ชี้ทีมหมอ 'ริชาร์ด แฮร์ริส' ได้เอกสิทธิ์ทางการทูตกันภารกิจพลาด


เพิ่มเพื่อน    

เผยทีมนักดำน้ำถ้ำชาวออสเตรเลียนำโดยนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตจากรัฐบาลไทย เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง เผื่อกรณีเกิดความผิดพลาดที่นำไปสู่การสูญเสียในภารกิจที่อันตรายอย่างยิ่งครั้งนี้

นายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส Image copyright OZTEK/RICHARD HARRIS

    สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 ว่านักดำน้ำถ้ำชาวออสเตรเลียได้รับเอกสิทธิ์ทางการทูตในการมาช่วยเหลือปฏิบัติการที่้ถ้ำหลวง เผื่อปฏิบัติการช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำเกิดความผิดพลาดขึ้น ประเด็นนี้ได้รับเปิดเผยผ่านสื่อของออสเตรเลียเมื่อวันจันทร์ โดยสถานีเอบีซีอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่า ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ และเครก ชาลเลน คู่หูนักดำน้ำถ้ำของเขา ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในภารกิจช่วยชีวิตครั้งนี้ เข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจภายหลังการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลียและไทยเพื่อให้เอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตแก่พวกเขา ป้องกันการถูกดำเนินคดีหากภารกิจที่เสี่ยงอันตรายนี้เกิดความผิดพลาด

    กระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียไม่ได้ให้ทัศนะยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวนี้ โดยโบ้ยให้สอบถามเจ้าหน้าที่ของไทย แต่รอยเตอร์รายงานอ้างคำชี้แจงจากนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ยืนยันว่าไทยได้ให้เอกสิทธิ์ทางการทูตแก่ทีมงานชาวออสเตรเลีย 3 คนนี้เท่านั้น ซึ่งก็คือนายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ และผู้ช่วยทางการแพทย์อีก 2 คน

    นายดอนกล่าวว่า เนื่องจากภารกิจนี้มีความเสี่ยง รัฐบาลไทยและออสเตรเลียจึงต้องทำความเข้าใจกัน ดอกเตอร์แฮร์ริสทำหน้าที่ของเขาในภารกิจทางการแพทย์อย่างสุดความสามารถ เขาจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองหากเกิดสิ่งผิดพลาดขึ้น รัฐบาลไทยให้เอกสิทธิ์นี้แค่กับคณะทำงานทางการแพทย์ชาวออสเตรเลีย 3 คนนี้เท่านั้น

    ก่อนหน้านี้ เครก ชาลเลน นักดำน้ำถ้ำได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซันเดย์ไทมส์ ในเมืองเพิร์ธภายหลังกลับถึงออสเตรเลียว่า ภารกิจครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตายอย่างแท้จริง และผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำถ้ำต่างไม่แน่ใจว่าจะสามารถช่วยชีวิตเด็กทั้ง 12 คนและโค้ชออกมาได้สำเร็จ ภารกิจนี้ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับนักดำน้ำ แต่เป็นอันตรายอย่างมากต่อเด็กๆ ซึ่งต้องถูกวางยากล่อมประสาทถึงจุดที่ "พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น" เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกขณะที่นักดำน้ำนำพาพวกเขาผ่านช่องแคบๆ

    "พวกเขาได้รับยา เราไม่อาจปล่อยให้เด็กๆ แตกตื่น พวกเขาอาจทำให้ตัวเองเสียชีวต และอาจทำให้ผู้กู้ภัยเสียชีวิตไปด้วย" ชาลเลนกล่าว พร้อมกับเล่าถึงการฝึกซ้อมปฏิบัติการกับเด็กไทยที่จำลองอุปกรณ์สำหรับภารกิจนี้

    เจสัน มัลลินสัน นักดำน้ำถ้ำชาวอังกฤษซึ่งเป็นอีกคนที่ร่วมภารกิจ กล่าวกับเอบีซีว่า การดำน้ำในถ้ำผ่านช่องแคบๆ ในความมืดมิดนั้นท้าทายอย่างยิ่ง คุณจะรู้ว่าอยู่ตรงจุดไหนของถ้ำก็ต่อเมื่อศีรษะชนเข้ากับผนังถ้ำ ตัวเขาได้รับมอบหมายให้พาเด็กคนหนึ่งออกมา

    "ผมมั่นใจว่าจะพาเด็กออกมาได้ แต่ไม่มั่นใจ 100% ว่าจะนำเขาออกมาแบบที่ยังมีชีวิต เพราะหากผมทำให้เขาชนกับหินแรงจนหน้ากากหลุดแล้วน้ำเข้าหน้ากาก เขาจะตาย เราไม่มีอุปกรณ์สำรองสำหรับพวกเด็ก มีแค่หน้ากากดำน้ำอันเดียว".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"