การรอรับมาตรฐานของสินค้าหรือบริการต่างๆ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะทำให้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ขึ้นมาหลายระดับ ซึ่งในต่างประเทศนั้นการรับรองคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างในเกาหลีใต้ ที่เอกชนยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างซัมซุง ออกมาเป็นคนกลางโดยสร้างตราสัญลักษณ์ขึ้นมาเพื่อรับรองคุณภาพให้กับสินค้าในประเทศ โดยผู้ผลิตเองจะต้องส่งให้ซัมซุงตรวจสอบถึงจะได้ตรานี้ไปติดประดับบนสินค้าหรือบริการนั้นๆ โดยผลตอบรับทางด้านการตลาดถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งเมื่อซัมซุงการันตีแล้วว่าสินค้านั้นดี ผู้คนที่มั่นใจในซัมซุงก็จะมั่นใจในสินค้าพวกนั้นด้วย และเชื่อว่ามีอยู่ในน้อยเลยทีเดียว เพราะซัมซุงเป็นบริษัทสัญชาติเกาหลี แต่พัฒนาไปสู่ระดับโลกได้

        ในขณะที่ประเทศไทยเองก็มีการการันตีคุณภาพนี้มานานหลายสิบปีแล้ว โดยเมื่อสมัย 20-30 ปีก่อน การการันตีร้านอาหารชื่อดังจากผู้ตั้งตัวเป็นคนชิมเลิศรสก็มีให้เห็นอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายแม่ช้อยนางรำ เปิบพิสดาร เชลล์ชวนชิมต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นเครื่องการันตีถึงร้านอาหารหรือสินค้านั้นๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และส่งผลถึงยอดขายที่พุ่งกระฉูด

        แต่ในส่วนของภาครัฐเองก็มีอะไรที่ออกมาการันตีข้าวของเครื่องใช้ หรือแม้แต่อาหารเช่นเดียวกับที่เอกชนทำ แต่จะมาในรูปแบบกฎหมายซะมากกว่า อย่างที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกเครื่องหมาย อย. มาเพื่อเป็นการการันตีว่าอาหารและยาที่คุณกำลังจะกินอยู่นั้น ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ส่งผลเสียต่อร่างการ และอยู่ในความควบคุมของรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นไปอีก

        ขณะเดียวกัน ในด้านของอุตสาหกรรมเองก็มีเครื่องการันตีเช่นกันถึงคุณภาพและการผลิตว่ามีมาตรฐานที่ดี ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้ใช้ นั่นก็คือเครื่องหมาย มอก. หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ออกโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์สินค้าที่ผลิตหรือนำเข้ามาในประเทศไทยให้มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ และหากใช้ไปจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

        โดยก่อนหน้านี้ก็มีการกำหนดทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็ก และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่ล่าสุด สมอ.เห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ร่วมถึงวิสาหกิจชุมชน ที่ปัจจุบันเริ่มปรับตัวให้เข้าขั้นการผลิตสินค้าที่ดีมากขึ้น เพื่อให้แข่งขันได้ในตลาด แต่ก็อาจจะไม่สามารถสู้กับเอกชนขนาดใหญ่ที่มีทั้งเงินและกำลังในการผลิตสินค้าได้

        สมอ.จึงได้ออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือวิสาหกิจชุมชนที่ต้องการเครื่องหมายการันตีสินค้าที่ผลิตขึ้นจำหน่าย เพื่อเป็นเครื่องรองรับ และให้ความมั่นใจต่อผู้ซื้อ โดยให้ชื่อว่า “มอก.เอส” ทั้งนี้จะเป็นการกำหนดมาตรฐานการผลิตในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่

        อาทิ มอก.เอส 2-2561 ผ้าคลุมเตียงสำหรับโรงแรมและที่พักสาธารณะ มอก.เอส 5-2561 ผ้าปูโต๊ะและผ้าที่ใช้บนโต๊ะอาหารสำหรับโรงแรมและที่พักสาธารณะ, มอก.เอส 6-2561 เสื้อกีฬา, มอก.เอส 7-2561 เสื้อทีเชิ้ตที่ระลึก, มอก.เอส 8-2561 เสื้อฮาวายลายดอก, มอก.เอส 9-2561ผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน, มอก.เอส 10-2561 ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ, มอก.เอส 11-2561 ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุแปรรูป, มอก.เอส 12-2561 แชมพูผสมสมุนไพร, มอก.เอส 13-2561 สบู่ก้อนผสมสมุนไพร เป็นต้น

        เพื่อให้ผู้ผลิตรายย่อยที่ผลิตสินค้าจากชุมชน สามารถเข้ามาขอเครื่องหมายรองรับคุณภาพได้จาก สมอ. เป็นเหมือนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะพัฒนาผู้ประกอบการไปพร้อมกับการเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า สร้างรายได้ให้มากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้านั้นๆ โดยผู้ที่ต้องการจะขอใบรับรองต้องยื่นโดยตรงกับ สมอ. และหากผ่านการพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนด ใบรับรองจะอยู่ได้ถึง 3 ปี และสามารถต่อได้เรื่อยๆ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการต่อยอดให้เอสเอ็มอีมีช่องทางการพัฒนาที่ดี แข่งขันได้ในตลาดปัจจุบัน.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า