องไปอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้าน  อีกทั้งมาพบเจอเหตุการณ์ในวันที่ลูกชายทุบตีแม่ จนบาดเจ็บ จึงพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งถือว่าโชคดีที่บาดแผลไม่สาหัส  แต่ก็กลัวว่าหลานชายจะทำร้ายแม่ รุนแรงกว่านี้หรืออาจจะถึงชีวิตได้ จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาพบนางหนูเพียร เพื่อพิจารณาหาทางช่วยเหลือด่วน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"