'มวยไทย' กระตุ้นเศรษฐกิจ


เพิ่มเพื่อน    

สร้างความฮือฮาเป็นข่าวใหญ่ของโลก หลังจาก พับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (Public Investment Fund) องค์กรของประเทศซาอุดีอาระเบียที่มีทรัพย์สิน 320,000 ล้านปอนด์ (14.8 ล้านล้านบาท) ได้ใช้เงินกว่า 300 ล้านปอนด์เข้าเทกโอเวอร์กิจการของสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก
    ส่งผลให้ นิวคาสเซิล เป็นอีกสโมสรของเกาะอังกฤษที่ตกเป็นธุรกิจของทุนข้ามชาติ และในปัจจุบันทีมสโมสรในพรีเมียร์ลีกแทบทุกทีมตกเป็นของเศรษฐีต่างชาติไปเกือบหมดแล้ว
    คำถามคือ ทำไมอังกฤษถึงกล้าอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของทีมในท้องถิ่น แถมไม่ได้กังวลเรื่องของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเหมือนอย่างในประเทศไทย
    ในมุมมองของผู้เขียน มองว่า ทางอังกฤษน่าจะประเมินแล้วว่าการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรนั้นเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะนอกจากจะทำให้ตลาดฟุตบอลมีการขยายตัว, การลงทุนจะมีสูงขึ้น และที่สำคัญคือ เม็ดเงินทุกอย่างจะลงอยู่ในประเทศ ทั้งการท่องเที่ยว การสร้างแบรนด์ขยายตลาด การขายของที่ระลึก ซึ่งทั้งหมดก็จะย้อนกลับมายังประเทศอังกฤษที่สโมสรฟุตบอลตั้งอยู่ เพราะทีมคงไม่สามารถย้ายที่ไปไหนได้
    พร้อมกันนี้ อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ธุรกิจฟุตบอลไม่ได้มีกำไรมหาศาลเป็นกอบเป็นกำ โดยการลงทุนในสโมสรฟุตบอลของเศรษฐีต่างชาติก็ไม่ได้มองที่การทำกำไรจากการประกอบธุรกิจเป็นหลัก แต่ใช้สโมสรฟุตบอลเป็นการสร้างโปรไฟล์และชื่อเสียงให้กับตัวผู้ลงทุนเพื่อนำไปต่อยอดทางด้านอื่นมากกว่า ดังนั้นการเปิดทางให้ต่างชาติถือครอง ย่อมส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม 
    หากมองฟุตบอลให้นอกเหนือไปจากกีฬา ต้องยอมรับว่าฟุตบอลคือซอฟต์เพาเวอร์ประเภทหนึ่ง ที่ไม่ต่างจากภาพยนตร์ ละคร เพลง หรือเกม โดยฟุตบอลสามารถนำไปสู่การสร้างฐานแฟนคลับที่จงรักภักดีทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าย่อมจะก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินที่จะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศในอนาคต เป็นจุดดึงดูดและสร้างภาพลักษณ์ที่น่าสนใจให้กับคนต่างประเทศ
    ลองมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ดูเหมือนว่าไทยก็เริ่มมีแนวคิดในการสร้างเศรษฐกิจโดยการใช้ซอฟต์เพาเวอร์เป็นจุดดึงดูดแล้วเช่นกัน หลังจากที่มีกระแสข่าวของ ลิซ่า BLACKPINK ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก กับผลงานเพลงเดี่ยวที่สอดแทรกวัฒนธรรมไทยจนทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 
    จริงๆ ไทยเราก็มีกีฬาที่คนทั่วโลกต่างให้การยอมรับ นั่นก็คือ มวยไทย แน่นอนนี่นับเป็นซอฟต์เพาเวอร์ประเภทหนึ่งเช่นกัน ซึ่งมองว่าถ้ามีการพัฒนาดีๆ ยกระดับมาตรฐาน และมีการเปิดกว้างให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงสามารถสร้างทัวร์นาเมนต์ระดับโลกขึ้นมาได้ ย่อมจะมีผลดีต่อไทยไม่มากก็น้อย ทั้งทางตรงและทางอ้อม 
    แต่ในปัจจุบัน อย่างที่เห็นตอนนี้มีโปรโมเตอร์ต่างชาตินำมวยไทยไปต่อยอด ทำมาหากินเป็นล่ำเป็นสันในต่างประเทศ แต่ไทยซึ่งเป็นต้นตำรับกับยังไม่สามารถต่อยอดให้เกิดทัวร์นาเมนต์ระดับอินเตอร์ได้ อันนี้ ควรเป็นโจทย์ที่ทั้งคนในวงการ ภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องมาช่วยกัน เพื่อสร้างกีฬาอย่างมวยไทยเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่จะดึงนักลงทุน, นักท่องเที่ยวและนักกีฬาเข้ามาในประเทศไทย และจับจ่ายใช้สอยในไทยมากขึ้น
    นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หากลงมือทำอย่างจริงจังเชื่อว่ามวยไทยจะเป็น ซอฟต์เพาเวอร์ที่สร้างเงินตราเข้าประเทศได้อย่างมหาศาลเช่นกัน. 

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"