เตือนใต้ฝนยังหนัก สงขลาอ่วมสุด12ปี


เพิ่มเพื่อน    

กรมอุตุฯ เตือนยังมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ทางภาคใต้ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 จว.ชายแดนใต้ทั้งนราธิวาส ปัตตานีและยะลา เริ่มคลี่คลายหลังฝนหยุดตก ฝั่งชายแดนสุไหงโก-ลก ร้านค้าเริ่มทยอยเปิดร้านอีกครั้ง เกิดเหตุดินถล่มจากเทือกเขา อ.สะบ้าย้อย น้ำพัดเอาก้อนหิน ต้นไม้ใหญ่ลงมาเกือบเข้าถึงหมู่บ้าน โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย ส่วนน้ำท่วมริมทะเลสาบสงขลายังวิกฤติ ชาวบ้านครวญหนักสุดในรอบ 12 ปี ร้านค้าใน อ.ระโนดเร่งก่อกำแพงสูงป้องกันน้ำ ที่ จ.ตรังเสียชีวิตเพิ่มอีกราย

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยยังคงป้องกันและระวังอันตรายจากฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมอยู่แล้วต้องเฝ้าระวังต่อไปอีก

ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางมีอากาศเย็นกับมีลมแรง

แม้ว่าลักษณะอากาศฝนตกหนักจะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ก็ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้เกิดเหตุดินถล่มลงมาจากภูเขาสันกาลาคีรี ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านโคก ต.บ้านโหนด โดยมีความรุนแรงมากคือ สภาพจุดเกิดเหตุมีทั้งดิน ก้อนหินขนาดใหญ่ และซากต้นไม้ที่ถูกกระแสน้ำซัดมาจากยอดเขาลงมากองอยู่บริเวณเชิงเขาในป่าสวนยางของชาวบ้าน ห่างจากหมู่บ้านราว 1 กิโลเมตร แต่โชคดีเหตุการณ์นี้ไม่มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ แต่มีเพียงสวนยางพาราที่เสียหายบางส่วน เพราะทิศทางของดินถล่มอยู่ท้ายหมู่บ้าน

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ชาวบ้านซึ่งได้เข้าสำรวจพื้นที่เป็นชุดแรก บอกว่า เมื่อได้ขึ้นไปเจอสถานที่เกิดเหตุถึงกับตกใจ เพราะเดิมสภาพพื้นที่เป็นเพียงร่องน้ำเล็กๆ แต่จากเหตุดินสไลด์ในครั้งนี้ได้กลายสภาพเป็นทางน้ำขนาดใหญ่ และอยู่ในสภาพดินชุ่มน้ำเสี่ยงที่จะเกิดเหตุดินสไลด์ลงมาได้ตลอดเวลา โดยชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานทางธรณีวิทยาและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก

ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย) ฝ่ายปกครองอ.สะบ้าย้อย ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี พบว่าสาเหตุเกิดจากมีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าบนภูเขาไหลหลาก และมีดินถล่มพัดพาต้นไม้และก้อนหินมาตามร่องน้ำเข้าท่วมสวนยางพาราและสวนผลไม้ของชาวบ้าน เกิดความเสียหายเป็นระยะทางยาวประมาณ 1,570 เมตร กินพื้นที่กว่า 27 ไร่

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา ได้แก่ ควนเนียง สิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ และระโนด ยังไม่มีทีท่าว่าระดับน้ำจะลดลง หลังเกิดน้ำท่วมสูงต่อเนื่องนานกว่า 5 วันแล้ว อันเป็นผลพวงจากการระบายน้ำจากสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ลงสู่ทะเลสาบสงขลา

นายสิทธิพงศ์ รัตนะ นายก อบต.บางเขียด อ.สิงหนคร จ.สงขลา พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา ลงพื้นที่นำสิ่งของไปแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของ ต.บางเขียด ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30 เซนติเมตรขึ้นไป บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ทำให้ต้องล่องเรือไปแจกของ โดยมีชาวบ้านต้องลอยคอออกมารับถุงยังชีพ

ชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาปีนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี ขณะนี้ระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก โดยวันนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านยังคงกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วม

ส่วนบรรดาร้านค้าในเขตเทศบาลตำบลระโนด อ.ระโนด ต้องเร่งหาทางป้องกันน้ำท่วมหลากหลายวิธี ทั้งก่ออิฐสร้างกำแพงหน้าบ้านให้สูงขึ้น บางรายใช้ผ้ายางขึงไว้หน้าบ้าน รวมทั้งใช้กระสอบทรายวางซ้อนกันหน้าบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไปข้างในตัวบ้านและร้านค้า

ขณะที่ชาวบ้านริมคลองระโนดซึ่งน้ำท่วมหนักที่สุด หลายรายต้องยอมปล่อยให้ข้าวของจมอยู่ในน้ำเพราะขนย้ายไม่ทัน และสถานการณ์ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ เนื่องจากยังคงมีมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.พัทลุงอย่างต่อเนื่องและน่าจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

มีรายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา ขณะนี้ได้หยุดตกลงแล้วตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา จนบรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้าในช่วงเช้าเริ่มแจ่มใสและมีแสงแดดส่องปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สายคือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนราและสายบุรี มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 5-10 เซนติเมตร

จากการสำรวจปริมาณน้ำของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล่าสุดพบว่า น้ำระบายลงสู่ทะเลปากอ่าวของ อ.ตากใบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 8 ชุมชน ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มริมตลิ่ง จากเดิมมีระดับน้ำสูง 100-150 เซนติเมตร ได้ลดระดับลงเหลือเพียง 80-120 เซนติเมตร แต่ชาวบ้านยังคงใช้เรือเป็นพาหนะแทนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในการสัญจร

ส่วนกรณีการค้าแนวชายแดน 2 ฟากฝั่งระหว่างเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.สุไหงโก-ลก ล่าสุดพบว่าพ่อค้าแม่ค้าเริ่มที่จะกลับมาทำการค้าร่วมกันอีกครั้ง หลังจากเมืองเศรษฐกิจการค้าของเมืองรันตูปันยังมีระดับน้ำท่วมขังลดลงและเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางติดต่อการค้าระหว่างกันทางเรือ ทำให้เจ้าของเรือยนต์ข้ามฟากระหว่างประเทศเริ่มกลับมามีรายได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ ในส่วนของการระบายน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้นำเครื่องสูบน้ำอีก 2 เครื่อง รวม 4 เครื่อง มาติดตั้งที่บริเวณคลองยะกัง ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อระบายน้ำท่วมขังจากพื้นที่ อ.จะแนะ ระแงะ และ อ.ยี่งอบางส่วน ที่ไหลลงมาสมทบในคลองยะกัง เพื่อผลักดันลงสู่แม่น้ำบางนรา และไหลระบายอีกทอดหนึ่งลงทะเลด้านปากอ่าว อ.เมืองนราธิวาส ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.จะแนะ ระแงะ และยี่งอบางส่วน เริ่มลดลงตามลำดับ

ที่เทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถผ่านไปได้แล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลงทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างคล่องตัว โดยร้านค้าต่างๆ ในย่านเศรษฐกิจเริ่มทยอยเปิดร้าน และทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนจากคราบดินโคลนที่มากับน้ำ เหลือเพียงใน 2 ตำบลของเทศบาลเมืองปัตตานีที่น้ำยังคงสูงอยู่ คือ ต.จะบังติกอ ต.สะบารัง ระดับน้ำยังคงท่วมถนน เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยาก ทำให้ถนนหลายสายยังคงมีน้ำท่วมสูง คือ ถ.จะบังติกอ ถ.กะลาพอ ถ.ยะรัง ถ.ปะนาเระ และ ถ.มายอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องนำแผงกั้นมากั้นไว้เพื่อความปลอดภัย

ในส่วนพื้นที่น้ำท่วมล้นตลิ่งในพื้นที่เศรษฐกิจเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ได้รับความเสียหายรวม 13 ชุมชน เช่นเดียวกันกับถนนสายปัตตานี-ยะลา และสายปัตตานี-หาดใหญ่ ทั้งขาเข้าและขาออก ระดับน้ำยังคงท่วมสูง รถทุกชนิดต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากน้ำมีความเชี่ยวแรง ระดับน้ำสูงกว่า 40 เซนติเมตร นอกจากนี้ บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานีใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.โคกโพธิ์ และ อ.แม่ลาน ยังคงท่วมสูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้านยังคงถูกตัดขาด

ที่ จ.ยะลา สถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่เริ่มดีขึ้นเนื่องจากฝนหยุดตก ทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมลดลง และพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมก็มีระดับน้ำที่ลดลงแล้ว เช่น บางแห่งในเขตเทศบาลนครยะลาเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรียังคงมีน้ำท่วมอยู่ แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวได้ทำการบินสำรวจภาพมุมสูงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เมืองตรัง และ อ.กันตัง หลังจากที่พนังกั้นแม่น้ำตรังเพิ่งพังลงมา 2 จุดใน อ.เมืองตรัง ล่าสุดมวลน้ำจำนวนมากได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ซึ่งระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน ประกอบกับยังมีฝนตกในบางช่วง ทำให้การระบายน้ำทำได้อย่างเชื่องช้า

ทั้งนี้ จ.ตรังได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดว่า ได้รับผลกระทบใน 8 อำเภอแล้ว จากทั้งจังหวัดที่มีอยู่ 10 อำเภอ มีประชาชนเดือดร้อนประมาณ 18,000 ครัวเรือน 56,000 คน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วประมาณ 3.3 แสนไร่ โดยเฉพาะใน อ.เมือง ริมแม่น้ำตรัง ขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีน้ำจากตอนเหนือไหลมาสมทบ

สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาวได้รับแจ้งเหตุพบชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบริเวณร่องสวนยาง หลังวัดไทรงาม ม.6 บ้านไทรงาม ต.เกาะเปียะ พบศพนายสมพงษ์ เพชรอินทร์ อายุ 60 ซึ่งมีอาชีพทำสวน เจ้าหน้าที่ได้นำศพขึ้นมาจากน้ำเพื่อทำการตรวจสอบในเบื้องต้นโดยไม่พบบาดแผลหรือการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าโรคประจำตัวเกิดกำเริบ ทำให้เกิดอาการชักเกร็งและล้มลงไปในน้ำลึกจนสำลักน้ำและขาดอากาศหายใจ เป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"