ศาลฎีกาสั่งคุกอ่วม 'วัฒนา-พวก' ทุจริตก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน


เพิ่มเพื่อน    

13 ก.ค.61 -  ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ 254/2547 ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 1.กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี หรือ NVPSKG (ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์) 2.บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง  4.บริษัทประยูรวิศว์การช่าง 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง 6.บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา 8.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์  

9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์  10.บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์  12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 13.นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง  สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19.นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว) เป็นจำเลยที่ 1 - 19 ในความผิดฐานฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ที่ดินนั้นกลับเป็นกลุ่มบริษัทจัดหามาแล้ว ที่ดินนั้นเป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน และฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างฯ มูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งคดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ 

ซึ่งในส่วนของกิจการร่วมค้า NVPSKG จำเลยที่ 1นั้น ศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้วตั้งแต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ โดยคดีศาลสั่งประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19 เท่านั้น ปัจจุบันจึงเหลือจำเลยที่เข้าสู่กระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษารวม 18 ราย

โดยศาลแขวงดุสิต ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2552 เห็นว่าจำเลยทั้ง 18รายกระทำผิดจริง จึงพิพากษาให้ จำคุกจำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17, 18 และนายวัฒนา จำเลยที่ 19 รวม 11 คนๆ ละ 3 ปี 

ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 ,16ซึ่งเป็นบริษัทนิติบุคคล รวม 7 ราย ให้ปรับรายละ 6,000 บาท โดยจำเลยทั้งหมดยื่นอุทธรณ์สู้คดีเพื่อให้พิพากษายกฟ้อง ซึ่งระหว่างอุทธรณ์คดี จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17, 18 ได้ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท ส่วน นายวัฒนา จำเลยที่ 19 หลบหนีคดี ศาลจึงสั่งให้ออกหมายจับและปรับนายประกัน 

กระทั่งวันที่ 19 พ.ย. 2556 มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 18 ราย เนื่องจากเห็นว่าช่วงเวลาที่บริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16ซื้อที่ดินเพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียฯ ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการฯจะใช้ที่ดินบริเวณใดบ้าง โดย คพ. โจทก์ เพิ่งมีโครงการชัดเจนว่า จะใช้ที่ดิน ต.คลองด่าน ในเดือน ก.พ.2539 พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าพวกจำเลยเข้ามาเกี่ยวข้องหรือดำเนินการใดๆ ให้คณะกรรมการคัดเลือกของ คพ. เลือกที่ดินของ บริษัท คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12      

ต่อมาคพ. โจทก์ ได้ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกา กลับพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งหมด

ขณะที่วันนี้ นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 11 , นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 13  , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 15 , นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่ 19ที่ศาลเคยออกหมายจับไว้แล้วเพราะไม่ศาลเมื่อนัดอ่านคำพิพากษาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าออกหมายจับครบ 1 เดือนแล้ว ยังไม่ได้ตัวมา ศาลจึงให้อ่านคำพิพากษาลับหลังทันทีในวันนี้ 

ส่วน นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา จำเลยที่ 7ที่วันนี้ไม่มาศาลระบุยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาอีกครั้งนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยน่าจะมาศาลได้ พฤจิการณ์เป็นลักษณะการประวิงคดี กรณีไม่มีเหตุให้เลื่อนและส่วนของ นายกว๊อกวา โอเยง  สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 18ได้รับหมายศาลโดยชอบแล้วไม่มา พฤติการณ์ทั้งสองเชื่อว่าจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับทั้งสองภายในเวลา 1 เดือนเพื่อฟังคำพิพากษาต่อไปในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

โดยองค์คณะศาลแขวงดุสิต ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ตามทางนำสืบของ คพ. โจทก์ รับฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18,19 รวม 18 รายกระทำผิดตามฟ้อง 

จึงพิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้ง 18 ราย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันฉ้อโกงกรณีการซื้อที่ดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงกรณีสัญญาจ้างก่อสร้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น ที่ศาลล่างพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย 

ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษ จึงให้จำคุก นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 3 และนายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์  จำเลยที่ 11 คนละ 6 ปี ใน 2 กระทง ฐานร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท 

ส่วนนายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 13 , นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ  จำเลยที่ 14 , นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ ที่ 15 , นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ  ที่ 17 , นายกว๊อกวา โอเยง  สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ ที่ 18 และนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552) ที่ 19 ให้จำคุกคนละ 3 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงกรณีการจัดซื้อที่ดิน 

สำหรับนายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง จำเลยที่ 5 , นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัทสี่แสงการโยธา จำเลยที่ 7 , นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ จำเลยที่ 9 ให้จำคุกคนละ 3 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงกรณีสัญญาการก่อสร้าง (รวมจำคุกผู้บริหารบริษัทก่อสร้างทั้งหมดรวม 11 คน) 

สำหรับบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 2 กับ บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 10 นั้นให้ปรับรายละ 2 กระทง รวมเป็นเงิน 12,000 บาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงกรณีการซื้อที่ดินและฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างงานและปรับ บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ ที่ 12 กับบริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 16 รายละ 6,000 บาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงกรณีการซื้อที่ดิน

สำหรับ บริษัทประยูรวิศว์การช่าง จำเลยที่ , บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) ที่ 6 , บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำเลยที่ 8 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างงาน(รวมปรับบริษัทจำเลยทั้งหมด 7 แห่ง)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ในเวลา 15.30 น. บรรดาญาติจำเลยกว่า 10 คน ได้เตรียมอาหารกล่องสำหรับอาหารมื้อเย็น และยารักษาโรคประจำตัวของจำเลยเตรียมไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อนำไปให้เมื่อจำเลยต้องเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"