กำนันยก‘กฤษฎีกา’แจงโรงพัก


เพิ่มเพื่อน    

  "กำนัน" ไลฟ์สดแจงข้อสงสัยเปลี่ยนวิธีจัดจ้างก่อสร้างโรงพัก งัดระเบียบสมัย "อานันท์" อ้างวินิจฉัยโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ยัน ครม.ไม่มีอำนาจ เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการ เว้นแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกฯ ให้อำนาจ ครม.ทำ

    เมื่อวันเสาร์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กว่า ข้อกล่าวหาที่คณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาตน คือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สมัยนั้น ทำบันทึกข้อความถึงนายกรัฐมนตรี ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดจ้างโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจ จากเดิมสร้างแบบรวมการครั้งเดียวแยกเสนอราคาเป็นรายภาค ภาค 1-9 จำนวนหลายสัญญา เป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างครั้งเดียว เป็นสัญญาเดียว โดยไม่ขอให้นายกฯ นำเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดจ้างก่อสร้าง 
    ขอชี้แจงว่า ที่ไม่นำเสนอ ครม.ให้พิจารณาอนุมัติ เพราะว่า ครม.ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาวิธีการจัดจ้าง แต่เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงาน หรือหัวหน้าส่วนราชการ
    “ผมได้นำหลักฐานไปเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างมีระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ออกมา ในสมัยที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี ในระเบียบนี้ ชัดเจนเลยว่าการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหลาย ทุกส่วนราชการจะต้องปฏิบัติตามนี้ และบอกไว้เสร็จเลยว่า หัวหน้าส่วนราชการคือ อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการ ที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นนิติบุคคล ผบ.ตร. มีฐานะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ตามระเบียบสำนักนายกฯ ดังกล่าว และมีข้อกำหนดในระเบียบสำนักนายกฯ ข้อ 34 ว่า ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าราชการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติตามระเบียบนี้ เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการทั้งสิ้น เห็นชัดเจนว่าอำนาจในการพิจารณาว่าจะจัดจ้างอย่างไร ที่จะต้องเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ เป็นอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการ ไม่ใช่อำนาจของครม.” นายสุเทพกล่าว
    นายสุเทพกล่าวต่อว่า หลักฐานที่นำมานั้นฟังดูอาจจะยังไม่พอ แค่เคยมีการวินิจฉัยโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 873/2551 โดยเรื่องมีอยู่ว่ากระทรวงหนึ่งเสนอไปยัง ครม. ขอให้ช่วยอนุมัติยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกฯ และคิดว่าคนมีอำนาจคือ ครม. ก็ทำเรื่องเสนอไปที่ ครม. ครม.มีมติให้ส่งไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาว่า ครม.ไม่มีอำนาจที่จะยกเว้นหรือผ่อนผันการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกฯ แต่ถ้าครม.ต้องการกำหนดให้เป็นอำนาจของ ครม.เสียในเรื่องวิธีการจัดจ้างต้องแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกฯ เพราะฉะนั้นจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้  
    ดังนั้น เมื่อ พล.ต.อ.ปทีป ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการที่มีอำนาจกำหนดวิธีการจัดจ้าง ทำหนังสือลงวันที่ 18 พ.ย.2552 ตนจึงวินิจฉัยสั่งการได้ ฉะนั้นถือว่าตนไม่ได้ทำความผิดตามที่อนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"