ผบ.ทร. กำชับ 10 นโยบายเร่งด่วน ย้ำปกป้องสถาบัน ห้ามกำลังพลโพสต์หมิ่น-คาดโทษผบ.หน่วยรับผิดชอบ


เพิ่มเพื่อน    

8 ต.ค.64 - ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพเรือชุดใหม่ โดยมอบหมายให้พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นโฆษกกองทัพเรือ พล.ร.ต.อนุวัต ดาผิวดี เลขานุการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ  พล.ร.ต.อภิชาติ วรภมร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการกองทัพเรือ เป็นรองโฆษกกองทัพเรือ น.อ.ปารัช รัตนไชยพันธ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ และแพทย์จีน ปรียาดา บัวสมบุญ เป็น ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ

ทั้งนี้ พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในปีนี้ เป็นการสานงานต่อเนื่องจากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนรวมพลังขับเคลื่อนกองทัพเรือตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 20 ปี ไปสู่การเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล ที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ  มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้น ความสามัคคีปรองดองเป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำผู้บังคับหน่วยต้องดูแลหน่วยและดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ "รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา"  

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายเร่งด่วนและสำคัญที่สุดที่ผบ.ทร.ได้กำชับให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือได้แก่ 1.การพิทักษ์รักษา ปกป้องและเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มขีดความสามารถ ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานในการดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” 2.การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ การพัฒนาประเทศ การบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทกภัยที่กำลังจะเกิดในขณะนี้ และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  3.การดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลกองทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังพลชั้นผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การปรับปรุงที่พักอาศัย การสวัสดิการ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น 

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นผบ.ทร.ได้มอบเจตนารมณ์ของผบ.ทร. จำนวน 10 ข้อ ได้แก่1.พิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนในการป้องกันและสนับสนุนการปราบปรามการกระทำที่ล่วงละเมิดต่อสาบันพระมหากษัตริย์ทุกรูปแบบ พร้อมน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการและพระบรมราโชบาย มาเป็นหลักสำคัญในการปฎิบัติงาน ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน 2.ดำรงความพร้อมของกองทัพเรือดำเนินการทั้งการเตรียมองค์บุคคล องค์วัตถุ และยุทธวิธีให้พร้อมและเหมาะสมกับสถานการณ์ในการดูแล รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลปฎิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างถูกต้อง 3.ดำรงความต่อเนื่องในความร่วมมือและความสัมพันธ์กับกองทัพเรือมิตรประเทศ นานาชาติ  รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อย่างสมดุล ภายใต้แนวคิด  

“ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” สร้างความสงบสันติ พัฒนาไปได้ โดยไม่หวาดระแวงกัน 4.สนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ตั้งแต่ในภาวะปกติ จนถึงภาวะวิกฤติ รวมถึงการบูรณากับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง  

ภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม องค์กรต่าง ๆและภาคประชาชน 5.ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 6.ปลูกฝังกำลังพลกองทัพเรือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีระเบียบวินัย และมีขวัญกำลังใจที่ดี ต้องส่งเสริมคนดีให้มีความเจริญก้าวหน้า ปลูกฝังอุดมการณ์ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และมีความภูมิใจในการเป็นทหารเรือ สำหรับผู้กระทำความผิด ต้องได้รับการลงโทษโดยไม่มีการละเว้น 7.ดำรงความต่อเนื่องเรื่องสวัสดิการบ้านพักข้าราชการกองทัพเรือ ให้มีความเพียงพอกับความต้องการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

8.การจัดทำความต้องการและงบประมาณ การวางแผนงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณต้องมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ เงินทุกบาททุกสตางค์ ได้มาจากภาษีของประชาชน ต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์ต่อกองทัพเรือ ประเทศชาติและประชาชนให้ได้มากที่สุด 9.ดำเนินการเชิงรุกในการสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ กำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนได้รับรู้ เข้าใจ และก้าวไปด้วยกัน 10.ส่งเสริมระบบงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางการทหารของกองทัพเรือ และรัฐวิสาหกิจในกำกับให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งไปสู่การพึ่งพาตนเอง และต่อยอดสู่สายการผลิตได้ 

เมื่อถามว่า กองทัพเรือจะเดินหน้าเรื่องเรือดำน้ำอย่างไรต่อไป และจะชี้แจงสาธารณชนอย่างไรให้เข้าใจ พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าต้องประสบปัญหาใน4-5ปีที่ผ่านมา แต่ยุทธศาสตร์กองทัพเรือที่กำหนดว่า ทร.ต้อง มีเรือดำน้ำยัง  เมื่อเช้านี้ ผบ.ทร.ได้เรียกตนเข้าไปพบก็ได้มอบนโยบายว่า เรือดำยังเป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะการใช้เงินภาษีประชาชน ดังนั้นเรื่องนี้เราต้องวิเคราะห์และคิดกันให้ดี ทางกองทัพเรือยินดีปฏิบัติตามที่รัฐบาลสั่งการมา โดยแผนการจัดซื้อเรือดำน้ำเรายังมีอยู่ แต่จะเลื่อนหรือ ยกเลิก จะปรับแผนอย่างไรยังไม่ได้พิจารณา แต่ยืนยันว่าเราต้องร่วมกันแก้วิกฤตนี้ไปด้วยกัน ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับทางจีนมาตลอดและเขาก็เข้าใจเรา ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ อีกทั้งสถานการณ์ด้านความมั่นคงกับประเทศรอบๆยังไม่มีปัจจัยที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าแต่อย่างใด  

“สิ่งที่ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ คือเรื่องของสถาบันฯ ได้กำชับกำลังพลไม่ใหโพสต์ข้อความในเฟสบุ้ค หรือสื่อสังคมออนไลน์ในเรื่องดังกล่าว หากเกิดปัญหาขึ้นมาผู้บังคับหน่วยต้องรับผิดชอบ” พล.ร.ต.ปกครอง กล่าวและว่าสำหรับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่เห็นแตกต่างกันได้  คงจะไปห้ามไม่ได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"