ปตท.สผ.โอดบาทอ่อนฉุดกำไรครึ่งปีแรกตก 6%


เพิ่มเพื่อน    

PTTEP โอดผลกำไรครึ่งแรกปี 61 หด 6% ทำได้ 1.98 หมื่นล้านบาท ชี้เป็นผลจากค่าใช้จ่ายทางภาษี-ค่าเงินบาทอ่อน ตัวแต่ยังย้ำรายได้โตรับผลจากการเติบโตของปริมาณการขายและราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น พร้อมพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1.75 บาทต่อหุ้น

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 16,971 ล้านบาท ลดลงประมาณ 6% จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 19,820 ล้านบาท เนื่องจากมีขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติรวม 3,410 ล้านบาท โดยหลักเป็นการขาดทุนและค่าใช้จ่ายทางภาษีจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทระหว่างงวด และขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท

ทั้งนี้ ปตท.สผ. มีรายได้รวมในครึ่งปีแรก จำนวน 81,343  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 73,693 ล้านบาท ตามราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวสูง และปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 297,999 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จาก 292,709 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ในส่วนของต้นทุนต่อหน่วย สำหรับครึ่งปีแรกปรับตัวขึ้นจาก 28.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ มาอยู่ที่ 30.37 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7% เป็นผลของค่าภาคหลวงที่สูงขึ้นตามรายได้และการปรับตัวของค่าเสื่อมจากการรับรู้สินทรัพย์ที่พร้อมใช้งานของโครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการเอส 1 

จากผลประกอบการดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2561 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ. งวด 6 เดือนแรกปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท สอดคล้องกับนโยบายการให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอแก่ผู้ถือหุ้น โดย ปตท.สผ. กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 9 ส.ค. 2561และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 ส.ค. 2561

อย่างไรก็ตาม ปตท.สผ. ยังเน้นดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ 3R (Reset-Refocus-Renew) โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ได้มีความคืบหน้าจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ Refocus โดยการเข้าซื้อสัดส่วนในโครงการบงกชจากบริษัทในเครือของกลุ่มเชลล์แล้วเสร็จ ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการถือสัดส่วนในโครงการบงกชเพิ่มขึ้นเป็น 66.6667% และปริมาณการขายเพิ่มขึ้นประมาณ 35,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

“ปตท.สผ. มองหาโอกาสและปรับแผนการลงทุนอยู่เสมอ สะท้อนผ่านการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา จากการเข้าซื้อสัดส่วน 22.2222% ในแหล่งบงกช ล่าสุดในเดือนก.ค.ได้อนุมัติขายสัดส่วนการลงทุนทั้งหมดในแหล่งมอนทารา พร้อมทั้งเดินหน้าประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ โดย ปตท.สผ. ให้ความสำคัญกับการลงทุนและความพยายามที่จะเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีความชำนาญและความเสี่ยงตํ่า โดยหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางเพื่อสร้างความเติบโตทั้งในเรื่องของปริมาณขายและปริมาณสำรอง ”นายสมพร กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"