ทางการสหรัฐประกาศผ่อนปรนมาตรการสำคัญของนโยบาย "ความอดทนเป็นศูนย์" ที่โดนนานาชาติรุมประณามกรณีแยกผู้อพยพพ่อแม่ลูกออกจากกัน โดยจะระงับการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้อพยพที่เข้าเมืองผิดกฎหมายพร้อมกับลูกเป็นการชั่วคราว

รั้วป้องกันชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกในเมืองบราวน์วิลล์ รัฐเทกซัส / AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 อ้างคำประกาศของเควิน แม็กอาลีแนน ผู้ว่าการสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยงานของเขาได้ยุติการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายที่มาพร้อมกับลูกแล้วเป็นการชั่วคราว นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ยุตินโยบายการแยกครอบครัวผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย

    นโยบายที่แยกคุมขังพ่อแม่และลูกซึ่งรวมถึงเด็กในวัยทารกและวัยแบเบาะ ก่อกระแสต่อต้านทั้งภายในสหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ ทั่วโลกและกดดันให้ทรัมป์ต้องยอมถอย ทั้งที่เขาเคยอ้างไว้ว่าเขาไม่มีอำนาจยกเลิกกฎหมายนี้

    แม็กอาลีแนนกล่าวว่า เหตุผลที่เขาระงับการดำเนินคดีพวกผู้อพยพที่เป็นพ่อเป็นแม่นั้นแท้จริงแล้วเป็นไปตามคำสั่งของทรัมป์ อีกทั้งหน่วยงานของเขาก็ไม่มีสถานที่เพียงพอที่จะควบคุมครอบครัวผู้อพยพเข้าเมืองทั้งหมดที่ข้ามชายแดนเม็กซิโกเข้ามา

    รายงานของนิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า แม็กอาลีแนนบอกด้วยว่า สำนักงานของเขาและกระทรวงยุติธรรมควรเห็นพ้องกันเกี่ยวกับนโยบาย "ที่สามารถดำเนินคดีพวกผู้ใหญ่ที่นำลูกๆ ข้ามชายแดน ซึ่งเป็นพวกที่ละเมิดกฎหมายของสหรัฐและเอาชีวิตมาเสี่ยงที่ชายแดน ได้โดยไม่ต้องแยกพวกเขาจากลูก"

    เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยืนยันด้วยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานควบคุมชายแดนของสหรัฐจะยังคงดำเนินคดีทางกฎหมายต่อพวกผู้ใหญ่ที่ข้ามแดนผิดกฎหมายมาแบบตัวคนเดียว และพวกเด็กๆ ก็ยังอาจถูกแยกออกจากพวกผู้ใหญ่ได้ หากพบว่าเด็กๆ เหล่านี้ตกอยู่ในอันตรายหรือพวกผู้ใหญ่มีประวัติอาชญากรรม

    แม็กอาลีแนนกล่าวว่า ขณะนี้เขายังอยู่ระหว่างวางแผนงานเพื่อรื้อฟื้นการดำเนินคดีพวกพ่อแม่ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายมาพร้อมกับลูก

    ด้านซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่านโยบายความอดทนเป็นศูนย์ยังมีผลบังคับใช้ อย่างน้อยก็ในแบบเป็นทางการ.