เมื่อ 'เต่า' รวมพลัง 'กปปส.'


เพิ่มเพื่อน    

      ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองกันเลย

      วันนี้ เอาซะหน่อย

      คือเซอร์ไพรส์น่ะ...........

      กับที่คุณชายเต่า "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" ลงสนามการเมือง ด้วยการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค รปช. "รวมพลังประชาชาติไทย"

      จากเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมพรรค ที่ประชุมคัดเลือกคณะกรรมการบริหารชั่วคราวกัน ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค เมื่อวาน (๕ ส.ค.๖๑)

      -.ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค

      -นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง อดีตอัยการ เลขาฯ

      -น.ส.จุฑาทัตต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิก

      -ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ ม.รังสิต นายทะเบียน

      -พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กก.บห.

      -นายวีระชัย คล้ายทอง อดีตอัยการ กก.บห.

      -นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ กก.บห.

      บอกพรรค "รวมพลังประชาชาติไทย" บางคนอาจมึนๆ ต้องต่อสร้อยว่า สืบสายรกมาจาก กปปส.โดย "คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ" นั่นแหละ

      หะแรก นึกว่าวางตัว "อาจารย์เอนก เหล่าธรรมทัศน์" เป็นหัวซะอีก เห็นเปิดตัวเอิกเกริก

      นี่แหละ ขึ้นชื่อว่าการเมือง......

      ถ้าขึ้นต้นแล้วคนเดาได้หมดว่าลงท้ายจะเป็นอย่างไร มันก็บ่มิไก๊ เหมือนมีด ลูบโคนยันปลาย ถ้าไม่แปล๊บมือ

      เขาเรียกสาก ไม่เรียกมีด!

      "คุณชายเต่า" ว่ากันที่จริง ในวงการเมืองนั้น ท่านใกล้ก็เหมือนไกล-ไกลก็เหมือนใกล้

      รำไรๆ เหมือนปลายจมูกกับขนตามาตลอด ไม่เคยบรรจบกันจริงๆ ซักที

      คราวนี้ลงตัว ชนิด "มีได้-มีเสีย"!

      ลูกชาย เป็นอดีต ส.ส.อยู่ ปชป. ส่วนพ่อ มาเป็นหัวหน้าพรรค รปช. เข้ากันเหมือนเนยผัดสะตอ

      ๒ พรรคนี้จะ "ตัดตายขายขาด" หรือ "คนละพรรคแต่รักเป็นพวก"

      ........เดี๋ยวก็รู้?

      การที่คุณชายเต่ามาเป็นหัว กปปส.ในรูปพรรคการเมือง รปช.ต้องประเมินกันมากทีเดียว

      ม.ร.ว.จัตุมงคล ไม่ใช่คนกระสันการเมือง แต่ห่วงและรักบ้าน-รักเมือง

      อย่างที่ "กำนันสุเทพ" พูดถึง "คุณชายเต่า" ตอนเปิดตัวพรรค รปช. เมื่อต้นเดือนมิถุนาว่า

      “เขาเป็นคนปากจัด ไม่ค่อยชอบนักการเมือง มาถามว่า มีคนคิดจะตั้งพรรคการเมืองของประชาชนขึ้นในแผ่นดินนี้จริงหรือไม่

      ในชีวิต ไม่เคยคาดคิดว่า จะเห็นพลังของประชาชนที่รักชาติรักแผ่นดิน กล้าเสียสละมากมายเหมือนการต่อสู้ของประชาชนเมื่อปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ขอเป็นผู้ร่วมตั้งพรรคการเมืองของประชาชนด้วยคนหนึ่ง”

        นี่บ่งชัด.......

      บ่งถึงว่า การอาสาเป็นหัวหน้า นำพรรค รปช.ลงสนามเลือกตั้ง ก็ด้วยพลังศรัทธาในมวลมหาประชาชนปฏิรูปสังคมชาติ เมื่อปี ๕๖-๕๗

      ดังนั้น.......

      ด้วย "โสณกุล" เชื้อสายใน "รัชกาลที่ ๔" เป็นเดิมพัน

      การโจนเข้าการเมืองเต็มตัวครั้งนี้ จุดมุ่งหมายสูงสุด ไม่ได้อยู่ที่อำนาจ

      ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง-ลาภยศ ที่จะได้จากการเมือง ซึ่งชาติสกุลและฐานะขณะนี้ มีล้นเหลืออยู่แล้ว

      แต่ เพื่อประเทศชาติ-บ้านเมือง..........

      จากคำพูดท่าน ในหลายที่ บ่งถึงเจตนาว่า ถ้าคนระดับท่าน ต่างเมิน ต่างถือว่าธุระไม่ใช่ ไม่เอา..ไม่อยากเปลืองตัว เอาแต่เสวยสุขส่วนตัว

      แล้วชาติบ้านเมือง จะยกให้เป็นธุระใครล่ะ?

      แล้วบ้านเมืองจะอยู่ด้วยการเมือง เสือหิว-เสือโหย, โกยแบ่งกัน, โจรชุบตัวในระบบรัฐสภา อย่างนั้นหรือ?

      ก็นั่งบ่น นั่งด่ากันอย่างนี้แหละ

      ใครเข้ามาทำ-มาแก้ ก็ไม่เคยเห็นใครดีซักคน สังคมบ้านเมืองเรา มันเป็นลักษณะนี้

      เมื่อมีโอกาส ประกอบด้วยคณะบุคคลที่ท่านเล็งเห็นความจริงใจต่อบ้านเมืองรวมตัวกันครั้งนั้น

      กำนันสุเทพตั้งพรรค........

      ม.ร.ว.จัตุมงคล ซึ่งปกติ ท่านไม่แยแสใครซักเท่าไหร่ ยิ่งในลักษณะซูฮกคนด้วยแล้ว ยิ่งไม่เคยเห็น

      แต่ท่านกลับยอมเดินไปหากำนันสุเทพ และเอ่ยปาก

      "ผมขอร่วมด้วย"!

      ไม่ใช่มาขอเป็นหัวหน้าพรรค รปช.

      เป็นแกน เป็นก้าง เป็นหาง อะไรได้ทั้งนั้น ในกระบวนการสร้างสรรค์บ้านเมืองใหม่ ด้วยขับเคลื่อนผ่านพรรคการเมืองในเส้นทางเลือกตั้ง

      "คุณชายเต่า" บางทีก็ "อ่านยาก" และ "จับต้องยาก" ยิ่งกว่าศิลาจารึก

      แต่ถ้าสะกิดถูกต่อม "อ่านง่าย" ยิ่งกว่านิยาย ป.อินทรปาลิต!

      ตอนเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ปี ๒๕๔๔ ทักษิณ "ปลดได้-ปลดไป" แต่เรื่องที่จะให้ทำตามใบสั่ง

      "เต่า" ไม่ทำ!

      การนำพรรค กปปส.หรือพรรค รปช.ต้องบอกว่า เดิมพันครั้งนี้ "สูงมาก"

      สูงทั้งความเป็น "ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล"

      สูงทั้งกระบวนการขับเคลื่อนสังคมชาติใหม่ในเจตนารมณ์มวลมหาประชาชน

      และเป็น "ความสูง" ในความ "สับสน" สู่ความลงตัวทางอำนาจบริหารที่เรียก "รัฐบาล" ที่มาจากการเลือกตั้ง

      เพราะ "ความลงตัว" ใน "ขั้วการเมือง"

      มัน "ลงตัว" ในความ "ขมุกขมัว" มากอยู่!

      เพราะอะไร?

      ประเด็นแรก-ประเด็นหลัก ก็คือ ร้อยละ ๙๙ เห็นตรงกันว่า เลือกตั้งที่จะถึง ด้วยรูปแบบตามรัฐธรรมนูญบัญญัติ

      จะไม่มีพรรคใด.......

      ได้ ส.ส. "มากพอ" เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลได้!

      หมายถึง จะต้องมีขั้ว

      ขั้วไหน "รวมหลายๆ พรรค" ได้เสียงเกินครึ่ง นั่นแหละจึงจะได้เป็นแกน

      ฟังที่คุณชายเต่าให้สัมภาษณ์เมื่อวาน เห็นภาพรัฐบาลหลังเลือกตั้งชัด

      "ตามรัฐธรรมนูญใหม่ วิธีคำนวณปาร์ตี้ลิสต์จะทำให้พรรคการเมืองที่ชนะเสียงข้างมากมีโอกาสน้อย  จึงน่าจะเป็นรัฐบาลผสม

      และเชื่อเหมือนกับนายสุเทพว่า พรรค รปช.มีโอกาสเป็นรัฐบาล

      ส่วนจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีประโยชน์ที่จะคิดล่วงหน้า

      อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งคราวหน้า ทุกพรรคถูกบังคับให้เสนอชื่อนายกฯ ไม่เกินสามคน โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรค

      เชื่อว่าหลังเลือกตั้งแล้ว น่าจะได้นายกรัฐมนตรีจากรายชื่อ 'ที่พรรคการเมืองเสนอ'

      ส่วน 'พลเอกประยุทธ์' จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะตัดสินใจอยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดหรือเปล่า?

      เพราะถ้าไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อ ก็เชื่อว่าโอกาสที่จะไปถึงการเลือกนายกฯ คนนอก 'น่าจะเป็นไปได้ยาก'

      แต่ในส่วนของพรรค รปช.ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ว่า จะทาบทามพลเอกประยุทธ์มาอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคหรือไม่"

      ก็ชัดเจน รปช.ก็รู้ จะได้ ส.ส.ไม่มากถึงขั้นเป็นแกนนำ และรัฐบาลต่อไป จะเป็นรัฐบาลผสม "หลายพรรค"

      "นายกฯ คนนอก" เปอร์เซ็นต์เกือบเป็น ๐!

      นายกฯ ๑-๓ ชื่อในบัญชีพรรคเท่านั้น มีสิทธิ์

      อย่างนี้ ก็หมายความว่า..........

      ถ้าพลเอกประยุทธ์ ต้องการเป็นนายกฯ ต่อ ก็ต้องตัดสินใจเลือกเอาพรรคใด-พรรคหนึ่ง

      ให้เสนอชื่อเป็น ๑-๓ ว่าที่นายกฯ ของพรรคนั้นๆ

      ที่จะหวังพึ่งบริการ ส.ว.ชี้ขาดในที่สุดของทางตันว่าเลือกใครไม่ได้แล้ว นั้น

      เห็นจะ "แห้ว"!

      พรรค รปช.เป็น "ขั้วรัฐบาล" ชัดอยู่แล้ว และจากที่คุณชายเต่าและกำนันสุเทพพูด ก็ยอมรับกลายๆ

      รปช.คงได้เสียงไม่มากพอจะได้เป็น "ขั้วในขั้ว" จัดตั้งรัฐบาล

      ถ้าอย่างนั้น พรรคไหนล่ะ ที่มีลำหัก-ลำโค่น จะได้เป็น "แกน" ขั้วรัฐบาล?

      เพราะเห็นหลายพรรค แสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ เช่นพรรคประชาชนปฏิรูป พรรครวมพลังประชาชาติไทย

      และพรรค "พลังประชารัฐ" ของ "คุณชวน ชูจันทร์"

      "สามมิตร" ที่ไม่ใช่ "สมพงษ์-ล้อต๊อก-ชูศรี" ก็อยู่ในพรรคนี้!

      นี่แหละ ที่ผมว่า คนดูหนัง-ดูลิเก เขายังงงๆ อยู่ว่า...ไหนหว่า พรรครัฐบาล หรือพรรคนายกฯ ประยุทธ์?

      ผมว่าตุลานี้ ก็น่าทำให้ชัดเจน........

      มัวแต่ลีลามาก คนดูเวียนหัว เอา-ไม่เอา ขี้เกียจเดาใจ ไม่ล่ง-ไม่เลือกมันส่งไปเลย ดีดดิ้นดีนัก!

      "พลังประชารัฐ" นั่นแหละ ที่คณะนายกฯ ประยุทธ์จะใช้เป็นหัว-เป็นขั้ว "รวมพรรค" จัดตั้งรัฐบาล

      "คุณชวน" นั่น อย่านึกว่าแค่ชาวไร่-ชาวสวนคลองลัดมะยมนะ

      ท่านจบขั้นปริญญาโท

      แต่สมถะ ธัมมะ-ธัมโม กินน้อย-ใช้น้อย แบ่งปันมาก ตามเส้นทางสมณะโพธิรักษ์ แห่งสันติอโศก

      แค่นี้น่ะหรือ จะมาเป็นพรรคแกนฝ่ายรัฐบาล?

      "ชวน" เพื่อนในวงแขน "สมคิด"

      พอมั้ย?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"