จับฉ้อโกง100ล้าน แก๊งค้าเงินดิจิทัล


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กโจ๊ก" แถลงจับ 6 ผู้ต้องหาชายหญิง ร่วมแก๊งค้าเงินดิจิทัล ลวงประชาชนหลากอาชีพในหลายจังหวัดนับพันราย หอบเงินร่วมลงทุนมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน เจอข้อหาร่วมฉ้อโกงประชาชน เผย 2 หัวหน้าจนมุม ก่อนหน้านี้ติดคุกอยู่ที่ชลบุรี
    เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ร่วมขบวนการหลอกให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัล รวม 6 ราย ประกอบด้วย นางเขมรัศมิ์ อนันต์นิตยกิจ, น.ส.สุลาวรรณ พิมยา, น.ส.ภัณทิรา ศิริมงคล, น.ส.พรทิพย์ สืบประดิษฐ์สุข, น.ส.ศศิมนต์ ว่อง และนายพยุหพล สุภา
    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก ศปอส.ตร.ได้รับร้องเรียนจากประชาชนซึ่งตกเป็นเหยื่อบริษัท เวิร์ลด์ บิท เทรด (World Bit Trade) ชักชวนให้นำเงินมาลงทุน รับประกันผลตอบแทนสูง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งสืบทราบว่าบริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบธุรกิจเกี่ยวการซื้อ ขาย เก็งกำไรราคาของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) อาทิ บิตคอยน์ และอีเทอเรียม รับประกันรายได้วันละ 1% ของเงินลงทุน สูงสุด 300 วัน หรือ 300% และหากชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนจะได้เพิ่ม 10% ของเงินลงทุน แต่เมื่อผู้เสียหายเข้าลงทุนกลับไม่ได้ตามที่ตกลงไว้ มีผู้เสียหายหลงเชื่อนับพันราย แต่มีแจ้งความไว้เพียงประมาณ 50 ราย หลายพื้นที่ อาทิ กทม. ชลบุรี สงขลา และเชียงใหม่ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
    รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวมีนายภาษุ บางนงค์ และน.ส.วรรณทนีย์ เนียมสุวรรณ เป็นตัวการ มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน โดยจะแบ่งหน้าที่ทำงานเป็นทีม ใช้วิธีโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก ไลน์ หรือให้ผู้ร่วมขบวนการโทรศัพท์นัดชักชวนคนรู้จักให้มาฟังการชักชวนลงทุนว่าให้ผลตอบแทนสูงตามสถานที่ต่างๆ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ต่อมาภายหลัง นายภาษุ บางนงค์ และ น.ส.วรรณทนีย์ เนียมสุวรรณ ตัวการถูกคุมขังที่เรือนจำชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจับผู้ต้องหาทั้ง 6 รายได้ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อเข้ามาร่วมตรวจสอบ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงิน ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำเงินมาคืนพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกรณีนี้ สามารถเข้ามาแจ้งความได้ที่ บก.ปอศ. หรือติดต่อมาที่สายด่วน 1155
    น.ส.ธัญญารัตน์ สิทธิเจริญยศ อายุ 53 ปี ดีไซเนอร์ หนึ่งในผู้เสียหาย ให้การว่า กลุ่มผู้ต้องหามาชักชวนตนหลายครั้งเพื่อให้ร่วมลงทุนสกุลเงินดิจทัลดังกล่าว อ้างได้ผลตอบแทนสูง จึงหลงเชื่อร่วมลงทุน โอนเงิน 16 ครั้ง มูลค่ากว่า 2.7ล้านบาท ช่วงเดือน ก.ย.60 มีการเช็กผ่านเว็บตลอด ซึ่งเงินในเว็บดังกล่าวมีการปรับขึ้นตลอด กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 เดือน จะถอนเงินออก ก็ไม่สามารถถอนได้ คนของบริษัทบ่ายเบี่ยงสารพัด อาทิ เว็บระบบล่ม จึงเดินทางแจ้งความในพื้นที่ จ.ชลบุรี 
    เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 6 ถูกแจ้งข้อหาตามความผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชน หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ว่า ในการกู้ยืมเงิน ตนหรือบุคคลใดจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษตามมาตรา 12 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"