ดิ่งตึกดับศาลยกฟ้องฆ่าลูก ญาติร่ำไห้โวย!ไม่ยุติธรรม


เพิ่มเพื่อน    

    สะเทือนกระบวนการยุติธรรม! พ่อโดดตึกชั้น 8 ศาลอาญาดับคาที่ หลังผิดหวังศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยคดีแทงบุตรชายเสียชีวิต ญาติร่ำไห้โวยไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ชั้นสอบสวน ชี้มีวงจรปิดจับภาพได้แต่ไปขอกลับบอกว่ากล้องเสีย ผบช.น.จ่อเรียกสำนวนคดีจาก สน.ดินแดงมาดู โฆษกศาลแจงประจักษ์พยานป่วยไม่ได้มาเบิกความ-พยานอื่นยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอจึงยกฟ้อง ระบุโจทก์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้
    เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เกิดเหตุชายอายุประมาณ 40  ปี กระโดดจากชั้น 8 ของอาคารศาลอาญา ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตบริเวณทางเดินด้านหน้าอาคารศาลซึ่งเป็นลานจอดรถ สภาพศพผู้ตายสวมเสื้อแขนยาวลายสีน้ำเงิน ก่อนเจ้าหน้าที่จะเร่งนำผ้าขาวมาคลุมศพไว้  
    ภายหลังทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายศุภชัย ทัฬหสุนทร เป็นผู้มาฟังคำพิพากษาในคดีที่บุตรชายของตนเองคือ นายธนิต ทัฬหสุนทร ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตในช่วงวันสงกรานต์เมื่อปี 2559 ซึ่งผลปรากฏว่า ศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ถูกฟ้องว่าเป็นคนร้ายในคดีดังกล่าว นายศุภชัยจึงเกิดความเครียดร้องไห้เสียใจ ปีนข้ามช่องหน้าต่างบริเวณทางเดินหน้าห้องพิจารณาคดี กระโดดลงไปบนพื้นระเบียงที่มีกำแพงคอนกรีตกั้น ก่อนปีนข้ามกำแพงกระโดดลงมาจากชั้น 8 ของอาคารศาล ร่างกระแทกพื้นถึงแก่ความตายทันที 
    หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วย ผกก.สน.พหลโยธินได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ชันสูตรพลิกศพ ก่อนที่จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำร่างส่งสถาบันนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรต่อไป
    ขณะญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งได้ร่ำไห้เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า คดีนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน เหตุเกิดพื้นที่ สน.ดินแดงเมื่อ 2 ปีก่อน หลานชายถูกแทงตาย มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ แต่เมื่อไปขอภาพกลับพบว่ากล้องเสีย โดยหญิงคนดังกล่าวได้ร้องไห้ฟูมฟาย  เจ้าหน้าที่จึงต้องเชิญไปสงบสติอารมณ์ภายในศาลอาญา 
    ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ทราบว่าเบื้องต้นผู้เสียชีวิตตัดสินใจโดดอาคารลงมา เนื่องจากความเครียด เขาคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังศาลชั้นต้นตัดสินว่าให้ยกฟ้องจำเลยในคดีฆาตกรรมบุตรชายของผู้เสียชีวิต
    ผู้สื่อข่าวถามกรณีญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่า คดีของบุตรชายของผู้เสียชีวิตที่เกิดในพื้นที่ สน.ดินแดง ความจริงมีกล้องวงจรปิดอยู่ แต่พอจะเรียกมาเป็นหลักฐานกลับมีการระบุว่ากล้องวงจรปิดเสีย  พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนจะนำสำนวนทั้งหมดมาดู ทราบแต่ว่าเกิดเหตุที่ สน.ดินแดง ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่รับตำแหน่ง ผบช.น. ตนจะขอไปดูรายละเอียดก่อน ส่วนในคำพิพากษาที่ศาลมีวันนี้ เชื่อว่าศาลท่านตัดสินด้วยความเป็นธรรมตามพยานหลักฐาน จากนี้ตนก็จะเรียกสำนวนมาดูว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ทำไมศาลถึงยกฟ้อง เพื่อให้ได้ความรอบคอบ 
    "ซึ่งเมื่อสักครู่ผมก็ได้คุยกับภรรยาผู้เสียชีวิต ก็ทราบว่าผู้เสียชีวิตเครียดและหวังไว้มากว่าศาลจะพิพากษาลงโทษ แต่เราก็ไม่ทราบรายละเอียดเนื้อหา ต้องขอกลับไปรื้อฟื้นสำนวนคดีมาดูใหม่ก่อน คดีนี้ยังเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งตามขั้นตอนยังสามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้ต่อ ตอนนี้ก็ขอดูแลจิตใจภรรยาผู้เสียชีวิตก่อน ที่มาในวันนี้มาดูที่เกิดเหตุ ยังไม่ได้เข้าพบอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาแต่อย่างใด" ผบช.น.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวที่เป็นเหตุให้นายศุภชัยฆ่าตัวตายนั้น เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1089/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายณัฐพงษ์ หรือโจ้ เงินคีรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านฯ
    คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 เวลากลางคืนหลังเที่ยง นายณัฐพงษ์ จำเลย กับนายอาร์รีชัย หรือเบ็นซ์ หรืออาร์ม บุดดาวงค์ พวกของจำเลยซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันพาอาวุธมีดพกปลายแหลมขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 1 เล่ม ติดตัวไปในบริเวณปากซอยประชาสงเคราะห์ 1 ถ.ประชาสงเคราะห์ โดยร่วมกันมีเจตนาฆ่านายธนิต ทัฬหสุนทร ให้ถึงแก่ความตาย ร่วมกันชกต่อยนายธนิตที่บริเวณใบหน้าและลำคอหลายครั้ง และร่วมกันใช้อาวุธมีดพกปลายแหลมที่พกติดตัวมาแทงประทุษร้ายนายธนิตหลายครั้ง แทงถูกที่บริเวณไหล่ซ้ายลึกทะลุผ่านเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ และทะลุเข้าเส้นเลือดแดงบริเวณใต้ไหปลาร้าข้างซ้าย เป็นเหตุให้นายธนิตได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 72  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และศาลได้พิพากษายกฟ้อง
    ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้อธิบายถึงคำพิพากษาในคดีดังกล่าวว่า เหตุผลโดยสรุปคือ ประจักษ์พยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์และให้การไว้ในชั้นสอบสวนไม่อาจมาเบิกความในชั้นศาลได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาล จึงต้องรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนที่นำส่งในชั้นศาลประกอบพยานหลักฐานอื่น แต่พยานหลักฐานอื่นยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด พบว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีผู้คนเป็นจำนวนมาก ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏในชั้นศาลนั้นเห็นแต่เพียงเหตุการณ์ปากทางเข้าซอยที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถบันทึกภาพบริเวณจุดเกิดเหตุไว้ได้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง 
    "อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นเพียงการพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น ฝ่ายโจทก์ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีตามกฎหมายได้ต่อไป ซึ่งในชั้นอุทธรณ์ผู้พิพากษาที่ปฏิบัติหน้าที่ก็จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โดยปราศจากความกดดันหรืออคติใดๆ ขอยืนยันว่าศาลก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทำหน้าที่ของตนเองมาอย่างดีที่สุดแล้ว" นายสุริยัณห์กล่าว 
     พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้ตายนั้นทราบว่าเป็นความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ซึ่งยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวชฯ ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางและข้อมูลกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ส่วนสำนวนคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นของ สน.ดินแดง ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพได้สั่งให้นำสำนวนทั้งหมดมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งถึงสาเหตุที่ศาลยกฟ้อง เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เป็นธรรม และสามารถตอบข้อสงสัยของสังคมได้ ซึ่งยังสามารถยื่นอุทธรณ์และฎีกาได้อยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"