โควิดดีดกลับเกินหมื่น เชื่อปีใหม่65คลี่คลาย


เพิ่มเพื่อน    

สถานการณ์โควิดยังไม่น่าวางใจ ติดเชื้อใหม่ดีดขึ้นเกินหมื่น  เสียชีวิตเพิ่ม 113 ราย ปลัดสาธารณสุข คาดวันปีใหม่ 2565 สถานการณ์จะคลี่คลายได้มาก การดำเนินชีวิตต่างๆ ก็คงกลับมาอยู่ในรูปแบบปกติ แบบวิถีใหม่   เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ได้ 75% เข็ม 2 ได้ 55% ในเดือนหน้า
     เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,200 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 11,042 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,996 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,046 ราย, จากเรือนจำและที่ต้องขัง 138 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 20 ราย  
    ผู้รักษาหายป่วยเพิ่ม 10,087 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 109,022 ราย อาการหนัก 3,000 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 715 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 113 ราย เป็นชาย 67 ราย หญิง 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 83 ราย มีโรคเรื้อรัง 22 ราย เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ที่ จ.แม่ฮ่องสอน 
    ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,678,297 ราย ยอดรวมหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,551,857 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 17,418 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 6 ต.ค. 730,807 โดส ยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่ 28 ก.พ.64 จำนวน 57,387,052 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 237,074,957 ราย เสียชีวิตสะสม 4,840,290 ราย 
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 1,279 ราย, สมุทรปราการ 795 ราย, ชลบุรี 752 ราย,  ยะลา 740 ราย, สงขลา 596 ราย, จันทบุรี 450 ราย, ระยอง 398 ราย,  นราธิวาส 332 ราย, ปราจีนบุรี 330 ราย,  นครศรีธรรมราช 313 ราย
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนในประเทศไทยยอดรวมกว่า 57 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 33.7 ล้านคน เฉลี่ย 46.9%, เข็มที่ 2 จำนวน 22 ล้านคน เฉลี่ย 30.5% และเข็มที่ 3 เฉลี่ย 1.6 ล้านคน เฉลี่ย 2.2% แยกเป็นกลุ่มเป้าหมายในการได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เฉลี่ย 59.3% กลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เฉลี่ย 62% และในกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่ตั้งเป้าฉีดไว้จำนวน 4 ล้านโดส ขณะนี้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 74,501 คน เฉลี่ย 1.7% จากข้อมูลการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ที่มีประชากรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส 50% และประเทศอินโดนีเซียที่ฉีดมากที่สุดถึง 150 ล้านโดส แต่เนื่องจากประชากรมาก จึงครอบคลุมประชากรเพียง 34.7% 
    ส่วนเป้าหมายในเดือนพฤศจิกายน 64 ประชาชนต้องรับวัคซีนจำนวนเข็มที่ 1 ให้ได้ 53 ล้านคน 75% เข็มที่ 2 ได้ 39 ล้านคน คิดเป็น 55% นั่นหมายความว่าเราสามารถทำได้ตามแผน มีวัคซีนอย่างเพียงพอ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการฉีดวัคซีน เราก็จะทำได้ตามมาตรฐานโลกในการฉีดวัคซีนของประเทศที่พัฒนาแล้ว และในเดือน ธ.ค.64 วัคซีนจะครอบคลุมในเข็มที่ 1 ถึง 60 ล้านคน เฉลี่ย 85%, เข็มที่ 2 49 ล้านคน เฉลี่ย 70% หมายความว่าเมื่อถึงสิ้น ธ.ค. เกือบทุกคนในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนเรียบร้อยอย่างน้อย 2 เข็ม และเข็ม 3 ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นต่อไป หากการดำเนินงานเป็นไปตามแผน 
    "คาดว่าในวันที่ 1 ม.ค.65 สถานการณ์จะคลี่คลายได้มาก การดำเนินชีวิตต่างๆ  ก็คงกลับมาอยู่ในรูปแบบปกติ แบบวิถีใหม่ (New normal)” 
    นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวในร้านอาหาร หรือโรงหนัง หรือกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นสถานที่หรือสถานประกอบต้องมีความปลอดภัย มีอากาศถ่ายเท พนักงานและลูกค้าจะต้องมีภูมิจากการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและประเทศได้เดินหน้าต่อไป
    เมื่อถามถึงสถานการณ์การระบาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ไม่นานนี้ในจังหวัดยะลา สงขลา ปัตตานี พบว่ามีการระบาดทั้ง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เบตา, แอลฟา, เดลตา ซึ่งสายพันธุ์เดลตามีการแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์แอลฟา จึงได้มีการดำเนินการมาตรการ universal prevention การกระจายวัคซีนเข้าในพื้นที่ รวมไปถึงการตรวจ ATK เชิงรุก และการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง มีจำนวนเตียงที่เพียงพอในการรองรับคาดว่าในอีก 1 เดือนสถานการณ์ในภาคใต้ก็จะดีขึ้น 
    ด้าน นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า มาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ได้มีการนำมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) เพื่อแบ่งกิจการและกิจกรรมตามระดับความเสี่ยงรวม 19 กิจกรรม/กิจการ โดยกลุ่มความเสี่ยงสูง เช่น ร้านสัก ร้านทำเล็บ โรงยิม/ฟิตเนส ที่มีเครื่องปรับอากาศ โรงเรียน ตลาด ที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยง อาทิ สุขลักษณะ ความสะอาด การระบายอากาศ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีการสัมผัสอย่างใกล้ชิด ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง 
    ที่จังหวัดกระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ได้นำวัคซีนโควิด-19 ส่งมอบให้กับจังหวัดจำนวน 500,000 โดส เพื่อกระจายไปฉีดให้กับประชาชนครอบคลุม 100% โดยเร็วที่สุด ทั้งกลุ่มนักเรียน ให้ทันการเปิดเรียนในช่วงเดือน พ.ย. กลุ่ม อสม.และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีความเสี่ยงต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 
    สถานการณ์การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นสูง มียอดผู้ติดเชื้อวันที่ 6 ต.ค. ติดเชื้อพุ่งอีก 502 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดติดเชื้อสะสม 24,655 ราย รักษาหาย 16,009 ราย และเสียชีวิตสะสม 311 ราย 
    ส่วนสำนักงานสาธารณสุข (สสจ.)สงขลาเปิดเผยว่า ผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนแบบเข้มข้น พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 596 คน ไม่มีการเสียชีวิต ยอดสะสมผู้ติดเชื้อ 34,479 คน เสียชีวิตสะสม 158 คน พบในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากที่สุด.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"