ฮ.เหยี่ยวข่าวช่อง7ตก 'นักบิน-ช่างภาพ'ดับ4


เพิ่มเพื่อน    

    เฮลิคอปเตอร์เช่าทีมข่าวช่อง 7 ตกกลางทุ่งนา อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ระหว่างบินมารับผู้สื่อข่าวที่สนามบินขอนแก่น นักบินพร้อมผู้ช่วยและช่างภาพอีก 2 เสียชีวิตรวม 4 ศพ เบื้องต้นคาดทัศนวิสัยไม่ดี ฝนตกตลอดเวลา "คมนาคม" ส่ง จนท.เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
    เมื่อวันพุธ เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.กีรติกร อมรพัฒน์ภาคิน ผกก.สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก บริเวณทุ่งนา ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จึงรายงานพล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,  พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้ากองข่าว กกล.รว.จว.ขอนแก่น, แพทย์เวร รพ.ชนบท และหน่วยกู้ชีพ อบต.วังแสง เดินทางไปตรวจสอบ
    จุดเกิดเหตุเป็นทุ่งนา พบเครื่องบินเล็กแบบเฮลิคอปเตอร์โดยสาร ยูโรคอปเตอร์ รุ่น AS355 NS สีขาว ตกอยู่กลางทุ่งนา สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนของเครื่องบินกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นที่ โดยมีไฟลุกไหม้ตลอดเวลา 
    โดยตัวเครื่องตกอยู่กลางทุ่งนาติดกับถนนบริเวณท้ายของหมู่บ้าน ส่วนห่างจากจุดแรกประมาณ 20 เมตร ขณะที่ผู้เสียชีวิตพบในที่เกิดเหตุทั้งหมด 3 ราย แยกเป็นบริเวณที่นั่งคนขับ 1 ราย และอีก 2 รายอยู่ห่างจากจุดตัวเครื่องประมาณ 10 เมตร จำสภาพไม่ได้ เนื่องจากถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงระดมเครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนที่เข้าทำการสกัดและควบคุมเพลิง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บกู้ซากเฮลิคอปเตอร์
    นายประยุทธ พุธพึ่ง อายุ 41 ปี ชาวบ้านหูลิง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า มีเสียงเฮลิคอปเตอร์บินต่ำกว่าปกติ มองขึ้นบนฟ้าก็เห็นเฮลิคอปเตอร์บินต่ำจากพื้นดินประมาณ 40 เมตร วนไปมา 2 รอบ และเสียงเครื่องก็ดับกลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งลงกลางทุ่งนา มีไฟลุกท่วม จึงรีบวิ่งเข้าไปที่ตัวเครื่องเพื่อจะช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ปรากฏว่าเฮลิคอปเตอร์ระเบิด และเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบศพผู้ตาย 3 ศพ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ
    ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวได้รับรายงานว่าออกจากสนามบินฝึกบิน จ.สระบุรี และขอผ่านเส้นทางขอนแก่นเท่านั้น ก่อนขาดการติดต่อในพื้นที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดยรายละเอียดต่างๆ นั้น กรมท่าอากาศยานจะส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่อีกครั้ง เบื้องต้นคาดการณ์ว่าทัศนวิสัยไม่ดี เนื่องจากพื้นที่ขอนแก่นเป็นเส้นทางการจราจรทางอากาศนั้นมีเมฆปกคลุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และฝนตกตลอดเวลา
    นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นที่นาของนายพงษ์ นามเข็ม ซึ่งได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามขั้นตอน เพราะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมือและให้การช่วยเหลือกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างเต็มที่ จนกว่าการดำเนินการสอบสวนสืบสวนและการกู้ซาก รวมทั้งการลำเลียงผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุจะแล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุนั้นรอสรุปยืนยันอีกครั้ง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายชื่อที่ได้มีการแจ้งแผนการบินมากับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว พบว่า ได้ทำการขอทำการบินในเส้นทางสระบุรี-ขอนแก่น โดยยืนยันจำนวนผู้โดยสารประกอบด้วย นายเสกสรร  วรรณา กัปตัน, พ.ต.อ.สินสมุทร สันเพทา ผู้ช่วยนักบิน,นายสมเนา น้อยสกลุ ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และนายรณกิจ เพชรนิล ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ส่วนเฮลิคอปเตอร์เป็นอากาศยานของ บ.SFS เอวิเอชั่น จำกัด ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้ทำการเช่าเพื่อทำข่าวและรายการต่างๆ ของทางสถานี โดยก่อนเกิดเหตุได้ทำการบินมารับผู้สื่อข่าวที่ จ.ขอนแก่น แต่ขาดการติดต่อไป จนกระทั่งมาพบว่าประสบอุบัติเหตุดังกล่าว 
    ต่อมาเวลา 16.30 น. นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผู้ว่าฯขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งทีมงานช่อง 7 เดินทางมาติดตามเหตุการณ์ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง
    นายณัชฐพงศ์ มูฮำหมัด ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มารอทีมงานที่สนามบินขอนแก่น เพื่อร่วมทำข่าวอิทธิพลของพายุฝนที่ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากในระยะนี้มีพายุเข้าในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยทีมข่าวนั้นให้มาสแตนด์บายเพื่อรายงานข่าวในพื้นที่ โดยขณะอยู่ที่สนามบินสระบุรียังคงคุยกันกับทีมงานอยู่
    "ผมทำข่าวร่วมงานกับทีมเหยี่ยวข่าว 7 สี ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำข่าวเรื่องของตัวเอง หรือพูดเรื่องของตัวเอง ผมเสียมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ทุกวันเราอยู่กันแบบครอบครัว" ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ระบุ
    กระทั่งเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนอากาศยานประสบอุบัติเหตุได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ การวัดระยะและการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด โดยเฉพาะกับการหากล่องดำหรือเครื่องบันทึกการบินของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว เพื่อประกอบในสำนวนการสอบสวนสาเหตุในภาพรวมทั้งหมด
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 4 ได้แล้ว โดยพบถูกเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวเครื่องนั้นทับอยู่ ทำให้ในขณะนี้ยืนยันผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้แล้วทั้งหมด 4 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์ที่ รพ.ชนบท ส่วนการเก็บกู้ซากเครื่องบินนั้น ต้องรอผลสรุปจากคณะกรรมการฯ อีกครั้ง 
    ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรเดินทางไปเก็บรวบรวมข้อมูล และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความร่วมมือด้านการสอบสวนที่จัดทำขึ้นระหว่างกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการสอบสวนฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้แจ้งข่าวการเกิดอุบัติเหตุไปยังสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งเป็นรัฐผู้ออกแบบและรัฐผู้ผลิตอากาศยานดังกล่าว และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตามมาตรฐานการบินพลเรือนระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"