ยังไม่มีผลวิจัยยืนยัน"อังกาบหนู"รักษามะเร็งได้


เพิ่มเพื่อน    

 

22ส.ค.61-ภญ.ผศ.ดร.มยุรี  ตั้งเกียรติกำจาย จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ (มศว.) กล่าวถึง กรณีมีข่าวสมุนไพรอังกาบหนูว่ารักษามะเร็งได้ว่า อังกาบหนู มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Barleria prionitis เป็นสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอินเดีย ศรีลังกา แอฟริกาใต้ และเริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทย จากงานวิจัยในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลองพบว่ามีฤทธิ์ทางยา 3 ด้านหลัก คือ 1) สารสำคัญ iridoids fraction ซึ่งสกัดจากส่วนของใบและ ลำต้น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ยังไม่มีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง 2) เมื่อให้หนูกินสารสกัดจากรากอังกาบหนูเป็นเวลา 60 วัน พบว่าลดการสร้างอสุจิและทำให้อสุจิเคลื่อนไหวได้ลดลง มีผลทำให้มีบุตรยาก ต้องระวังการใช้ในชายวัยเจริญพันธุ์ สำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดมีข้อควรระวังคือไม่สามารถคุมกำเนิดได้ 100% 3) สารสกัดจากส่วนของใบ ลำต้นและรากมีงานวิจัยในหลอดทดลองพบว่า สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากการอักเสบได้ เช่น ข้ออักเสบ ควรใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการปวดเท่านั้น ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือใช้ในขนาดสูง เพราะอาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน และแผลในทางเดินอาหาร ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังตั้งแต่ระยะที่ 3 และผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตามสมุนไพรนี้ยังไม่มีการศึกษาในคน จึงยังไม่ทราบขนาดการใช้ที่แน่นอน และฤทธิ์ทางยาที่กล่าวถึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อใช้ในคน เช่นอาจมีฤทธิ์ลดลง หรือมีฤทธิ์ไม่มากพอที่จะใช้ในการรักษาโรค

“การใช้สมุนไพรแต่ละชนิด เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ จะมีวิธีใช้และส่วนของสมุนไพรที่ใช้แตกต่างกันไป บางต้นต้องใช้ใบ บางต้นใช้เหง้าเป็นต้น ถ้าใช้ไม่ถูกส่วนหรือไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังอาจก่อให้เกิดโทษได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจใช้สมุนไพรเพื่อประโยชน์ใด ควรศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจใช้ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคไตเรื้อรัง โรคตับ หรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือ เภสัชกรก่อนตัดสินใจใช้” ภญ.มยุรี กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"