เคอร์ฟิวเหลือ4ชม. เพิ่ม15จว.ท่องเที่ยว


เพิ่มเพื่อน    

“ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะประชุม ศบค. สั่ง “ศปก.ศบค.” หารือ สธ.เคาะชื่อประเทศจะเข้าไทย 1 พ.ย. พร้อมให้ตั้งศูนย์ส่วนหน้าแก้วิกฤตโควิดด้ามขวาน “หมอทวีศิลป์” แจงยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 11,276 ราย สังเวย 112 ราย รองรับเปิดประเทศขยายพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเพิ่ม 15 จังหวัด จัดเกลี่ยโซนสีใหม่ยกแผง พร้อมขยับเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่มถึงตีสาม ห้าง-ร้านสะดวกซื้อ-โรงหนัง เปิดได้ถึง 4 ทุ่ม “ผับ-บาร์” ให้อาบน้ำแต่งตัวรอ    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ครั้งที่ 16/2564 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน 
หลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกรองนายกฯ รัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน มาร่วมยืนแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่า ประเด็นสำคัญที่อยากประกาศในวันนี้คือเรื่องได้แถลงการณ์เรื่องเตรียมการเปิดประเทศในเดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป และมาตรการผ่อนคลายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยมีหลายเรื่องที่นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ศบค. สำหรับรายชื่อประเทศที่จะเข้ามาในไทยโดยไม่ต้องกักตัวนั้น จะต้องกำหนดมาตรการและเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน และขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางด้วย 
“วันนี้ผมยืนท่ามกลางภาครัฐและเอกชน วันนี้ผมและพวกเราอยากขอความร่วมมือจากประชาชนว่า เรื่องนี้อย่างน้อยจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ช่วยให้ประชาชนหลายๆ ส่วนน่าจะได้เริ่มกลับมาทำมาหากิน กลับมาตั้งตัวได้ดีอีกครั้ง ซึ่งเราต้องมีความพยายามในการดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามาในไทยมากขึ้น ให้สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศไทย และดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่นเดียวกับที่หลายๆ ประเทศกำลังทำอยู่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงผลประชุม ศบค. ว่าในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 14 ต.ค.ว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 11,276 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,487 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 10 ,413 ราย,  มาจากการคัดกรองเชิงรุก 677 ราย, อยู่เรือนจำ 134 ราย, เป็นผู้โดยทางมาจากต่างประเทศ 52 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,751,704  ราย มีผู้หายป่วยเพิ่มเติม 10,407 ราย ผู้หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,625,750 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 107,925 ราย อาการหนัก 2,890 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 675 ราย เสียชีวิต 112 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ 2563 จำนวน 18,029 ราย โดยที่ประชุมมีความเป็นห่วงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ รวมถึงตัวเลขเพิ่มสูง โดย พล.อ.ประยุทธ์ระบุให้ ศปก.ศบค.ส่วนหน้าค่อยบัญชาการนำไปสู่การแก้ปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้การควบคุมโรคเห็นผลภาพเดียวทั้งประเทศ 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมยังได้หารือแผนการรองรับการเปิดประเทศ ตามที่นายกฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่เอ่ยชื่อมา 5 ประเทศที่เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัวไม่จำกัดพื้นที่คือ อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, สิงคโปร์ และจีน ซึ่งที่ประชุมยังไม่ได้ระบุประเทศเพิ่มเติม แต่มอบหมายให้ ศปก.ศบค.ไปพิจารณาร่วมกับ สธ.ต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ยกเลิกการกำหนดประเทศดินแดนความเสี่ยงของสถานการณ์โควิด-19 เนื่องการจัดกลุ่มประเทศต่างๆ เป็นเรื่องเดิม ซึ่งไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว 
15 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการเปิดประเทศว่า หากเปิดประเทศแล้วต้องมีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวโดยเป็นพื้นที่สีฟ้าที่ จ.ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, เกาะสมุย, เกาะเต่า, เกาะพะงัน, พังงา และกระบี่ ดังนั้นต้องขยายพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวรองรับเพิ่มเติมในช่วง 1-30 พ.ย. จะขอเพิ่มอีก 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ), กระบี่ (ทั้งจังหวัด), พังงา (ทั้งจังหวัด), ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก), เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ), ชลบุรี (พัทยาอำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา), ระนอง (เกาะพยาม), เชียงใหม่ (อำเภอเมืองฯ แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า), เลย (เชียงคาน), บุรีรัมย์ (เมือง), หนองคาย (เมืองฯ ศรีเชียงใหม่ ท่าบอ สังคม), อุดรธานี (เมืองฯ นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง), ระยอง (เกาะเสม็ด) และตราด (เกาะช้าง)  และในเดือน ธ.ค. จะปรับพื้นที่สีฟ้าอีก 16 จังหวัด อาทิ เชียงราย, แม่ฮองสอน, ลำพูน, แพร่ และสุโขทัย เป็นต้น โดยจังหวัดเหล่านี้จะต้องเข้าที่ประชุม ศปก.ศบค.อีกครั้งหนึ่ง 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับแผนการเปิดประเทศแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ ต้องมีกลยุทธ์ต่างๆ ที่ประชุมจึงได้สั่งให้จัดทำแผนกลยุทธ์เสนอ ศบค.ให้อนุมัติภายใน 2 เดือนหลังจากนี้ และถ่ายทอดไปทุกหน่วยงานและดำเนินการตามแผน โดยวันที่ 1-30 พ.ย. จะดำเนินการตามแผนระยะที่ 1 ระยะที่ 2 เดือน ธ.ค. จะดำเนินการต่อเนื่อง และทำการประเมิน และระยะที่ 3 เดือน ม.ค.65 ก็จะผลักดันกลยุทธ์ดังกล่าวต่อไป  
    สำหรับมาตรการปรับพื้นที่ และการปรับมาตรการการป้องกันควบคุมโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม จาก 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, กาญจนบุรี, จันทบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครนายก, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, ปราจีนบุรี, ปัตตานี, อยุธยา, ยะลา, ระยอง, ราชบุรี, สงขลา, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสระบุรี พื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่สีแดง 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยนาท, ชัยภูมิ, ชุมพร, เชียงราย, เชียงใหม่, ตรัง, ตราด, นครสวรรค์, ประจวบคีรีขันธ์, พัทลุง, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบุรี, มหาสารคาม, ระนอง, ลพบุรี, ศรีสะเกษ, สตูล, สระแก้ว, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, สุราษฎร์ธานี, สุรินทร์, อ่างทอง, อุดรธานี, อุบลราชธานี, เพชรบูรณ์ และนครราชสีมา
    ส่วนพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่, กำแพงเพชร, นครพนม, น่าน, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, พะเยา, พังงา, แพร่, ภูเก็ต, มุกดาหาร, แม่ฮ่องสอน, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ลำปาง, ลำพูน, เลย, สกลนคร, สุโขทัย, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี และอำนาจเจริญ
เคอร์ฟิว 5 ทุ่มถึงตี 3
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ในพื้นที่ที่ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยนั้น ได้ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถานเป็นเวลา 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้นอย่างน้อย 15 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในตลาดโต้รุ่ง ตลาดเช้า  เพื่อให้ประกอบการและทำมาหากิน กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิม และปรับเวลาการเปิดของร้านสะดวกซื้อเป็น 22.00 น. และต้องพิจารณาความเห็นชอบเรื่องการเปิดบริการสวนสนุกและเครื่องเล่น ส่วนกิจการและกิจกรรมอื่น เช่น โรงภาพยนตร์เปิดได้ถึง 22.00 น. แต่เน้นย้ำมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด  สถานดูแลผู้สูงอายุ ให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ การจัดการประชุม จัดงานตามประเพณีนิยม ได้แก่ งานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน สามารถทำได้ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรมได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนคน ไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่าง จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด เพื่อไม่ให้ปนเปื้อน ไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกัน ลักษณะที่มีอาหารวางตรงกลางและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และใช้เวลาจัดงานไม่เกิน 2 ชั่วโมง เปิดได้ปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น. หากเป็นกรณีเกิน 50 คน ให้ขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ส่วนขนส่งสาธารณะทุกประเภท จากเดิมที่อนุญาต 75% ให้ปรับเพิ่มได้โดยดูความสามารถในการบรรจุของยานพาหนะ และผ่านการพิจารณาคณะกรรมการควบคุมและกำกับด้วย 
    สำหรับทุกพื้นที่ ศูนย์แสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดตู้เกม เครื่องเล่นร้านเกม ที่เล่นรายบุคคลหรือแข่งเป็นคู่ได้ ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ ส่วนสวนน้ำ สวนสนุกในทุกพื้นที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด สนามกีฬา อนุญาตให้เปิดบริการได้โดยขยายเวลาถึง 22.00 น.และการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มให้ขยายจำนวนคนได้ โดยปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่เฝ้าระวังตามลำดับคือ จากเดิม 25 เป็น 50,  เดิม 50 เป็น 100, เดิม 100 เป็น 200, เดิม 200 เป็น 300 และ 500 ตามลำดับ ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ประชุม ศบค.ยังไม่อนุญาตให้เปิด เป็นเพียงให้เตรียมการไว้ก่อน เช่น เตรียมพื้นที่ให้สะอาด ปลอดโปร่ง โล่ง ดำเนินมาตรการภายในไว้ก่อน และในเดือนถัดไปจะมีการเร่งรัดมาตรการให้แล้วเสร็จเพื่อที่จะเปิดดำเนินการ 
    ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดสงขลา, ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อสูงขึ้น โดยนายอนุทินระบุว่า ภาพรวมเขตสุขภาพที่ 12 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 7 วันย้อนหลังอยู่ที่กว่า 2,400 ราย สาเหตุการติดเชื้อเป็นการระบาดในครอบครัวและชุมชน มีระบาดเป็นกลุ่มเล็กๆ ในโรงงาน ตลาด และในกิจกรรมการรวมกลุ่ม ไม่มีคลัสเตอร์ใหญ่ มีบางส่วนมาจากการลักลอบเข้าประเทศผ่านพรมแดนธรรมชาติ และประชาชนบางส่วนยังไม่มารับการฉีดวัคซีน จึงได้ส่งทีมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งฉีดวัคซีน โดยได้สนับสนุนวัคซีนไฟเซอร์ให้ 1 ล้านโดส ฉีดให้ครอบคลุมประชากรเป้าหมาย 70% ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ให้ จ.นราธิวาส 200,000 เม็ด, ปัตตานี 50,000 เม็ด, สงขลา 1,200,000 เม็ด และยะลา 350,000 เม็ด พร้อมส่งชุดตรวจ ATK ให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีก 140,000 ชุด มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ได้โดยเร็ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"