ปภ.ประสาน34จว. พร้อมรับอุทกภัย


เพิ่มเพื่อน    

    พายุโซนร้อนเซินติญเข้าญวน ส่งผลกระทบไทยแล้ว อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก ไล่ตั้งแต่เหนือ อีสาน ภาคกลาง จนถึงภาคใต้ ปภ.ประสาน 34 จังหวัดจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประชาชนริมโขงจับตาระดับน้ำเพิ่มน่ากังวล พังงาปักธงแดงริมหาดแหล่งท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำ 
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุเซินติญ" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ดังนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันนี้ (18 ก.ค.61) พายุโซนร้อน “เซินติญ” (SON-TINH) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 18.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในคืนนี้ (18 ก.ค.61) ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้ 
    ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา, ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี, ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี และตราด, ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
    ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และตาก, ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งจนถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2561
    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าพายุโซนร้อน “เซินติญ” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 18-22 กรกฎาคม 2561 อาจทำให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น รวมถึงคลื่นลมบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร  
    สถานการณ์ดังกล่าว ปภ.จึงได้ประสาน 34 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที 
    อีกทั้งได้กำชับให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภทให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และงดการเดินเรือหากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง อีกทั้งตรวจสอบให้มีอุปกรณ์ชูชีพประจำเรืออย่างเพียงพอ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ 
    มุกดาหาร สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันค่าเฉลี่อยู่ที่ 8.82 เมตร ห่างจุดวิกฤติอยู่ที่ 3.68 เมตร โดยจุดวิกฤติน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ 12.50 เมตร ทำให้พื้นที่วัดศรีมงคลเหนือ และโรงเจของมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง และกำลังก่อสร้างเขื่อนบริเวณปากห้วยมุก ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และน้ำจากลำห้วยมุกกัดเซาะริมตลิ่ง ทำให้เสนาสนะและพื้นที่วัดที่อยู่ใกล้ลำห้วยมุกพังเสียหาย ต้องอพยพพระภิกษุ และขนย้ายสิ่งของไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมทั้งให้ผู้รับเหมาเร่งดำเนินการป้องกันตลิ่งจากน้ำกัดเซาะดังกล่าวโดยเร็ว
    ด้านเรือโดยสารข้ามฟากที่ท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร ที่วิ่งข้ามไปยังแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตม.มุกดาหาร กำชับให้เรือทุกลำให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพทุกคน เพื่อความปลอดภัยขณะเดินทางข้ามฝั่ง
    ตราด ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ซึ่ง ปภ.ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม 24 ชม. และแจ้งเตือนประชาชนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผวจ.ตราด นำคณะไปมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านซอยบัวเขียว ต.วังกระแจะ อ.เมือง และเดินทางไปตรวจพื้นที่น้ำท่วมพร้อมอำนวยการแก้ปัญหาในการระบายน้ำ
    กระบี่ ฝนตกหนักทำให้น้ำจากคลองเขาพระเอ่อล้นและหลากท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองในพื้นที่หมู่ 2 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รวม 15 หลัง ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของไว้ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ถนนในหมู่บ้านหลายจุดถูกน้ำท่วมขัง ส่งผลให้รถจักรยานยนต์วิ่งผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยกันกำจัดเศษขยะระบายน้ำออกจากพื้นที่และสำรวจความเสียหาย.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"