'โค้ชเอก'เล่านาทีหนีน้ำเอาชีวิตรอดจากถ้ำหลวง


เพิ่มเพื่อน    

18 ก.ค.-61- เมื่อเวลา 18.05 น. ที่อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จ.เชียงราย มีการแถลงข่าว “ส่งหมูป่ากลับบ้าน”   นพ.ไชยเวช ธนไพศาล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  กล่าวว่า ปกติคนที่ผ่านวิกฤติแล้วอาจจะมีอาการท้อถอยได้ แต่เราพบว่าทีมหมู่ป่าไม่มีแบบนั้นเลย กำลังใจดีเยี่ยม หลังจากผ่านวิกฤติมาแล้วด้วยกันเขามีความแข็งแรงและความเข้มแข็งภายในที่จะเดินต่อ น้องสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี มีความมุ่งมั่นว่าต่อไปนี้จะสู้กับปัญหาได้

ด้านพ.ท.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 และทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีลอีก    กล่าวว่า สำหรับสภาพจิตใจน้องๆ พร้อมตั้งแต่อยู่ในถ้ำ โดยสังเกตดูจากเวลาได้รับประทานอาหารไป 3-4 มื้อ เริ่มมีพลัง เริ่มฟื้นตัว พูดคุยกันเยอะขึ้น สิ่งที่น้องๆ พูดกันคือ เรื่องอาหารและเรื่องการเที่ยวหลังออกไป โดยมีหลายคนสัญญาว่าจะเอาหารแปลกๆ มาให้ตนรับประทาน เช่น ไส้อั่วงู อาหารพม่า ซึ่งตนมั่นใจว่าพวกเขาจะกลับมาใช้ชีวิตได้

นายสุทธิชัย หยุ่น เจ้าของนามปากกากาแฟดำ รับหน้าที่เป็นพิธีกรถาม นายเอกพล จันทะวงษ์  หรือโค้ชเอก
ว่า เหตุใดจึงไปถ้ำหลวง โค้ชเอก ตอบว่า เรามีการปรึกษากันตั้งแต่แรก โดยมีน้องๆ เอ่ยปากว่าอาทิตย์หน้าไปเที่ยวถ้ำหลวงกันหรือไม่ เพราะมีบางคนไม่เคยไป ซึ่งนัดกันว่าจะไป จึงวางโปรแกรมซ้อมฟุตบอล โดยมีการอุ่นเครื่องระหว่างทีมสายใต้กับสายเหนือในช่วงเช้า ตอน 10.00 น. พออุ่นเครื่องเสร็จก็ไปที่ถ้ำหลวงฯ กันเพื่อไปศึกษาว่ามีอะไรบ้าง ต่างคนต่างอยากเห็น

เมื่อถามว่า เข้าไปครั้งนั้นลึกแค่ไหน โค้ชเอก ตอบว่า ลึก เลยจุดเนินนมสาวไปถึงจุดที่เรียกว่าเมืองลับแลหรือบาดาล ซึ่งก่อนหน้านี้ตน น้องดอม เคยไปมาแล้วและเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันคือ พอมาถึงจุดสามแยกพบว่า มีน้ำนิดๆ ครั้งนี้ก็แบบเดียวกัน มีน้ำนิดๆ ตรงสามแยกเลยลองเข้าไป ตนถามน้องทุกคนว่าจะไปต่อหรือไม่ ถ้าไปพวกเรามีเวลา 1 ชั่วโมง แล้วต้องออกมาเลยนะ เพราะต้องออกมาก่อนเวลา 17.00 น.  ต้องไปส่งน้องตั้นเรียนพิเศษ ยืนยันว่าไม่ได้ไปฉลองวันเกิดใคร แม้จะเป็นวันเกิดน้องไมค์ แต่น้องบอกว่าวันนี้วันเกิด เวลา 17.00 น. ต้องถึงบ้าน เพราะพ่อแม่จัดงานวัดเกิดรอแล้ว ยังชวนกันเลยว่าไปหรือไม่

โค้ชเอก บอกว่ามารู้ว่าติดถ้ำตอนเดินกลับออกมา  ทั้งนี้ ตอนเข้าไปเราเดินเลยจุดเนินนมสาว ไปจุดที่เรียกว่า เมืองลับแล หรือบาดาล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำ จึงถามทุกคนว่าจะเข้าไปสำรวจหรือไม่ ถ้าไปต้องว่ายน้ำเข้าไป เลยถามทุกคนว่าไปหรือไม่ ทุกคนทุกคนบอกว่าไป โดยส่วนใหญ่ว่ายน้ำเป็น บางคนยังไม่แข็ง จะให้ตัวใหญ่ให้ขี่คอ เนื่องจากตนจะไปพาน้องๆ พวกนี้ไปว่ายน้ำทุกเสาร์ – อาทิตย์ โดยน้องตี๋อาสาว่าจะไปเช็กก่อนว่าน้ำลึกหรือไม่ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้ำขึ้นหรือไม่ขึ้น น้องตี๋พอเช็กแล้วว่าน้ำไม่ค่อยลึก ก็บอกทุกคนว่ามากันได้ จากนั้นทุกคนทยอยไป ตนก็ตามไปเพื่อจะเช็กว่าไปต่อได้หรือไม่ จากนั้นมีการเช็กกันว่าระยะทางสามารถไปได้อีก แต่เป็นน้ำ ตนจึงถามน้องว่าจะไปต่อหรือไม่ ถ้าไปต้องมุดน้ำต่อ แต่มองนาฬิกาแล้วมันเกินเวลากำหนด จึงบอกน้องว่าให้กลับก่อน วันนี้ถอยทัพก่อน วันหน้าค่อยมาใหม่ ก็พากันกลับมาแบบปกติ

โค้ชเอก กล่าวว่า พอมาเจอตรงสามแยก น้องบิวตะโกนเราเจอน้ำ ตอนแรกมีน้องคนหนึ่งถามว่าเราหลงทางหรือไม่ ซึ่งไม่หลง เพราะมีเส้นทางเดียว ตนจึงสำรวจอีกครั้งว่าใช่ทางเข้าที่มาหรือไม่ โดยให้น้องถือเชือกไว้ แล้วตนจะจับเชือกและเดินไป โดยบอกสัญญาณน้องๆ ไปว่าถ้ากระตุก 2 ครั้งแสดงว่าตนออกจากรูไม่ได้ให้ดึงกลับ ตนก็มุดดู ปรากฏว่าข้างล่างเป็นทราย ข้างบนก้อนหิน เลยกระตุกเชือก น้องก็พากันดึง แล้วบอกน้องๆ ว่าเราออกไม่ได้ ต้องหาทางออกใหม่ จึงพากันขึ้นมาบนบก แล้วขุดร่องให้น้ำระบายมา โดยใช้ก้อนหินมาขุด 

ตอนนั้นเกือบ 17.00 น. ขุดไปเรื่อยๆ แต่ขุดเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีน้ำจะลด เราจึงไปหาที่นอนก่อนหรือไม่ เพราะเริ่มมืดแล้ว หกโมงเย็นกว่าแล้ว ทุกคนเลยตกลงว่าไปหาที่นอนก็ได้ ซึ่งตนบอกว่าไม่ต้องกลัว อาจเป็นปรากฏการณ์น้ำขึ้น - น้ำลง เช้าน้ำอาจลดก็ได้ จึงไปหาที่นอนกัน แต่ไม่มีขนมอะไรเลย ไม่ได้เตรียมอะไร กินกันมาตั้งแต่ที่สนามฟุตบอลตอนซ้อมเท่านั้น

โค้ชเอก กล่าวว่า เราถอยจากสามแยกเข้าไป 200 เมตร แล้วเจอเนินที่เป็นทราย มีน้ำที่ตกและน้ำย้อยอยู่ ตนจึงบอกน้องๆว่าอยู่ใกล้แหล่งน้ำดีกว่า เลยพากันค้างคืนตรงนั้น แล้วก่อนนอนได้บอกให้ทุกคนไหว้พระก่อนนอนกันดีกว่า จึงพากันไหว้พระ ตอนนั้นไม่กลัว คิดว่าพรุ่งนี้น้ำน่าจะลด

ถามว่า ใครเป็นตอบเป็นภาษาอังกฤษกับนักดำน้ำต่างชาติที่เจอคนแรก  น้องอดุลย์ กล่าวว่า วันนั้นเป็นช่วงเย็น พวกเรานั่งอยู่บนโขดหินด้านบน ได้ยินเสียงเหมือนคนพูดกัน โค้ชเอกจึงให้เงียบๆ ก่อนเพื่อฟัง ปรากฏว่ามันเป็นเสียงคนพูดคุยกันจริง ตนก็ตกใจ โค้ชเอกจึงให้มิคลงไปเพราะมีไฟฉาย แต่ระหว่างมิคยังไม่ได้ลง ตนจึงไปเอาไฟฉายจากมิคลงไปทักทาย ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่เห็นหน้า เพราะมันเป็นจังหวะที่เขาโผล่จากน้ำขึ้นมาคุยกัน ตอนแรกพวกเราคิดว่าคนไทยหรือเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ใช่ จากนั้นเขาลุกขึ้นจากน้ำ พวกเราตกใจ เขาเป็นคนอังกฤษ ไม่รู้จะพูดไร ช่วงนั้นมันงงๆ เพราะไม่ได้รับประทานอาหารหลายวัน คิดนานกว่าจะตอบ เลยพูดทักทายว่าเฮลโล พอเขาขึ้นมาก็ถามจำนวน และถามเราว่าสบายดีหรือไม่ ตนก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษว่ามี 13 คน นักดำน้ำต่างประเทศให้พวกตนขึ้นไปข้างบน โดยไม่ต้องลงมา

ถามว่า มีข่าวว่าจะบวชให้ น.ต.สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตระหว่างการช่วยเหลือจริงหรือไม่ โค้ชเอก กล่าวว่า จะไปบวชเพื่ออุทิศบุญกุศลให้ น.ต.สมาน ทุกคนพร้อมใจกันหมด โดยน้องๆ บอกว่าบวชกี่วันก็ได้ โค้ชเอกบวชเท่าไรก็จะบวชเท่านั้น โดยเป็นการบรรพชาหมู่พร้อมกัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"