ติดโควิดทรงตัว ‘ไฟเซอร์’มาเพิ่ม รอรับ1.5ล.โดส


เพิ่มเพื่อน    

ยอดผู้ติดเชื้อโควิดทรงตัวหมื่นต้นๆ เสียชีวิตลดลงเหลือ 73 ราย กทม.ยังเป็นแชมป์ระบาด ปูพรมฉีดวัคซีนนักเรียนแล้ว 1.5 แสนคน สัปดาห์หน้าไฟเซอร์เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส อังกฤษถอดไทยจากบัญชีสีแดง 
    เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,630 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,554 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,881 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 673 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 67 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย  
    ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,700,067 ราย ผู้รักษาหายป่วยเพิ่ม 10,542 ราย ยอดรวมหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,572,332 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 110,128 ราย อาการหนัก 2,967 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ  677 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 73 ราย เป็นชาย 44 ราย หญิง 29 ราย เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 54 ราย มีโรคเรื้อรัง 12 ราย เสียชีวิตมากที่สุดใน กทม. 12 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 17,607 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 8 ต.ค. 1,010,072 โดส ยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่ 28 ก.พ.64 จำนวน 59,308,772 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 237,995,075 ราย เสียชีวิตสะสม 4,857,370 ราย 
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 1,280 ราย, ยะลา 650 ราย, สมุทรปราการ 519 ราย, สงขลา 504 ราย, ชลบุรี 488 ราย,  นราธิวาส 470 ราย, ปัตตานี 413 ราย,  ระยอง 359 ราย, ราชบุรี 348 ราย และจันทบุรี 315 ราย
    น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการดำเนินการรัฐบาลเริ่มเดินหน้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเดือนตุลาคม 2564 ให้แก่นักเรียน นักศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 12-18 ปีทุกคนผ่านสถาบันการศึกษาว่า ขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฉีดแล้วประมาณ 3.8 ล้านคน จากตัวเลขกลุ่มเป้าหมายมีอยู่ประมาณ 5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 71 และคาดว่ามีตัวเลขผู้แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยการฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. มีนักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วประมาณ 150,190 ราย ร้อยละ 3.3 และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้วประมาณ 1,825 ราย กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็ก/นักเรียนอย่างต่อเนื่อง
    กรณีที่มีกระแสข่าวผ่านสื่อต่างๆ และทางโซเชียลสื่อออนไลน์ เช่น ในแพลตฟอร์ม TikTok เด็กบางกลุ่มได้ออกมาแสดงความกังวลต่อผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ขอให้ความเชื่อมั่นว่า ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่รัฐบาลนำมาฉีดให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ได้มาตรฐานระดับสากลและทั่วโลกยอมรับ โดยได้ผ่านการตรวจสอบและอนุมัติรับรองคุณภาพเรียบร้อยแล้วทั้งจากองค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ (FDA) รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขของไทยด้วย 
    แม้การฉีดวัคซีนไฟเซอร์จะมีผลข้างเคียงในลักษณะต่างๆ อยู่บ้าง ทั้งผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ หนาวสั่น รวมถึงผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่จากข้อมูลของคณะอนุกรรมการด้านโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาระดับโลกด้านความปลอดภัยของวัคซีนประจำองค์การอนามัยโลก (GACVS) ระบุว่า วัคซีนชนิด mRNA มีประโยชน์ในการป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตจาก COVID-19 ได้  
    รองโฆษกรัฐบาลเผยว่า หลายประเทศได้เดินหน้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็กไปก่อนหน้านี้แล้ว อาทิ สหรัฐ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สเปน นอร์เวย์ เป็นต้น ทางบริษัท ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ยังได้ยื่นคำขอต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 กับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ขวบ เป็นการฉุกเฉิน หากผ่านการรับรองของ FDA คาดจะสามารถใช้ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้
     “การฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนมีความสำคัญมาก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมให้เข้มแข็งมากขึ้น และให้เด็กได้กลับไปเรียนในรูปแบบปกติโดยเร็ว พร้อมเตรียมรับการเปิดภาคเรียนเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ยังพิจารณาให้มีการตรวจ ATK (Antigen Test Kit) แบบสุ่มตัวอย่างประมาณ 10-15% ของจำนวนนักเรียนในทุกๆ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักเรียนในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประสิทธิภาพและอักตราการเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีน เพื่อให้นักเรียนคลายความกังวลจากผลที่เกิดขึ้นด้วย” น.ส.รัชดากล่าว
    ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่ซื้อ 30 ล้านโดส จะทยอยส่งครั้งละ 1.5-2 ล้านโดส ล็อตแรกถึงเมื่อ 29 กันยายน 64 ได้นำไปฉีดให้นักเรียนแล้ว และสัปดาห์หน้าจะมาอีก 1.5 ล้านโดส ยืนยันมีเพียงพอสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่าที่ผู้ปกครองแจ้งความประสงค์ไว้
    นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สหราชอาณาจักรปรับหรือลดจำนวนประเทศหรือดินแดนที่อยู่ใน “บัญชีสีแดง” หมายถึงประเทศและดินแดนที่มีความเสี่ยงสูงในการเดินทางไปเยือน ลดลงจาก 54 ประเทศ เหลือ 7 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกปลดออกจากบัญชีแดง จะเริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันที่ 11 ต.ค.64 ตามเวลาสหราชอาณาจักร. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"