ความเป็น Somebody ในโลกโซเชียลมีเดีย


เพิ่มเพื่อน    

      เห็นข่าวว่าจะเริ่มๆ กระบวนการทยอยเอาตัว 13 หมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำ ในช่วงระหว่างนี้กันแล้ว...บรรดาเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ที่ต่างก็อยู่ นอกถ้ำ ไปด้วยกันทั้งสิ้น คงไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่าการสวดมนต์ ภาวนา ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ให้อยู่รอด ปลอดภัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณพระ คุณเจ้า ปกป้องคุ้มครองไปด้วยกันทั้งปวง ด้วยเทอญญ์ญ์ญ์...

                                                           -----------------------------------------------------

      คือนอกจากสิ่งนี้แล้ว...การช่วยเหลือ เยียวยา ด้วยกรรมวิธีต่างๆ ที่บรรดาผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จิตอาสา และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ทั้งปวง ท่านต่างพยายามทุ่มทุน ทุ่มเท แบบเต็มเม็ด เต็มสูบ จนไม่น่าจะมีอะไรอีกแล้วที่นอกเหนือไปจากนี้ เรียกว่า...ไม่ว่าจะยากซ์ซ์ซ์แสนยากซ์ซ์ซ์ สภาพทางธรรมชาติท่านสุดแสนจะสลับซับซ้อนเพียงใดก็ตามที แต่ด้วยสติ ปัญญา ความสามารถ และจิตใจอันมุ่งมั่น เสียสละ ของบรรดาผู้ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละระดับ สุดท้าย...มันคงไม่มีอะไรที่เกินเลยขีดความสามารถมากมายจนเกินไป...

                                                             -------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...งานนี้ แทบจะทั่วทั้งโลกนั่นแหละ ต่างรู้เห็น เป็นใจ ต่างพร้อมจะสนับสนุน เกื้อกูล ในทุกๆ เรื่อง บรรดาเราๆ-ทั่นๆ ที่เป็นแค่ กองเชียร์ ทั้งหลาย เพียงแค่ส่งจิต อธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนา คอยเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ อย่าถึงกับต้องเข้าไปรบกวนมือตีนผู้ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ให้เกะกะ กีดขวาง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แม้ว่าหลายต่อหลายราย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมีเดีย อยากเข้าไปมีส่วนร่วม หรืออยากจะเป็น Somebody กับเขาบ้าง แต่ก็พึงระวังเอาไว้ด้วยว่า บางครั้งความปรารถนาดีที่ไม่ได้ตรงช่อง ตรงทาง หรือไม่ได้เข้าท่า เข้าทาง มันก็อาจกลายเป็นอุปสรรค ขัดขวาง ให้สิ่งที่น่าจะเป็นไปด้วยดี กลับต้องเบี่ยงเบน เฉไฉ ไปในทางอื่น ได้บ้างเหมือนกัน...

                                                               ----------------------------------------------

      คือไอ้ความต้องการที่จะเป็น Somebody นั้น...อาจถือเป็น ผลผลิตทางธรรมชาติ ของโลกโซเชียลมีเดีย ไปแล้วก็ว่าได้ ด้วยเหตุเพราะลักษณะพื้นฐานของเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต มันเป็นตัวเอื้ออำนวยให้เกิดสิ่งที่ว่านี้อย่างเป็นพิเศษ เรียกว่า...จากผู้ที่แทบไม่มีใครรู้ว่า ตัวตน ของตนนั้นคืออะไร เป็นอะไร อยู่ที่ไหน มีอยู่ในโลกนี้จริงๆ หรือไม่ แต่เพียงได้มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ ลงๆ ไลน์ๆ อินสะตากรง อินสตาแกรม ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ ความเป็น Somebody ก็สามารถอุบัติขึ้นมาได้แบบฉับพลัน-ทันที ไม่ต้องเป็น Nobody เป็นผู้ที่ โลกลืม หรือผู้ที่ต้องโดดเดี่ยวในบ้านร้างอีกต่อไป...

                                                                 -----------------------------------------------

      ชนิดไม่ว่าจะนั่งขี้ นั่งเยี่ยว กินข้าว กินปลา ไปเที่ยวหาด เที่ยวภูเขา ไปนอก-ไปนา หรือไปที่ไหนๆ ก็สามารถแสดงออกถึงความเป็น Somebody ให้ใครต่อใครรับรู้ถึงความเป็นตัวตนของตน โดยจะก่อให้เกิดความเปรี้ยวเท้า เปรี้ยวตีน หวานมือ หวานตีนหรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่รสนิยม ของใคร-ของมันจะว่ากันไป ความเป็น Somebody มันเลยกลายเป็น ผลผลิตทางธรรมชาติ ของโลกโซเชียลมีเดีย อย่างมิอาจปฏิเสธได้ ยิ่งเมื่อเกิดอะไรอันเป็นที่สนใจต่อผู้คนในโลกจริง โลกเสมือนจริง ยิ่งกลายเป็นตัวกระตุ้นให้ความต้องการที่จะแสดงออกถึงความเป็น Somebody หรือความเป็นตัวตนของตน ยิ่งหนักหนา สาหัสยิ่งขึ้นไปใหญ่ ด้วยเหตุนี้...แม้มันจะเป็นตัวช่วยให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ แต่ก็สามารถกลายเป็นตัวที่ก่อให้เกิดอุปสรรค กีดขวาง เกะกะมือ เกะกะเท้า ได้ไม่น้อยเช่นกัน...

                                                                  -------------------------------------------------

      ทั้งที่ว่าไปแล้ว...หรือถ้าว่ากันตามแนวของพระ ของเจ้า เอาเข้าจริงๆ แล้ว ความเป็น Nobody นั่นแหละ น่าจะ เข้าท่า กว่าความเป็น Somebody เป็นไหนๆ ยิ่งถ้าหากเป็น Nobody จนไม่เหลือ ตัวตนของตน ใดๆ เอาไว้เลย เหลือแต่ ความว่าง เหลือแต่สภาวะที่ไม่ต้องเสียเวลาไป ปรุงแต่ง อะไรต่อมิอะไรต่อไปอีกแล้ว ไม่เกลียด-ไม่รัก ไม่ชอบ-ไม่ชัง ไม่บวก-ไม่ลบ ฯลฯ อันนั้นนั่นแหละ...ถึงขั้นบรรลุ นิพพาน เอาง่ายๆ ไม่ว่าตัวตนของตนจะยังมีอยู่ในโลกนี้ หรือโลกไหนๆ ก็ตามแต่ แต่ถ้าหากตัวตนที่ว่านั้น ถูกขจัดความเป็น Somebody ให้ลดๆ หายๆ ลงไปยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสบรรลุนิพพานในชาติหน้า ชาติโน้น ได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลามาเกิดใหม่ ให้ต้องหลังคด หลังงอ นั่งจิ้ม นั่งทิ่ม คีย์บอร์ด กดปุ่มโน้น ปุ่มนี้ จนนิ้วแทบสึกเหมือนเช่นชาตินี้อีกต่อไป...

                                                                     --------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...จะด้วยเหตุเพราะ เทคโนโลยี หรือเพราะ อัตตา ของตัวเองล้วนๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่จะเรียกร้อง เชิญชวน ให้ใครต่อใครบรรลุนิพพานกันในขณะกำลังนั่งทิ่ม นั่งจิ้ม คีย์บอร์ดอย่างเมามันซ์ซ์ซ์นั้น มันคงลำบากเอามากๆ อย่างมากที่สุดก็คงได้แค่เรียกร้องให้หาทางลดๆความเป็น Somebody ลงไปมั่ง เอาแค่พอได้เกิด สติ และ ปัญญา ในบางระดับ พอที่จะแยกแยะความถูก-ผิด ความเหมาะ-ความควร รวมทั้งความไม่ทำให้ตัวตนของตน กลายเป็นสิ่งเกะกะ รบกวนผู้อื่น อันนั้น...ต้องถือว่ายอดแล้ว!!! ปลีกเวลาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มานั่งตั้งจิตอธิษฐาน สวดมนต์ภาวนา แทนที่จะไปโพสต์โน่น โพสต์นี่ น่าจะเข้าท่ากว่า โดยเฉพาะในช่วงหน้าสิ่ว หน้าขวาน ช่วงที่ต้องอาศัย สมาธิ ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ตกระกำลำบาก เพราะไม่เพียงถือเป็นการยังประโยชน์ให้แก่ตัวเอง ยังถือไม่เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น ควบคู่ไปด้วย...

                                                                    -------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Mother Teresa... The fruit of silence is prayer. The fruit of prayer is faith. The fruit of faith is love. The fruit of love is service. – ผลบุญของความสงบเงียบคือการสวดมนต์ไหว้พระ ผลบุญแห่งการสวดมนต์ไหว้พระคือศรัทธา ผลบุญของศรัทธาคือความรักความเมตตา ผลบุญแห่งความรักความเมตตาคือการรับใช้ผู้อื่น...

                                                                      -------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"