ที่ปรึกษารมช.เกษตรฯลั่นพร้อมชนแบน3สารเคมี                                                                                                           


เพิ่มเพื่อน    

                                       
20ส.ค.-ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยฯ เผยการแบนสารเคมีต้องเดินหน้าชนอย่างเต็มที่ เชื่อว่าสิ่งที่ทำเป็นความถูกต้อง โดยมีเป้าหมายคือประเทศชาติและเกษตรกร หากมีการใช้ระบบราชการไปแสวงหาผลประโยชน์ ไม่เอาไว้แน่นอน ชี้มีสารทดแทนมากมาย อยู่ที่ผู้ประกาศนโยบายจะนใช้อไม่ ส่วนยกร่าง กม.เกษตรยั่งยืน นั่งยืน เตรียมเข้า ครม. หากไม่ใช่ ครม.สัญจรก็เข้า ครม.สัปดาห์หน้า

นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการแถลงข่าว “สนับสนุนการยกเลิกสารพิษอันตรายพาราควอท ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ในการเดินหน้าเพื่อสนับบสนุนให้มีการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด นั้น ใน ส่วนที่รับผิดชอบของนายวิวัฒน์ ศัลยกำทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศไว้ชัดเจนว่า เรื่องนี้ต้องเดินหน้าอย่างเข้มแข็ง เพราะเราต้องการเกษตรอินทรีย์ 6 แสนไร่ เกษตรกรแบบยั่งยืน 5ล้านไร่ ซึ่งขณะนี้เราดำเนินการตามเป้าหมาย และกล้าจะเดินชนเพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นความถูกต้อง โดยมีเป้าหมายคือประเทศชาติและเกษตรกร หากมีการใช้ระบบราชการไปแสวงหาผลประโยชน์เราก็ไม่เอาไว้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มีกฎหมายมาตรา 157 คือการละเว้นหน้าที่ที่ควรทำ ซึ่งทางนายกฯ ก็ได้กำชับว่าถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี หากท่านกล้าถูกดำเนินคดี ก็ลองทำดู

“สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไป จากการสหรัฐอเมริกามีการตัดสินบริษัทสารเคมีต้องเสียค่าปรับ 9,600 ล้าน ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีผลจากการใช้สารเคมีของบริษัท ซึ่งก็มีความชัดเจนว่าข้อมูลเหล่านี้แม่นยำ ก็จะมีการนำข้อมูลนี้มาประกอบการดำเนินการสนับสนุนให้มีการแบนสารเคมีต่อไป ผมเชื่อว่า ส่วนที่รับผิดชอบของรัฐมนตรีช่วยฯ จะไม่เบาแรงแน่นอนเราสามารถทำงานได้เต็มกำลังโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังกับใคร “นายธีระ กล่าว.

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าสนับสนุนให้มีการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช แต่ยังมีความกังวลเรื่องสารทดแทน ซึ่งทางภาคประชาชนระบุว่าการหาสารทดแทนเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ โดยตรง ที่จะหากลไกในเรื่องสารทดแทน ไม่ใช่เรียกร้องให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ นายธีระ กล่าวว่า คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจผู้บริหารว่ามองไปทางไหน ซ้ายหรือขวา ถ้ามองขวา คือสิ่งที่ถูก มองซ้ายเป็นสิ่งที่ผิด ซึ่งกรมวิชาการเกษตร โดยกองวัชพืชมีการทำงานวิจัยมากมายตลอดเวลา 20-30 ปีเกี่ยวกับการใช้สารทดแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งจากข้อมูลที่มี พบว่าน่าจะมีประมาณ 300 รายการ เพราะฉะนั้นมีข้อมูลมากมายที่พร้อมนำมาใช้  และมีวิธีทางเกษตรกรรมอื่นๆที่สามารถทดแทนการใช้สารเคมีได้อยู่ที่ผู้ประกาศนโยบายว่าจะนำมาใช้หรือไม่ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พี่น้องเกษตรกรถามมาคือทำไมไม่มีการนำมาใช้ เราก็ต้องถามต่อไปยังผู้รับผิดชอบว่าหากเราแบนทั้ง 3 ตัว สารทดแทนที่มีอยู่จะนำมาใช้ได้มากน้อยเพียงใด  รูปแบบเกษตรอินทรีย์ที่ประสบผลสำเร็จจะนำมาขยายผลได้หรือไม่ 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรยั่งยืน ซึ่งมีกลุ่มอุตสาหกรรมสารเคมียื่นเรื่องคัดค้าน ซึ่งจะมีผลต่อการยกร่าง หรือไม่ นาย ธีระ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีผลอะไร เพราะเป็นเสียงเพียงเล็กน้อยซึ่งได้มีการชี้แจงกับกลุ่มดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว หากย้อนกลับดูทั้งหมด จะพบว่ากลุ่มคัดค้านสารเคมีประมาณ 8 กลุ่มนั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่สนับสนุนการใช้สารเคมีมาแต่ต้น และพยายามคัดค้านในสิ่งที่จะเกิดผลดีแก่พี่น้องเกษตรกร มาโดยตลอด จึงอยากถามกลับว่ามีผลประโยชน์หรือไม่หากมาด้วยผลประโยชน์แอบแฝงยังไงก็ปิดไม่ได้ หากไม่มีก็ให้มาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป อย่างไรก็ตามการยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวคาดว่าจะเข้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)แน่นอน หากไม่ครม.สัญจร ก็จะเป็นการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"