‘ไทยภักดี’ขวางแก๊งล้มสถาบัน


เพิ่มเพื่อน    

"หมอวรงค์" เปิดตัว "ไทยภักดี" ประกาศขวางขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เผยสิ่งที่ต้องทำเพิ่ม ประชาชนต้องอยู่ดีกินดี รัฐบาลต้องซื่อสัตย์ โปร่งใสและตรวจสอบได้ ชี้คอร์รัปชันเกิดมาพร้อมคณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจ "แรมโบ้" ยันนายกฯ อยู่ครบเทอมไม่ยุบสภา ให้ฝ่ายค้านรอไปก่อน
    เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่อาคารชื่นฤทัยในธรรม จ.นนทบุรี พรรคไทยภักดี โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค  ถือฤกษ์ 09.09 น. แถลงเปิดตัวพรรค พร้อมประกาศรับสมัครสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก 
    มีบุคคลสำคัญทางการเมือง อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคมและส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์, นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ, นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อ.คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายสุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย,  นายสาธิต เซกัล อดีตแกนนำ กปปส. และบุคคลมีชื่อเสียงอีกหลายคน เข้าแสดงความยินดี
    นพ.วรงค์กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา มีกระบวนการล้มล้างสถาบัน โดยเห็นชัดเจนที่จาบจ้วงเบื้องสูง อ้างจะปฏิรูปสถาบันเพื่อที่จะแก้ไข ม.112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยใช้วิธีการยุยงปลุกปั่นเยาวชนจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย กระบวนการเหล่านี้ขยายใหญ่โต เชื่อมโยงทั้งในสภา นอกสภา องค์กรต่างประเทศ และเครือข่ายต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราทำได้เพียง 2 อย่างคือเปิดเผยความจริงและพยายามใช้ข้อกฎหมาย แต่ทำแค่ 2 อย่างนั้นไม่เพียงพอ โดยสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อสถาบันหลักของชาติมากที่สุดคือ ประชาชนต้องอยู่ดีกินดี รัฐบาลต้องซื่อสัตย์ โปร่งใส และตรวจสอบได้
    เขากล่าวว่า ปัญหาที่เป็นรากเหง้าของประเทศในอดีตที่ผ่านมาเกิดจากนักการเมืองนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร มีการตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาและจะเห็นได้ชัดว่าในรัฐธรรมนูญ 60 นั้น ระบุไว้ในหมวดของการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งในอดีตที่ใช้บัตร 2 ใบ ส.ส.ไม่ได้มาจากประชาชน แต่ ส.ส.คือตัวเเทนของพรรคการเมืองและนายทุนเจ้าของพรรค
    "สิ่งที่ผมเศร้าใจคือ ขณะนี้ ส.ส.ในสภาคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบในอดีตที่สร้างปัญหาให้กับประเทศ ตนก็เสียดายผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือและพยายามช่วยที่บางครั้งก็ไม่เข้าในความซับซ้อนทางการเมือง เป็นรัฐธรรมนูญลักไก่ ขัดหลักการอย่างชัดเจน และขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน แต่ไม่เป็นไรถ้าทุกคนช่วยกัน ช่องทางก็ยังคงมี ทั้งการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยยื่นผ่านผู้ตรวจการเเผ่นดิน ซึ่งตนขอชวนประชาชนใช้สิทธิ์ร้องผ่านผู้ตรวจการเเผ่นดินตั้งแต่สัปดาห์หน้า ตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ"
    นพ.วรรงค์เผยว่า สิ่งที่ต้องเน้นย้ำคือการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นปัญหารากฐานของประเทศเกิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2475 ที่คณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจมา ไม่ยอมวางโครงสร้างรากฐานนำไปสู่การทุจริต ให้เงินสินบนมาจนถึงปัจจุบันนี้ พรรคไทยภักดีสัญญาว่าจะเข้าไปปราบโกง รวมไปถึงปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปราคาพืชผลทางการเกษตร โดยจะเห็นว่าปัญหาทุกอย่างเกิดจากการทุจริตคอร์รัปชันทั้งนั้น
    "พรรคไทยภักดี เป็นพรรคของประชาชน ที่จะไม่ขอรับเงินทุนแบบผูกขาด จะเอาเงินมาให้เป็นร้อยล้านก็ไม่เอา เพราะเชื่อว่านายทุนที่มีขนาดใหญ่เมื่อลงทุนแล้วก็ต้องมาหาผลประโยชน์จากประชาชนอีก เงินของคนพวกนี้แพ้เงินของประชาชน ไทยภักดีจะหารูปแบบในการระดมทุนไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น เราจะระดมทุนด้วยการทำเสื้อยืด 1 ล้านตัว ราคาก็แล้วแต่ประชาชน"
    ทั้งนี้ นพ.วรงค์ได้ประกาศพร้อมรับไม้ต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์จะส่งไม้ต่อหรือไม่ อยู่ที่เสียงของประชาชน และพร้อมสู้สนามเลือกตั้งในทุกกติกา ไม่ว่าบัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือบัตรสองใบ รวมถึงยืนยันจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทุกเขต ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนด 350 เขต หรือ 400 เขต และเปิดเผยความคืบหน้าของพรรคไทยภักดีในกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครได้เกือบครบทั่วประเทศแล้ว และจะส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ไม่ยุบฝ่ายค้านรอไปก่อน
    นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการยุบสภา โดยยืนยันว่านายกฯไม่มีการยุบสภาอย่างแน่นอน และจะอยู่ครบเทอม เนื่องจากขณะนี้ประเทศได้เกิดสถานการณ์ หลายอย่างทั้งการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด และนายกฯ รัฐบาลก็กำลังแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้
    เขาย้ำว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ รองนายกและรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจากขณะนี้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงเป็นหน้าที่ของนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนจะต้องลงพื้นที่เพื่อไปให้ความช่วยเหลือ โดยไม่ใช่เป็นการลงพื้นที่หาเสียงหรือเตรียมการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
    “ผมขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รอไปก่อน เพราะนายกฯ ไม่ยุบสภาอย่างแน่นอน นายกฯ จะไม่ทิ้งประชาชนที่ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ หากฝ่ายค้านอยากเข้ามามีอำนาจ ก็ขอให้เข้ามาตามกติกาหลังนายกฯ หมดวาระแล้ว และทางที่ดีฝ่ายค้านน่าจะเอาเวลานี้ไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหา ให้ประชาชนได้เห็นความดีของฝ่ายค้านบ้าง มากกว่าการออกมาพูดกล่าวหาโจมตีคนอื่นหวังผลทางการเมืองของตนเอง อย่าหวังว่านายกฯ จะยุบสภาก่อนครบวาระ ไม่มีแน่นอน คงเป็นแค่ฝันกลางวันหรือฝันค้างของฝ่ายค้าน ให้ระวังกระหายอยากมีอำนาจอยากเป็นรัฐบาลมากเกินไประวังอกแตกตายก่อน เพราะนายกฯ มีผลงานรัฐบาลดีวันดีคืน เลือกตั้งสมัยหน้า มีโอกาสสูงที่ฝ่ายค้านก็ยังจะรักษาความเป็นแชมป์ฝ่ายค้านได้เหมือนเดิม ไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเหมาะสมทำหน้าที่ค้านได้ดีมาก ไม่สมควรมาเป็นรัฐบาล เพราะผลงานและฝีมือไม่ถึง ทำหน้าที่ไม่ได้ดั่งใจประชาชน" นายเสกสกลกล่าว 
    น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการสอบสวนของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคเพื่อไทย ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ที่กระทำการขัดมติพรรคในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ โดยคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมพรรคเพื่อไทยเสนอให้ลงโทษสมาชิกพรรค 2 คน ได้แก่ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิพล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ให้พ้นจากสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 เนื่องจากมีพฤติกรรมประชุมโดยไม่มีเหตุผล ตั้งใจให้ร้ายพรรคด้วยความเท็จ และมีลักษณะบ่งบอกว่าไม่ต้องการอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า 
       "ในวันที่ 12 ตุลาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยในเวลา 09.30 น. มีระเบียบวาระสำคัญเป็นเรื่องการเตรียมการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดขอนแก่น และรับทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อกล่าวหาสมาชิกของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้ง ส.ส.พรรคทุกคน ซึ่งจะประชุมร่วมกันในเวลา 13.00 น.เพื่อลงคะแนน เนื่องจากตามระเบียบต้องมีคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ลงมติให้พ้นจากสมาชิกพรรค ทางพรรคได้ส่งหนังสือถึง ส.ส.ทุกคน เพื่อให้องค์ประชุมครบในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมกันด้วย"
      น.ส.อรุณีกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความเป็นสถาบันการเมือง สมาชิกพรรคต้องเคารพและยึดมั่นในมติพรรคร่วมกัน เพื่อเป็นการสะท้อนหลักการเคารพซึ่งประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ การนำเหตุผลส่วนตัวและข้อจำกัดส่วนตัวเป็นข้ออ้างในการฝ่าฝืนมติพรรคในหลายๆ กรณี  จึงมีความจำเป็นต้องถูกลงโทษ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"