อัยการฟ้องแล้ว'พุทธะอิสระ'คดีร่วมการ์ดกปปส.ซ้อมตำรวจสันติบาล!


เพิ่มเพื่อน    

15 ส.ค.61 -  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์นำสำนวนส่งยื่นฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยและแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ อายุ 59 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน ขณะนั้นมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีจำเลยเป็นหัวหน้าผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณเวทีดังกล่าวทั้งหมด โดยจำเลยกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1-2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปทำหน้าที่สืบสวนหาข่าว จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหักและตับฉีกขาด บาดแผลใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้เสียหายที่ 2 ได้รับอันตรายแก่กาย มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองถูกประทุษร้ายสูญหายมูลค่ารวม 60,900 บาท

นอกจากนี้ จำเลยกับพวกยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสองบอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย ให้บอกว่าตนเป็นผู้ใด เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมเพื่ออะไร เมื่อไม่ยอมบอกพวกของจำเลยจึงใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขู่ว่าจะเอาผู้เสียหายทั้งสองไปลอยน้ำ จนผู้เสียหายทั้งสองต่างจำยอมตามที่พวกของจำเลยข่มขู่ โดยจำเลยนี้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการชุมนุมมีอำนาจสั่งการให้พวกของจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้ จำเลยทราบว่าพวกของจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้ แต่กลับเพิกเฉยไม่สั่งให้ปล่อยตัวไป และสั่งการพวกของจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้อัยการได้ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 (คดีกบฏ กปปส.) ด้วย

ต่อมาศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2498/2561 และให้เบิกตัวจำเลยมาสอบคำให้การในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 9.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตพระพุทธอิสระขณะนี้ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างฝากขังในคดีนี้ และคดีที่ถูกแจ้งข้อหาปลอมพระปรมาภิไธย จากการนำอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. มาประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี โดยไม่ได้รับพระราชทาน ทั้งนี้ยังเป็นจำเลยที่ 16 ในคดีกบฏ กปปส. ซึ่งอัยการฟ้องความผิดฐานร่วมกันกบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร และข้อหาอื่นๆ จากการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"