ประกอบการที่กล้าได้กล้าเสีย


เพิ่มเพื่อน    

      สถานการณ์สตาร์ทอัพไทย เริ่มเข้มแข็งจากการสนับสนุนของหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน ที่มองว่าผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องดูแลเป็นอย่างดี เพราะจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สตาร์ทอัพคือผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่เกือบทั้งหมดไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ หรือประกอบกิจการใดๆ เลย ซึ่งอาจจะเป็นจุดอ่อนในการดำเนินงาน

        แต่สตาร์ทอัพส่วนใหญ่ก็คือคนรุ่นใหม่ที่มีความเข้มแข็งในเรื่องของไอเดีย แนวคิด ความเข้าใจเทคโนโลยี รู้จักช่องทางการโฆษณาสมัยใหม่ พร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงกล้าได้กล้าเสีย ซึ่งก็เพียงพอที่หลายหน่วยงานจะทำงานด้วย และที่ผ่านมาก็เห็นความสำเร็จของสตาร์ทอัพหลายราย ที่บางรายดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แต่กลับพัฒนาตัวเองจนก้าวเป็นรายใหญ่ได้ในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

        ทั้งนี้ งาน “สตาร์ทอัพไทยแลนด์ 2018” ก็เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงและช่องทางที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวให้สามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันอย่างกว้างขวาง เปิดโอกาสลงทุนในมิติใหม่ๆ ร่วมกับผู้ประกอบการ นวัตกรจากทั่วมุมโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยงานนั้นจัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

      โดยจากงานที่ผ่านไปนั้นได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพได้อย่างดี เป็นการบ่งบอกว่าแพลตฟอร์มในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ของประเทศไทยได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย และยังเกิดโซลูชั่นที่ช่วยตอบสนองความต้องการของการใช้ชีวิตในยุคใหม่แบบไม่รู้จบ ซึ่งแน่นอนว่าจักรวาลสตาร์ทอัพไทยไม่ได้มีการเติบโตเพียงแค่ระดับปริมาณเท่านั้น แต่ในด้านคุณภาพก็ก้าวกระโดดไปอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ แอปพลิเคชัน เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงหลากหลายบริการที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

        ยกตัวอย่างผลงานจากกลุ่มสตาร์ทอัพที่จะช่วยให้ชีวิตมีความง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยเริ่มกันที่ Local alike (โลคอล อไลค์) บริการเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลการดื่มด่ำชีวิตท่ามกลางธรรมชาติและชุมชน โดยบริการนี้เป็นการออกแบบทัวร์ที่ประสานความร่วมมือจากชาวบ้าน และคนในชุมชนให้ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดโปรแกรมพร้อมนำเที่ยวด้วยตนเอง ผ่าน 70 ชุมชนที่น่าสนใจทั่วประเทศ

        ตัวที่สองคือ เบลลัคค์ บริการรับ-ส่งกระเป๋าเดินทางและสัมภาระต่างๆ ระหว่างสนามบิน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ต่างๆ ภายใน 1 วัน สำหรับบริการนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวประหยัดเวลาในการเดินทางที่จะนำกระเป๋าไปฝากที่โรงแรม หรือเดินทางกลับไปรับกระเป๋าก่อนที่จะเดินทางไปสนามบิน และยังมีบริการรับฝากกระเป๋าฟรีสูงสุด 15 วัน               

        โซโกะจังที่เป็นบริการสำหรับเจ้าของกิจการที่กำลังเจอปัญหาที่เก็บสินค้าไม่มีหรือไม่พอ แพ็กสินค้าไม่ทันส่ง หรือลูกค้ารอสินค้านานเกินไป เพียงแค่ส่งคำสั่งซื้อออนไลน์มาที่โซโกะจัง ก็จะช่วยทั้งบรรจุหีบห่อสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์มาตรฐาน จัดส่งสินค้าโดยตรงจากคลังสินค้าไปยังมือผู้บริโภคภายใน 48 ชั่วโมง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และใช้เวลา 3-5 วันสำหรับจังหวัดอื่นทั่วประเทศ

        แต่ถ้าหน่วยงานไหนอยากหาพนักงานคุณภาพดี ต้องไปที่  เด็กฝึกงานดอตคอม ที่จะคัดกรองนักศึกษาจากที่ตรงกับสายงานกว่า 30,000 คน จากทุกสถาบันทั่วประเทศ ที่ตรงกับความต้องการขององค์กรหรือบริษัท เพื่อให้หน่วยงานได้เด็กฝึกงานที่มีคุณสมบัติตรงกับสายงานมากที่สุด ในขณะเดียวกันยังช่วยให้นักศึกษาที่กำลังมองหาสถานที่ฝึกงาน ได้รับโอกาสดีๆ ที่จะฝึกงาน หรือทำงานพาร์ตไทม์กับองค์กรที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน

        ข้ามมาเอาใจคนรักสุขภาพกันบ้างกับ OCARE บริการตรวจสุขภาพที่พร้อมส่งตรงถึงบ้านและที่ทำงาน ทำให้ไม่ต้องเดินทางและไม่ต้องรอนาน มีคุณหมอมาตรวจให้ถึงที่ และภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงก็สามารถรับผลบันทึกสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที

        นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดแปลกแหวกแนว กล้าที่จะทำ และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะแตกต่างจากคนรุ่นเก่าที่ทำธุรกิจมามากกว่า 10 ปี อาจจะคิดไม่ถึงกับสินค้าหรือบริการที่เข้าถึงตลาดขนาดนี้ และต้องยอมรับจริงๆ ว่าสตาร์ทอัพ เป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่น่าจับตามองและควรสนับสนุนอย่างยิ่ง.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"