ให้ออกนายพลตร. โกงลูกน้อง229ล.


เพิ่มเพื่อน    

    ให้ออก "พล.ต.ต.สุทิพย์" อดีตผู้การเลย อมเงินลูกน้องจากโครงการรวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย 229 ล้านบาท และถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน พ.ต.อ.ลูกน้องคนสนิทก็ไม่รอด "รุ่งโรจน์" เผยตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว ส่วนคดีอาญา บช.ภ.4 เร่งดำเนินการ
    พล.ต.ท.ธณัท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคมนี้ ว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สกพ. ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุทิพย์เข้ารายงานตัวต้องคดีอาญาที่สำนักงานกำลังพล ตามที่พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) ดำเนินคดีร่วมกันฐานฉ้อโกงประชาชน
    พล.ต.ต.สุทิพย์ เมื่อครั้งเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ถูกดำเนินคดีอาญาและตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย จากกรณีถูกกล่าวหาทุจริตโครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย โดยมีผู้เสียหายที่เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เลย ทั้งหมด 192 นาย มูลค่าความเสียหาย 229 ล้านบาท
    ผบช.สกพ.กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง สำนักงานกำลังพลในฐานะต้นสังกัดในปัจจุบัน ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งผลการพิจารณาเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัย พล.ต.ต.สุทิพย์ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.เลย ขณะเดียวกันทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ก็ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย จึงต้องรอให้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการดำเนินคดีอาญาจากทาง บช.ภ.4 ออกมาเสียก่อน ซึ่งเมื่อผลการตรวจสอบของ บช.ภ.4 ออกมา และมีการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา ทางกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงประมวลเรื่องเสนอให้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ออกจากราชการไว้ก่อน โดยทราบว่า พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ด้านบริหาร ได้ลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
    ทั้งนี้ ก่อนมีคำสั่ง พล.ต.ต.สุทิพย์ก็มาปฏิบัติราชการตามปกติ แต่ตนไม่ได้มอบหมายงานอะไรมาก โดย พล.ต.ต.สุทิพย์แจ้งตลอดว่าพยายามจะหาเงินคืนให้แก่ผู้เสียหาย กระทั่งทาง บช.ภ.4 ดำเนินคดี ทางกองวินัยจึงประมวลเรื่องตามกระบวนการและคำสั่งมีผลแล้ว ขณะนี้ พล.ต.ต.สุทิพย์ไม่ได้มาทำงานแล้ว
    มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา กองวินัยประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.ให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ และ พ.ต.อ.เฉลิม ยอดปทุม ผู้กำกับการอำนวยการ กองบังคับการอำนวยการ ภ.จว.หนองบัวลำภู ลูกน้องคนสนิท ที่ถูกกล่าวหาร่วมกันก่อเหตุ และถูกดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อความสะดวกในการสืบสวนสอบสวนทางคดีและทางวินัย พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดย พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ลงนามคำสั่งตามเสนอและมีผลในวันเดียวกัน
    ด้าน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย และ พ.ต.อ.เฉลิม ยอดปทุม ผกก.อก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ลูกน้องคนสนิทที่ถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกง ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อความสะดวกในการสืบสวนทางคดีและทางวินัย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ดำเนินคดีอาญา และ พล.ต.ต.สุทิพย์ได้เข้ารายงานตัวต้องคดีอาญาที่สำนักงานกำลังพลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ระบุว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้กำหนดกรอบระยะเวลาไม่เกิน 270 วัน คณะกรรมการฯ ก็จะมีมติ ซึ่งโทษจะมีทั้งปลดออกหรือให้ออกจากราชการ แต่ถ้ามติลงความเห็นว่าไม่มีความผิด ผู้ถูกกล่าวหาสามารถร้องขอกลับเข้ารับราชการได้เหมือนเดิม ส่วนคดีอาญา ทางพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด แต่รับทราบข่าวว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน 
    ทั้งนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนการเยียวยาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีเพียงการดูแลสิทธิตามสมควร ซึ่งผู้เสียหายจะต้องไปฟ้องแพ่งดำเนินคดีกันเอง แต่ก็ยอมรับว่าเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้มีการสร้างรายได้และอาชีพที่เหมาะสมกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนเอาผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งสั่งการให้ทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก
    คดีนี้มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดเลย 192 นาย ถูก พล.ต.ต.สุทิพย์ชักชวนให้ลงทุนในโครงการรวมหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เพื่อเป็นกองทุนบริหารจัดการหนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือชำระหนี้ให้กับสมาชิก แต่ทางโครงการกลับไม่เคยนำเงินไปใช้หนี้ให้สมาชิกจริง ทำให้สมาชิกซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจหลายนายถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มูลค่าความเสียหายกว่า 229 ล้านบาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"