คุกสาวเพื่อนทนาย ร่วมอมเงินน้องบีม


เพิ่มเพื่อน    

    จบคดีทนายแสบโกง "น้องบีม" เหยื่อรถเทรลเลอร์ถูกชนจนพิการ ขณะที่พ่อเสียชีวิตเมื่อปี 48 ศาลสั่งจำคุกเพื่อนสาวทนาย 2 ปี 16 เดือน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายกว่า 2 ล้าน ฐานร่วมกระทำผิด
    ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ถึงความคืบหน้าคดีพรรคพวกของนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ อดีตทนายความ ฉ้อโกงเงินชดใช้ค่าเสียหายของ ด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม ที่ต้องพิการเพราะถูกรถเทรลเลอร์ของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งชน ว่า พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนางพรปวีณ์ ชูแก้ว กับ น.ส.ภัทรวดี หรือฐิตาภา สวัสดี สองเพื่อนสาวของนายพิสิษฐ์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม, เป็นผู้สนับสนุนบุคคลอื่นฉ้อโกงโดยกระทำผิดหน้าที่กับจำเลยที่ 1 และในฐานฉ้อโกงกับจำเลยที่ 2 พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทน เหตุเกิดวันที่ 19 ก.พ.2557 ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยมี น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ มารดาของน้องบีม และตัวน้องบีม เป็นโจทก์ร่วม มีทนายความอาสาจากสภาทนายความ ที่ตนกับนายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าทีม เข้าว่าความ
    คดีนี้จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 2 เสนอชดใช้เงิน 50,000 บาทแก่โจทก์ร่วม โดยขอให้ถอนฟ้องหรือถอนคำร้องทุกข์เพื่อให้คดีอาญาระงับไปเฉพาะจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 1 ไม่คัดค้าน จากนั้นจำเลยที่ 2 ก็นำเงินสดมามอบให้โจทก์ร่วม และมีการขอถอนฟ้อง ศาลอนุญาตให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามฟ้อง คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ มีเหตุลดโทษ จึงให้คงจำคุกรวม 2 ปี 16 เดือน และให้ชดใช้เงิน 981,100 บาท แก่โจทก์ร่วมที่ 1 และ 1,405,000 บาท แก่โจทก์ร่วมที่ 2 พร้อมดอกเบี้ย ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
    สำหรับที่มาคดีนี้ ครอบครัวของน้องบีมประสบอุบัติเหตุถูกรถเทรลเลอร์ของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งชน เป็นเหตุให้น้องบีมพิการต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ บิดาเสียชีวิต และมารดาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2548 ต่อมาศาลจังหวัดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พิพากษาให้ชนะคดีที่ฟ้องบริษัทดังกล่าว เรียกค่าเสียหายเกือบ 6 ล้านบาท แต่นายพิสิษฐ์ อดีตทนายความ ได้ฉ้อฉลนำหนังสือมอบอำนาจปลอมไปยื่นขอสละสิทธิ์การบังคับคดี แล้วแอบไปขอรับเงินจากบริษัทดังกล่าว หลังจากนั้นศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าการขอสละสิทธิ์บังคับคดีไม่ชอบ ให้ออกหมายบังคับคดีเรียกเงินเกือบ 6 ล้านบาทต่อไป
    ขณะที่คดีอาญา ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้พิพากษาจำคุกนายพิสิษฐ์ฐานฉ้อโกง, เป็นบุคคลที่ได้รับการไว้วางใจกระทำผิดหน้าที่, ปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นเวลา 5 ปี 12 เดือน อีกทั้งสภาทนายความได้ลบชื่อออกจากสารบบ ห้ามเป็นทนายความ 5 ปี ส่วนนางพรปวีณ์กับ น.ส.ภัทรวดีนั้น เป็นผู้นำเอกสารปลอมไปหลอก น.ส.พรทิพย์ ทำนองว่าเป็นตัวแทนของบริษัทคู่กรณีมาขอเจรจาว่า บริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่าย ขอลดหนี้จาก 6 ล้านบาท เหลือ 3 ล้านบาท ดีกว่าจะบังคับเอาอะไรไม่ได้เลย นางพรทิพย์หลงเชื่อ ฝ่ายจำเลยจึงจ่ายเงินให้ 2.8 แสนบาทเท่านั้น ที่เหลือทวงถามก็บ่ายเบี่ยง แล้วหนีหายไปในที่สุด จนถูกจับกุมได้และพิพากษาแล้ว เป็นอันปิดคดีน้องบีมที่ต่อสู้กันมา 13 ปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"