นวัตกรรมมาหนังสือต้องไป?


เพิ่มเพื่อน    

      อืมมม....แปลกใจตัวเอง!

      สาม-สี่วันมานี้

      จู่ๆ ก็นึกถึง "ทันตแพทย์สม สุจีรา" ขึ้นมาแบบไม่มีปี่-ไม่มีขลุ่ย ว่าหายเงียบไปไหน?

      ไม่เคยรู้จักกันหรอก

      เพียงแต่เป็นแฟนหนังสือที่ "ทันตแพทย์สม" เขียน ผมตามอ่านมาตั้งแต่ชุด "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" โน่น

      แต่นานๆ เข้า......

      ด้วย โน่น-นี่-นั่น ในวิถีประจำวัน เรื่องนั้น ทับเรื่องนี้ เรื่องนี้ ทับเรื่องโน้น

      ชื่อทันตแพทย์สมก็ถูกทับหายไปจากเส้นความจำในหัวไปด้วย!

      แต่อย่างที่บอก........

      จู่ๆ ก็นึกถึงขึ้นมาเฉยๆ แล้วเมื่อวาน (๑๕ ส.ค.๖๑) พอมาถึงที่ทำงาน

      ก็พบหนังสือ "เสียดายไอน์สไตน์ไม่ได้อ่าน" วางแหมะอยู่บนโต๊ะ

      พร้อมลายเซ็น "ทันตแพทย์สม สุจีรา" หน้าปกไอน์สไตน์ สไตล์

      ใครเป็นแฟนหนังสือทันตแพทย์สม แวะบุ๊กสโตร์ได้แล้วนะ เล่มใหม่ออกแล้ว

      แต่เนื้อหาผมยังเล่าไม่ได้ เพราะยังไม่ได้อ่าน

      เช่นเดียวกับ "นวัตกรรม ๖.๐ Platform...เปลี่ยนอนาคต" ของคุณ "สมคิด ลวางกูร"

      มาสดๆ เลือดหยดติ๋งๆ เหมือนกัน

      เห็นบอก "สุดยอดหนังสือดี ถ้าไม่ได้อ่าน จะพลาดโอกาสที่ดี..ของชีวิต"

      ใครที่เคยสัมผัสคิดกะเทาะผ่านประสบการณ์ชีวิตของคนชื่อ "สมคิด ลวางกูร"

      ต้องเชื่อตามที่เขาบอก......

      คือถ้าไม่ได้อ่าน ถือว่าพลาดโอกาสที่ดีของชีวิต อย่างนั้นจริงๆ!

      คุณสมคิด เขาใช้สิ่งที่มนุษย์วันนี้คิด ฝนเป็นหมึกเขียน สิ่งที่มนุษย์พรุ่งนี้...ถึงจะคิด

      ครับ...มีหนังสือดีๆ วางตลาด ก็อยากบอกกล่าว เงินทองนั้น ซื้อกิน-ซื้อใช้ ก็ถ่ายลงส้วมหมดไป

      แต่ถ้าเจียดไปหาซื้อหนังสือที่ถูกจริตมาอ่านบ้าง

      คำว่า "หมด" เป็นไง เขียนไม่ถูก

      เพราะการอ่าน เป็นการเพาะรากปัญญาให้ยึดกะโหลก ถึงไม่ได้อะไรเลย

      อย่างน้อยก็ทำให้เห็นความต่างวรรณะระหว่าง "สัตว์" ซึ่งไม่อ่านหนังสือ

      กับ "มนุษย์" ที่อ่านหนังสือ

      เรารู้, เราเห็น, เราไป ทั่วโลก-ทั่วจักรวาล "ด้วยตัวเอง" ไม่ได้

      แต่ด้วย "หนังสือเล่มหนึ่ง" สามารถทำให้เรารู้, เราเห็น, เราไปได้ทั่วโลก ทั่วจักรวาล กระทั่งนอกโลก-นอกจักรวาล

      ฉะนั้น อ่านกันเถอะ

      เจอหนังสือที่ไหน ก็ทักทายกันบ้าง...หนังสือเอ๋ย ไปไหนมา เป็นแถวๆ กินข้าวกันแล้วหรือยังจ๊ะ?

      อ่านกันให้มากๆ เจอใคร รู้จักใคร ก็บอกขุมทรัพย์ให้กันและกัน รักการอ่านให้มากๆ เข้าไว้ รวย-เจริญ ทุกคน ทุกชาติ

      เราหมุนตามโลกไม่ทันหรอก

      แต่ "โลกทัศน์-วิสัยทัศน์" เราใช้หนังสือช่วยหมุนตามให้ทันได้!

      ไม่ใช่อะไร ผมมันคนอยู่ในอาชีพหนังสือ เมื่อเข้าสู่ยุค นวัตกรรม ๔.๐ ใจชักแป้ว

      คือถ้าคำว่า "นวัตกรรม" หมายถึงการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ แล้วจากยุค ๔.๐ เป็นต้นไปนี้

      ด้วยปัญญาประดิษฐ์ใหม่ๆ ประเทศไทยเหลือแค่ตัวอักษร ก-ฮ และสระ ใช้ตามวัตถุเทคโนโลยีประดิษฐ์

      ไม่มีอักษรปรากฏในรูปกระดาษ ที่เป็นหนังสือเล่ม หนังสือพิมพ์ฉบับ ใบแปะ ใบปิด

      ถ้าแบบนั้นละก็ คนรุ่นผม ซึ่งเป็นมนุษย์ยุคกระดาษ คงต้องบอกว่า

      "โชคดี...ที่ตายก่อน"!

      แต่เมื่อ ๒-๓ สัปดาห์ที่แล้ว มีพรรคพวกคุยให้ฟัง ผ่านไปทางเมืองทอง แจ้งวัฒนะ เขามีเทศกาลหนังสือจากต่างประเทศ

      เขาบอก แปลกใจมาก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

      งานแฟร์ "ขายหนังสือ" อย่างเดียวแท้ๆ ทำรถย่านนั้นติดหนึบ ผู้ปกครอง เด็กๆ หนุ่ม สาว เฒ่า แก่

      แห่แหนกันไปดู ไปเลือก ไปซื้อ หนังสือเกี่ยวกับการเรียน การศึกษา ตำรับ-ตำรา ภาษาอังกฤษ

      เหมือนแย่งกันไปดูหนัง-ดูละครฟรี!?

      เมืองนอกเขาออกแบบ ออกรูปเล่มหนังสือ และสีสัน ชวนเปิด ชวนอ่าน ถึงอ่านไม่ออกก็ ชวนดูรูปภาพ

      ผมฟังก็แอบปลื้ม.........

      แค่หลับตาเห็นภาพคนแย่งกันซื้อหนังสือ หนังสืออะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ประเภท "รกโลก-รกสังคม" ก็มีความสุข

      ลองผู้ใหญ่ใฝ่อ่าน เด็กๆ ผู้ใหญ่ก็ปลูกฝังให้รักอ่าน แบบนี้ละก็ อนาคตประเทศชาติ เป็นที่หวังได้

      ชาติไทย "ก้าวหน้า-พัฒนา" ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เพื่อไทย ไทยทั้งนั้น เจริญ..เจริญ!

      อ่านอย่างเดียว เป็นมูลเหตุนำไปสู่สมองคิด   

      สมองคิด คือ การแตกรากทางปัญญา นำไปสู่การสงสัย ใคร่รู้

      และการสงสัย-ใคร่รู้ นำไปสู่การ ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย ไต่ถาม

      แล้วทั้งหมดนั้น......

      จากอ่าน สู่คิด สู่ค้นคว้า จะรวมเป็นหยดผลึกในรูปจดบันทึก

      เรียบเรียงเป็นสูตร เป็นทฤษฎี เป็นตำรา ใช้ศึกษาเรียนรู้เป็นวิทยาการต่อฐานกันขึ้นไปเรื่อยๆ

      แรกเริ่ม ยังไม่มีตัวหนังสือ มนุษย์ใช้ภาษากาย ยักคิ้ว หลิ่วตา ภาษาพูด อย่างกระซิบรัก คู่กับการดู, ฟัง, คิด, ทำ

      เพราะมนุษย์มีหนังสือนั่นแหละ

      ทุกอย่างในความเป็น "โลกทั้งใบ" จึงหลอมเป็น "ธาตุรู้" เรียงๆ เป็นตัวอักษรอยู่ตามสิ่งที่เรียกก้อนหิน ผนังถ้ำ

      เรื่อยมาเป็น "เล่มๆ หนังสือ" อย่างปัจจุบัน

      แต่ตอนนี้ "เล่มหนังสือ" กำลังเดินลับหายชายป่า สู่รอยบรรพบุรุษก้อนหิน, ผนังถ้ำ

      มีจอคอมพิวเตอร์ มีไอเแพด ไอโฟน สมาร์ตโฟน แทนหนังสือเล่มๆ หนังสือพิมพ์ฉบับๆ

      คิดแล้ว...เสียววุ้ย!

      มันต้องเสียว เพราะผมก็ต้องหมดอาชีพ เป็นเขียดข้ามถนนไม่พ้น รถยนต์ทับแป๊ด แบนแต๊ดแต๋ ครั้นจะวัฒนาอาชีพด้วยนวัตกรรม ทำหนังสือพิมพ์ไอทีแทนหนังสือพิมพ์กระดาษ  

      มันยังไงไม่รู้นะ.......

      หนังสือพิมพ์ไอที ตัวหนังสือมันหยิ่งๆ บางทีสับปลับ ปร๊อบแปร๊บก็เปลี่ยนไป

      จิตวิญญาณอยู่ตรงไหน คนโบราณอย่างผม ยังคลำหาสะเปะ-สะปะอยู่

      แถมบางที แตะนิด-แตะหน่อย ทำสะดิ้ง หายแวบไปซะงั้น ไร้เยื่อใย

      ต่างกับหนังสือเป็นเล่ม เป็นฉบับอย่างหนังสือพิมพ์ ใช้หนุนหัวแทนหมอน ร้อนใช้แทนพัด ยามอัตคัดแทนผ้าปูโต๊ะกินข้าว

      เช็ดก้น ก็ยังทำกันถมไป!

      ต่อให้คนอ่านแปรเปลี่ยนหนังสืออเนกประโยชน์แบบไร้ค่าไปถึงปานนั้น

      แต่ "ในหนังสือ" เล่มนั้น........

      ไม่ว่าคุณจะใช้มันไปในลักษณะใด ทุกข้อความผ่านตัวอักษร เมื่อปรากฏแล้ว สัตย์ซื่อ คงที่-แน่นอน

      ไม่ดูด ไม่สะดิ้ง ไม่ชอร์ต ไม่ลบ ไม่เปลี่ยนในสิ่งปรากฏ แม้แตกสลายตายจาก

      ใครตาย ใครจาก ใครเปลี่ยน ก็เปลี่ยนไป แต่ กู...ตัวหนังสือ ไม่เปลี่ยน

      แท้ยิ่งกว่า "มิตรแท้" ประกันภัย ฮ่ะๆ!

      ครับ...

      ก็คุยเรื่อยเฉื่อย เพราะเห็น "นายกฯ ประยุทธ์" เป็นพระยาน้อยเยี่ยมเมืองเมื่อวาน

      ทั้งโหนรถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งนั่งเรือล่องคลอง ครั้นจะถามว่า "เจอบัวลอยมั้ย"

      แต่เห็นล่องทางคลองบางกอกใหญ่ ก็เลยไม่ถาม

      อยู่ในหมู่ชาวบ้าน เห็นชาวบ้านรักผู้นำ ผู้นำก็รักชาวบ้าน มีแต่บรรยากาศสบายใจ ผมขอฉวยโอกาสสบายบ้าง

      และเพื่อความสบายต่อเนื่อง.......

      ขอลาไปตามร่องฝนซัก ๓-๔ วันนะครับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"