รวบหัวหน้าแก๊งโมซัมบิก เรียกค่าไถ่ ฆ่าอัยการ นักข่าว หนีซุกไทย


เพิ่มเพื่อน    

30 ก.ค. 61 - ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( บก.ปอศ.)วานนี้  พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) แถลงข่าวการจับกุมตัว Momade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ทางการโฆซัมบิกต้องการตัวมากที่สุดหลังก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ฆาตกรรมเจ้าหน้าที่รัฐ หลังหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวที่ประเทศไทยนานกว่า 3 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ รอง ผบช.ทท.เปิดเผยว่า  ในการจับกุมครั้งนี้ ได้รับการประสานงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยติดตามตัวนายMomade Assif Abdul SATAR สัญชาติโมซัมบิก ผู้ต้องหาตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ในคดีอุกฉกรรจ์ ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ มีความผิดข้อหาครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของประเทศโมซัมบิกเป็นอย่างมาก โดยประเทศโมซัมบิกได้มีการประสานไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกา ให้ประสานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้ชื่อในหนังสือเดินทางว่า MR. SAHIME MOHAMMAD ASLAM กระทั่งวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบว่ามีชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา ปรากฎตัวอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรมมาริออท ซอยสุขุมวิท 57 กรุงเทพมหานคร จึงแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งชายดังกล่าวไม่สามารถแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ไปส่งตรวจพิสูจน์ ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือตามหมายแดงตามอินเตอร์โพล และพบว่าเป็นลายนิ้วมือเดียวกับผู้ต้องหา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นลักษณะบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนาน 3 ปีแล้ว

ทั้งนี้ทางการโมซัมบิก ยืนยันว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศในระยะเวลาประมาณ 3 ปี ยังได้มีการสั่งให้องค์กรของตนดำเนินการลักพาตัวและเก็บค่าไถ่บุคคลต่างๆ ในประเทศโมซัมบิก และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา และยังแจ้งอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นระดับหัวหน้าองค์กร จะสั่งการให้ลูกน้องไปลักพาตัวนักธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศโมซัมบิกเพื่อไปเรียกค่าไถ่ มากกว่า 50 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเรียกค่าไถ่เป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท หากไม่ได้รับเงินจะฆาตกรรมเหยื่อ โดยมีเหยื่อถูกฆาตกรรมไปแล้ว 2 ราย และยังได้มีการทำร้าย และฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ของทางการโมซัมบิกและครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเอาผิดกับองค์กรนี้  โดยเฉพาะอัยการที่สั่งดำเนินคดีผู้ต้องหารายนี้ ได้ถูกฆาตกรรมโดยการยิงศีรษะถึง 16 นัด รวมถึงก่อเหตุฆ่าสื่อมวลชน ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนเป็นอย่างมาก

รอง ผบช.ทท.กล่าวต่อว่า จะแบล็คลิสผู้ต้องหารายนี้ถาวร ไม่ให้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้อีก นอกจากนี้ยังพบว่าระหว่างการจับกุมตัว มีการเสนอเงินสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เจ้าหน้าที่จะส่งตัวกลับประเทศโมซัมบิก ภายในสัปดาห์หน้า และจะขยายผลถึงลูกน้องที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"