ไล่ล่าเสี่ยอ้วน รอดหวุดหวิด มุ่งสู่ชายแดน


เพิ่มเพื่อน    

    คุมตัว "สายันต์" คนชี้เป้าฆ่า 2 ศพที่เขาชีจรรย์ทำแผน ตำรวจร่วมร้อยตรึงกำลังหวั่นถูกประชาทัณฑ์ ขณะที่กำลังอีกส่วนไล่จับ "เสี่ยอ้วน" กับสมุน ซิ่งรถหนีจนถึงสระแก้วก่อนรถประสบอุบัติเหตุไถลตกข้างทาง แต่ตัวเสี่ยอ้วนหนีรอดไปได้หวุดหวิด ตม.ยันยังไม่หนีออกนอกประเทศ
    ที่ สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี วันที่ 1 สิงหาคมนี้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เปิดเผยถึงคดีนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน บงการฆ่า น.ส.ปวีณา หรือปราย นาเมืองรักษ์ กับนายอนันชัย หรือฟอส จริตรัม อย่างเหี้ยมโหด หน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ว่าขอให้ประชาชนไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจชลบุรีถึงการติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้าย จะเป็นไปอย่างโปร่งใสตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าอำนาจเงินไม่สามารถซื้อจิตวิญญาณ เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของข้าราชการตำรวจจังหวัดชลบุรีได้
    พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวว่า ขอฝากถึงเสี่ยอ้วน ให้นำผู้ร่วมทีมสังหารเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากมีความสามารถหนีได้ก็หนีไป เจ้าหน้าที่รับประกันว่ากัดไม่ปล่อยอย่างแน่นอน และหากมีการต่อสู้ขัดขืน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการจับตายทันที 
    หลังจากนั้น พล.ต.ต.นันทชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ร.ต.อ.หญิงรสิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจอาสาเกือบ 100 นาย ควบคุมตัวนายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นคนชี้เป้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ส่งพิกัดแจ้งความเคลื่อนไหวให้กับเสี่ยอ้วน ตามสถานที่ท่องเที่ยวในเขตเมืองพัทยาและอำเภอสัตหีบ รวม 6 จุด โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมเข้ม เพราะหวั่นจะได้รับอันตรายจากกลุ่มทีมฆ่าและญาติผู้ตายที่โกรธแค้น แต่การทำแผนก็ผ่านไปได้ด้วยดี ท่ามกลางสื่อมวลชนทุกสำนักที่มาเฝ้ารอติดตามสถานการณ์รายงานข่าวในคดีนี้อย่างใกล้ชิด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน สั่งการให้ชุดสืบสวนควบคุมตัวนายสายันต์ไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลวัดญาณสังวราราม เพื่อเป็นหลักฐานชี้ชัดว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายขณะสอบสวน ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดพัทยาภายหลังการทำแผนเสร็จสิ้น
    ที่จังหวัดสระแก้ว เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บท 3631 ภูเก็ต บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 5 คลองบางใน ถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-วัฒนานคร ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ใกล้กับวัดคาทอลิก เส้นทางมุ่งหน้าสู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สระแก้ว ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ชลบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันติดตามไล่ล่ารถยนต์ 3 คัน ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา กระทั่งพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวประสบอุบัติเหตุในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ออกมาถีบจักรยานพบเห็น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบ กระทั่งทราบว่ารถคันนี้เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมที่ จ.ชลบุรี
    จากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับพร้อมกับนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน และนายสายันต์ ศรีสุข ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และสามารถจับกุมนายสายันต์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุไว้ได้
    พล.ต.ต.สุรจิตกล่าวว่า ขณะนี้ได้วางมาตรการป้องกันเสี่ยอ้วนหลบหนีออกนอกประเทศไว้แล้ว โดยมีด่านของนายทหารทุกหน่วยงาน ด่านของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และด่านของตำรวจท้องที่ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตั้งสกัดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จึงเชื่อว่าไม่สามารถออกไปประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างง่ายดาย 
    ขณะที่ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวัสดิ์ ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ขณะนี้ ตม.อรัญประเทศ และพื้นที่ชายแดนได้รับหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายแล้ว โดยได้สั่งการให้มีการวางมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยอย่างเคร่งครัด แต่ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา 
    มีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายชุดนี้นั่งรถหลบหนีมาด้วยกัน 3 คัน โดยรถคันที่ประสบอุบัติเหตุขับผ่านด่านตรวจยาเสพติด อ.วัฒนานคร ตั้งแต่ช่วงเวลา 13.58 น. วันที่ 31 ก.ค. คาดว่าจะใช้เส้นทางถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี ก่อนจะขับเสียหลักลงข้างทางช่วงเวลาประมาณ 05.00-06.00 น. ซึ่งคาดว่าเสี่ยอ้วนอาจจะเดินทางมากับรถคันนี้ และมีรถคันอื่นมารับหลบหนีต่อไป
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.สระแก้ว นำโดย พ.ต.ต.พูลทรัพย์ เสร็จสิ้น เข้าเก็บหลักฐานภายในรถ พบกล้องติดรถยนต์ จึงนำไปตรวจสอบขยายผล พร้อมทั้งลากรถยนต์คันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว 
    ส่วนที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อกลางดึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พร้อมกำลังทหาร บก.ควบคุม พล.ร.5 (ชป.รส.ร.25) และฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ เข้าตรวจสอบสถานบันเทิง "ปุ้มปุ้ยบาร์" (Pum Pui Bar) เลขที่ 7 ล็อก B ซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ ของนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน พบว่ายังเปิดให้บริการตามปกติ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ พบว่าไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ จึงควบคุมตัว น.ส.จารุพักตร์ นันตนะ อายุ 29 ปี ที่แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตองดำเนินคดีในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และสั่งปิดไม่มีกำหนดเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
    ต่อมาในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักของเสี่ยอ้วน เลขที่ 169/52 ซอยพระเมตตา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เป็นบ้านชั้นเดียว พื้นที่กว้างขวาง พบว่าใส่กุญแจไว้ จึงใช้เครื่องมือตัดกุญแจ ตรวจสอบพบเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ใบทะเบียนการครอบครองอาวุธปืน 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ 1 คัน ทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 คัน สมุดบัญชีธนาคาร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"