ให้ออกรตอ.รีดเงินคดีเมจิกสกิน


เพิ่มเพื่อน    

    ผบก.ป.เผยเตรียมสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ร.ต.อ.เรียกรับเงินคดี "เมจิก สกิน" 1.5 หมื่นบาทเป็นค่าเร่งสำนวนให้เร็วขึ้น และรับไปแล้วส่วนหนึ่ง พร้อมขอโทษประชาชน ยันกองปราบฯ ยังเป็น "ที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งของประชาชน"
    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 4 กันยายนนี้ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ชี้แจงกรณีการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ระหว่างพนักงานสอบสวนยศ “ร.ต.อ.” กองบังคับการปราบปราม เรียกรับเงินกับผู้เสียหายคดีเมจิก สกิน ในการทำสำนวนเพิ่มเติมเป็นเงิน 15,000 บาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และเสื่อมเสียชื่อเสียงของกองปราบฯ ที่มีคำขวัญ “ที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งของประชาชน”
    พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่ปิดบัง ตนอยู่ตรงนี้ การทำงานทุกอย่างต้องเปิดเผย โปร่งใส อย่างกรณีที่เกิดขึ้น สื่อได้เผยแพร่กรณีเมจิก สกิน ขอเท้าความว่า คดีเมจิก สกิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาทำคดีนี้ โดยให้กองปราบฯ ทำคดีเป็นหลัก การทำคดีแบ่งประเภทตามผลิตภัณฑ์สินค้า แยกเป็นคดีๆ ไป ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเป็นส่วนของคดีผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน “แอปเปิ้ลสลิม” คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย มีตัวบุคคลจำนวน 5 ราย นิติบุคคลอีก 2 ราย มีผู้เสียหายในคดีนี้ จำนวน 111 คน เราได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาผลิตและจำหน่ายอาหารปลอม” ส่งให้พนักงานอัยการเมื่อวันที่ 4 ก.ค.61 จากนั้นวันที่ 12 ก.ค. พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม จำนวน 6 หน้ากระดาษ แยกเป็นข้อๆ ได้ประมาณ 19 ประเด็น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
    ผบก.ป.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างพนักงานอัยการสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม เราเข้าใจหัวอกของผู้เสียหาย ทั้งเสียเงิน ได้รับความเดือดร้อน มาติดต่อให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวน พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวจึงมีการพูดคุยลักษณะว่า ถ้าจะให้เร็วต้องมีค่าอำนวยความสะดวก ปรากฏตามแอปพลิเคชันไลน์ รวมทั้งคลิปเสียงอีกส่วนหนึ่ง ในส่วนของผู้เสียหาย เราได้พยายามติดต่อ แต่ไม่รับโทรศัพท์เลย จึงได้ติดต่อกับเพื่อนผู้เสียหาย ได้ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนท่านนี้ได้เรียกค่าอำนวยความสะดวกจริง และทางผู้เสียหายได้จ่ายไปให้แล้วส่วนหนึ่งประมาณ 5,000 บาท  
    ผบก.ป.กล่าวว่า ในเมื่อมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาก่อให้เกิดความเสียหายในลักษณะนี้ ตนถือเป็นเรื่องร้ายแรง “ถ้าผมปกป้องคนไม่ดี เท่ากับผมทำชั่วร้ายแรง” ในส่วนของพนักงานสอบสวนท่านนี้ ถึงแม้จำนวนเงินจะไม่เยอะ เราก็ต้องดำเนินการ หลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนคดีอาญาก็ดำเนินควบคู่กันไป ยืนยันว่าดำเนินการอย่างเด็ดขาด เราไม่ปกป้องคนที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรของเรา 
    "อยากจะกราบขอโทษพี่น้องทุกคน การแถลงข่าววันนี้ไม่ใช่ว่าผมดำเนินการกับลูกน้องให้ตัวเองพ้นพิษ ผมในฐานะหัวหน้าปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องขอโทษที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา จำนวน 1,200 คน ไม่ทั่วถึง ขอโทษไปยังผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนมาเจอกับคนแย่ๆ แบบนี้ อีกส่วนหนึ่งฝากเตือนไปถึงทุกส่วน ทั้งผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือผู้เกี่ยวข้อง ห้ามมีการแอบอ้างเรียกร้องผลประโยชน์ต่างๆ อย่าไปเชื่อว่าสมารถช่วยได้ ในคดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีการแต่งตั้งเป็นคณะทำงาน ใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่สามารถช่วยได้"
    พล.ต.ต.ไมตรีเผยอีกว่า ประเด็นทำไมอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม และเหตุล่าช้า ขอชี้แจงว่า ขณะนี้กองปราบฯ มีคดีในเรื่องต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนมาขอความช่วยเหลือจำนวนมาก เวลานี้ กองกำกับการ 3 หรือพนักงานสอบสวนกองกำกับการที่เกิดเรื่องนี้ วันนี้เรามีพนักงานสอบสวนแค่ 2 คน ทุกวันนี้เข้างานกันวันเว้นวัน เพราะมีพนักงานสอบสวนบางนายไปเข้ารับการอบรม แต่เราก็ทำงานไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อ 
    ในส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้น ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ขณะนี้พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวอยู่ระหว่างอบรมที่สถาบันส่งเสริมการสอบสวน จะกลับวันที่ 14 ก.ย.นี้ เท่าที่มีข้อมูล เรามีหลักฐานพอสมควร ยืนยันว่ามีการรับไปแล้วส่วนหนึ่ง และได้ส่งคนไปนำโทรศัพท์มือถือของผู้ถูกกล่าวหามาตรวจสอบด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"