'ประชาธิปไตย' ต้องให้เขาบ้าง


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วงนี้.........

      ถ้าไม่มีข่าวน้ำท่วม กับข่าวดรามาดาราผัวเมียแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ผมใช้ทำมาหากิน

      จะคุยเรื่องน้ำที่เพชรบุรี

      ก็อีกแหละ.......

      ผู้ว่าฯ หญิง "นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี" ท่านเตรียมการรับมือไว้ดี ถึงขนาดนายกฯ ออกปากชม

      ก็ไม่มีประเด็นให้หยิก-กัด

      ครั้นจะคุยเรื่องผัวๆ เมียๆ ดารา อย่างที่เขาฮือฮา-โครมครามกัน ก็จนใจ

      ก็หมดสภาพจะตามกลิ่นแล้ว!

      การไม่รู้จะเขียน-จะคุยอะไร แต่ต้องเขียน มันเป็นความทุกข์แสนสาหัสอย่างหนึ่ง

      เลียบๆ เคียงๆ มาทางการบ้าน-การเมือง มันก็เงียบสงบผิดปกติวิสัยขย่มเมืองในรอบ ๑๐ ปี

      เซ้ง-เซ็ง!

      บ้านเมืองสงบ ก็แปลว่า จะได้ "เลือกตั้ง" กันแล้วน่ะซี เพราะนายกฯ เคยบอก

      "ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ ยังไม่เลือกตั้ง"

      นี่สงบแล้ว

      ท่าจะมีเลือกตั้งกันจริงๆ ด้วยแหละ ยิ่งเมื่อวาน (๗ ส.ค.๖๑) ท่านนายกฯ แย้มฝาโลง

      "จะคลายล็อก" คำสั่ง คสช.ที่ ๕๓/๒๕๖๐ ให้พรรคเก่าๆ แอ็กอาร์ตกันได้บ้าง

      การเลือกตั้ง ชักจะรำไรๆ

      เท่าที่ผมสังเกต ในรอบ ๑๐ วันมานี้ นายกฯ ส่งสัญญาณ เรื่องเลือกตั้งถึง ๒ ครั้ง

      ครั้งแรก ตะงอดกับนักข่าวเรื่องอะไรจำไม่ได้ แต่ม้วนหางเสียงเป็นม้าน้ำว่า........

      "พูดเป็นพันครั้งแล้ว ปีหน้าเลือกตั้ง"

      วานซืน นักข่าวไปถามเรื่อง "จาการ์ตา โพสต์" ตีพิมพ์บทความ "ตามออร์เดอร์" เรื่อง

      "อย่าให้ผู้นำเผด็จการทหารไทยนั่งเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า"

      นายกฯ ใบ้หวยอีก........

        "ปีหน้าเราจะเป็นประธานอาเซียน แต่ยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นรัฐบาล

        เพราะการประชุมอาเซียน จะเกิดขึ้นภายหลังเลือกตั้ง ดังนั้น อย่ามากังวลอะไรกับผมว่าใครจะเป็นหรือไม่เป็นรัฐบาล"

      กลับ ๖ ประตู แทงเต็ง เจ้ามือจ่ายอื้อแน่........

      คือพฤศจิกานี้ นายกฯ สิงคโปร์ จะส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน "ตามเทอม ๑ ปี" ให้นายกฯ ประยุทธ์

      มกรา ๖๒ เป็นต้นไป

      ไทย โดยนายกฯ ประยุทธ์เป็น "ประธานอาเซียน" เต็มตัว

      ตามปฏิทินงานที่ "ประธานอาเซียน" ต้องจัดประชุมตามกำหนดในกฎบัตรอาเซียน

      กระทรวงต่างประเทศจัดทำแผนการประชุมตั้งแต่ระดับสุดยอดถึงระดับคณะทำงานในปี ๒๕๖๒ ไว้แล้ว ไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ การประชุม

      นั่นคือ ที่นายกฯ บอก........

      "การประชุมอาเซียน จะเกิดขึ้นภายหลังเลือกตั้ง"

      นั่น ทั้งตอก-ทั้งย้ำ ว่าการเลือกตั้ง "ต้องมี-ต้องเร็ว"

      ไม่งั้น "ประเทศไทย" จะพังรอบ ๒ ในฐานะ "ประธานอาเซียน" ที่พังมาแล้วหนหนึ่ง เมื่อปี ๒๕๕๒

      คือ ถ้ายังไม่ตีกรอบเลือกตั้งชัดลงไป นายกฯ ประยุทธ์ ก็ทำหน้าที่ประธานอาเซียน จัดประชุม ๑๐๐  ไปได้ตามปฏิทินประชุม

      แต่เมื่อบอกว่า "การประชุมเกิดหลังเลือกตั้ง"

      ก็หมายความว่า ต้องมีรัฐบาล มีนายกฯ จากการเลือกตั้งก่อน

      และตัว "นายกฯ คนใหม่" จะเป็น "ประธานอาเซียน" ในนามประเทศไทย

      แบบนี้ การประชุมตามกฎบัตรอาเซียนที่วางไว้แล้วทั้งหมดไม่ต่ำกว่าร้อยประชุมในหนึ่งปี จึงจะเดินไปได้

      แสดงว่า ปลายกุมภา ๖๒ จะได้เลือกตั้งตามที่คาดใช่มั้ย?

      ถ้าจะให้รัฐบาลใหม่-นายกฯ ใหม่ทำหน้าที่ประธานอาเซียนได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ก็ควรเยี่ยงนั้น

      แต่ดูแล้ว เอาซัก ๖๐/๔๐

      ๖๐ คือยังไม่มี!

      แต่ถ้าภายในเดือนพฤษภา ๖๒ น่าจะ ๙๐/๑๐ คือ ๙๐ มีเลือกตั้ง

      แต่ดูน่าจะถูกมิตรประเทศตำหนิ เพราะจะทำให้กลุ่มอาเซียน มีประธานก็เหมือนไม่มี วาระประชุมจะสะดุดไปหมด

      ทั้งหมดนี้.......

      บนเจตนาที่นายกฯ ประยุทธ์พูด คือ การประชุม ต้องหลังเลือกตั้ง

      และบนความรับผิดชอบ ต้องจัดประชุมร้อยกว่าประชุมตามกฎบัตรอาเซียนในหนึ่งปี

      การจะให้เจตนากับความรับผิดชอบไปด้วยกันได้ โดยไม่เสียเครดิตประเทศไทย

      ก็ต้องเลือกตั้งเร็ว เพื่อมีรัฐบาลใหม่ ให้นายกฯ คนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่ประธานอาเซียนได้ตามกรอบเวลา

      นี่พูดด้วยทึกทักคำพูดนายกฯ ส่วนหนึ่ง ตามโรดแมปส่วนหนึ่ง

      และอีกส่วนคือ "ตามหลักการ" ที่ควรแก่เวลาจะต้องมีเลือกตั้งแล้ว

      ช้าเป็นการ แต่ถ้านานกว่านี้.........

      "เสียคน-เสียของ" บอกตรงๆ!

      ทั้งหมดนี้ จะเริ่มนับ ๑ สู่โหมดเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ ถ้ามีคนถาม ผมก็จะตอบว่า

      ภายในเดือนกันยา ช้าสุด "ต้นตุลา"

      เพราะถึงตอนนั้น กฎหมาย "ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส." น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา

      บ่มไว้อีก ๓ เดือน จะมีผลใช้บังคับ ก็ตกปลายปี

      จากนั้น ภายใน ๑๕๐ วัน......

      คือภายใน ๕ เดือน ของปี ๖๒ ตั้งแต่มกรา-พฤษภา จะกำหนดเลือกตั้งวันไหน สุดแต่ใจรัฐบาลปรารถนา

      นี่.....

      "ทุกด้าน" มีเหตุและผลให้คำนึง การเสนอความเห็นให้ทราบ เป็นหน้าที่เรา

      ส่วนการตัดสินใจ เป็นหน้าที่ของท่าน!

      บนหลักการนั้น........

      รัฐบาล คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ใช้ความเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ เข้าจัดระเบียบสังคมประเทศ

      ๔ ปี ถือว่า "สมควรแก่เหตุ"

      ผลงานสร้างอนาคตชาติ ด้วย สัจจะและความจริงใจ ที่สำแดงมา สมาร์ตแล้ว

      "สมควรแก่เวลา" ให้ประชาชนได้ตัดสิน ได้ลงคะแนนในระบบเลือกตั้งแล้ว

      พรรค-นักเลือกตั้ง ตลอดถึงสังคมประชาชาติทุกฝ่าย ถือว่าแฟร์ ด้วยให้เวลา ให้โอกาสรัฐบาล คสช.สมควรแก่กาลแล้ว

      ตุลาเป็นต้นไป......

      สิ้นปีราชการแล้ว คสช.ควรให้เขาบ้าง

      แง้มฝาหม้อให้ไอน้ำบนเตาต้มได้ระเหยบ้าง จะเป็นคุณกว่าให้พลังจากไอน้ำดันระเบิด

      แค่ EEC โปรเจกต์เดียว ยังไม่ต้องพูดด้านอื่น คุ้มอนาคตสังคมประเทศไปอย่างน้อยครึ่งศตวรรษ

      ฉะนั้น จะแคร์แดม

      ประชาธิปไตย "จัดเต็ม" ไปเลย!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"