ทีมหมูป่าเปิดใจอีกครั้งกลางกรุง น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ ร.10


เพิ่มเพื่อน    

6 ก.ย.61 -  เวลา 13.30 น. กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม 13 ชีวิต ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ พบสื่อมวลชน ณ ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมี 12 ชีวิต ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ประกอบด้วย ด.ช.อดุลย์ สามออน (อดุล) อายุ 14 ปี โรงเรียนบ้านเวียงพาน ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม (โน้ต) อายุ 14 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์ ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย (เติ้ล) อายุ 14 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์ นายพิพัฒน์ โพธิ (นิค) อายุ 15 ปี โรงเรียนบ้านสันทราย ด.ช.ภานุมาศ แสงดี (มิกซ์) อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์

ด.ช.ดวงเพชร พรหมเทพ (ดอม) อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง (ไตตั้น)อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลแม่สาย  ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ (บิว) อายุ 14 ปี โรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา  นายพรชัย คำหลวง (ตี๋)อายุ 16 ปี โรงเรียนบ้านป่ายาง นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ (ไนซ์) อายุ16ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์ด.ช.สมพงษ์ ใจวงค์ (พงศ์)อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์ ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม (มาร์ค )อายุ 13 ปี โรงเรียนบ้านป่าเหมือด และพระเอกพล วิสารโท หรือโค้ชเอก เดินทางมาร่วมกิจกรรม  

12 หมูป่าสวมเสื้อโปโลสีเหลืองและหมวกแก๊ปสีกรมท่า ที่ชมรมผู้ปกครอง 13 หมูป่า จัดทำขึ้น โดยมีนายวีระ โรจนพจน์รัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ,นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดวธ. ให้การต้อนรับน้องๆ หมูป่า

สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย ดำเนินรายการสัมภาษณ์ และชี้แจงแนวทางการสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนและตอบข้อสักถาม

กิจกรรมครั้งนี้ได้นิมนต์พระครูประยุทธ์ เจติยานุการ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา จ.เชียงราย พร้อมเชิญพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กๆ ทีมหมูป่าร่วมฟังการสัมภาษณ์ ขณะที่บรรยากาศโดยรอบพื้นที่จัดกิจกรรมมีประชาชนจำนวนมากมาเฝ้ารอฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากพระเอกพล หรือโค้ชเอก และเด็กๆ ทั้ง 12 ชีวิตกับช่วงเวลาที่ติดถ้ำหลวง ขุนน้ำ นางนอน จ.เชียงราย 

โดยพิธีกรเริ่มคำถามแรกว่า หลังออกจากถ้ำหลวงมา 2 เดือนชีวิตเป็นอย่างไร น้องตี๋ กล่าวว่า ใช้ชีวิตปกติได้เรียนหนังสือเหมือนเดิม และเจอเพื่อนๆเยอะกว่าเดิม ส่วนน้องอดุล กล่าวว่า ใช้ชีวิตเหมือนเดิมมีความสุขที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆและดีใจที่ทุกคนต้อนรับการกลับมา น้องไตตั้น กล่าวว่า ใช้ชีวิตเหมือนเดิม มีเพื่อนสนิทมากขึ้น ขณะที่น้องมาร์ค กล่าวว่า กิจวัตรประจำวันเหมือนเดิมได้ปั่นจักรยานและไปวัด สำหรับน้องหมู่ป่าคนอื่นๆ ก็ตอบคำถามลักษณะเดียวกัน 

พิธีกรถามด้วยว่า ใน13หมูป่า มีหนึ่งคนที่อินสตราแกรมมียอดติดตาม 358,000 คน ซึ่งน้องดอม กล่าวว่า เป็นไอจีของตน มีคนเข้ามาขอเป็นเอฟซีและถามว่า สบายดีมั้ย 

พิธีกรถามต่อว่า นอกจากการเรียนเด็กๆ ดำเนินกิจกรรมด้านกีฬาอย่างไรบ้าง โดยเด็กทีมหมูป่าส่วนใหญ่ตอบว่า มีการปั่นจักรยานไปกลับ 3 ชั่วโมงทั้งกลุ่ม และมีการเข้าฟิตเนตเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ขณะที่น้องไตตั้น กล่าวว่า นอกจากปั่นจักรยานแล้วยังได้เข้าร่วมวิ่งงานการกุศลหลายครั้ง ล่าสุดไปวิ่งงานยุงลายที่แม่สายกับมาร์ค

จากนั้นมาถึงคำถามชีวิตตอนบวชเป็นเณรได้ทำกิจวัตรอะไรและได้รับการปลูกฝังเรื่องใดบ้าง น้องๆ 11 หมูป่า ตอบคล้ายกันว่า ขณะบวชได้สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น ได้ช่วยกันทำความสะอาดวัด  ขณะที่พระเอกพล กล่าวว่า ช่วงที่อยู่วัดได้อยู่ร่วมกับกลุ่มน้องๆทีมหมูป่า และมีพระอาจารย์คอยอบรมสั่งสอนตลอดระยะเวลา 9 วัน 

พิธีกรถามต่อว่า เรียนรู้อะไรบ้างจากการบวช 9 วัน  น้องบิว กล่าวว่า ได้ความรู้และมีจิตใจสงบมากขึ้น  ส่วนน้องดอม กล่าวว่า มีวินัยมากขึ้น น้องพงษ์ กล่าววว่า ได้ช่วยเหลือผู้อื่นและได้บำเพ็ญประโยชน์ น้องเติ้ล กล่าวว่า ได้ความรู้เรื่องธรรมะ น้องมิกซ์ กล่าวว่า มีความสงบในใจ น้องโน็ต กล่าวว่า ได้ฝึกระเบียบวินัย น้องนิค กล่าวว่า ได้ความมั่นใจ เมื่อสึกออกมาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง น้องไนซ์ กล่าวว่า ทำให้เป็นคนตรงต่อเวลา ขณะที่น้องอดุลย์ กล่าวว่า ตนเป็นคริสต์แม้ไม่ได้บวช แต่ได้ทำกิจกรรมเรียนรู้คัมภีรไบเบิ้ล และทำกิจกรรมขอบคุณพระเจ้า

ต่อคำถามประสบการณ์ในถ้ำเป็นอย่างไร และทีมหมูป่ารู้หรือไม่ว่ามีคนให้การช่วยเหลือ รวมทั้งได้ยินเสียงอะไรบ้าง น้องไตตั้น กล่าวว่า ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์อยู่นาน ส่วนน้องมาร์ค กล่าวว่า ได้ยินเสียงหมาเห่า ขณะที่น้องบิวได้ยินเสียงไก่ขัน 

เมื่อพิธีกรถามว่า มีวิธีระงับความกลัวกันอย่างไร น้องดอม กล่าวว่า ทุกคนใช้วิธีการปลอบใจกันและกัน บอกว่าเดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้ว ซึ่งมีคนร้องไห้เป็นคนแรก คือ โน็ต ขณะที่โน็ต กล่าวว่า ตนร้องไห้ เพราะคิดว่า จะออกไปไม่ได้ เมื่อถามว่าสิ่งที่ทำให้เด็กผ่านพ้นห้วงเวลานั้นมาได้ คืออะไร 

พระเอกพล กล่าวว่า ต้องควบคุมสติตนเองก่อน จากนั้นบอกน้องในเชิงบวกว่า เดี๋ยวเราก็ได้ออกไปแล้ว คงติดอยู่ไม่นาน และให้กำลังใจขอให้น้องๆสามัคคีกัน ห้ามแตกกัน 

เมื่อถามว่าระหว่างติดที่เนินนมสาว พยายามหาทางออกหรือไม่ พระเอกพล กล่าวว่า หลังติดเนินนมสาวแล้ว ทุกคนมาปรึกษากันว่า จะทำอย่างไรให้ออกไปได้ โดยไม่ได้รอเจ้าหน้าที่มาช่วยอย่างเดียว จึงช่วยกันขุดโพรง

ด้านน้องตี๋ กล่าวว่า ใช้ก้อนหินขนาดเท่ามือช่วยกันขุดโพรง โดยพระเอกพลเสริมด้วยว่า ตอนนั้นทุกคนมีความหวังคิดว่า ขุดไปผนังถ้ำอาจจะไม่หนาและได้ออกไป และน้องดอม กล่าวว่า ระหว่างการขุดได้ยินเสียงเด็ก จึงจินตนาการว่า ใกล้ออกไปได้แล้ว 

เมื่อถามว่าอยู่ในถ้ำรับมือกับความหิวอย่างไร ใครเป็นคนบอกว่าหิวเป็นคนแรก น้องไตตั้น กล่าวว่า พี่ไนซ์บอกหิวก่อนเป็นคนแรก ทำให้ให้เรียกเสียงหัวเราะแก่ผู้ร่วมงานในขณะนั้น 

ส่วนพระเอกพลกล่าวเสริมว่า ไม่มีอาหารเข้าไปตั้งแต่วันแรก ให้น้องๆกินน้ำให้อิ่มเพื่อประทังชีวิต เพราะคิดว่าจะติดอยู่วันเดียว ทุกคนอยู่ได้เพราะน้ำ ถ้าไม่มีน้ำ พวกเราก็แย่ นอกจากนี้ก็รู้วันเวลาที่ติดอยู่ในถ้ำจากนาฬิกาของน้องตี๋ หลังจากทุกคนเจอนักดำน้ำชาวอังกฤษ ทุกคนตื้นตันใจ ดีใจสุดๆ คิดว่ายังไงรอดแล้ว 

จากนั้นพิธีการได้ถามว่า การที่นักดำน้ำพบทั้ง 13 ชีวิต ซึ่งได้กลิ่นของเสีย อยากทราบว่า เป็นกลิ่นอะไร โดยเด็กทั้ง 12 คน บอกว่า เป็นกลิ่นฉิ้งฉ่อง

และคำถามที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมขณะนั้น เมื่อพิธีกรถามว่า ในทีมหมูป่ามีใครมีแฟน ได้ยินมาว่า กำลังคบๆ ดูใจไปก่อน และให้ยกมือขึ้น ปรากฎว่า น้องไตตั้นชูมือขึ้น พร้อมบอกว่า อยู่ในช่วงคุยๆ กันไปก่อน                          

นอกจากนี้พิธีกรได้ถามต่ออีกว่า ขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และทราบว่า เพื่อนออกมาได้ครบทุกคนแล้วรู้สึกอย่างไร น้องไนซ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ทุกคนออกมาปลอดภัย ไม่ร้องไห้ ขณะที่น้องไตตั้น บอกว่า ร้องไห้ เพราะหิวข้าว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิธีถามเด็กทั้งหมดว่า ก่อนออกมาจาก้ำ อยากกินอะไร มากที่สุด เด็กๆ ต่างตอบถึงอาหารหลายชนิด เช่น หมูกะทะ ข้าวหมูกรอบ หมูปิ้ง คะน้าหมูกรอบ ข้าวเหนียวไก่ทอด ซูชิ เคเอฟซี เป็นต้น แต่สุดท้ายเด็กๆก็บอกว่า มื้อแรกที่ได้กิน คือ นมและข้าวต้มเท่านั้น

พิธีกรถามว่า เมื่อกลับไปอยู่บ้าน มีคำแนะนำอย่างไร พระเอกพล กล่าวว่า หมอภาคย์ให้คำแนะนำว่า ให้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม 

จากนั้นพิธีกรถามว่า ไปโรงเรียนวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง น้องอดุล กล่าวว่า ผอ.ไม่ให้เด็กๆถามเรื่องถ้ำ ตนก็งง ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเป็นแบบนั้น แต่ก็ดีใจ และมีความสุขที่เพื่อนๆต้อนรับและจัดวันเกิดให้ เช่นเดียวกันน้องโน้ตและน้องตี๋ก็ไม่มีใครถามเช่นกัน เพราะเพื่อนบอกครูไม่ให้ถามเรื่องถ้ำ     ขณะที่น้องดอม กล่าวว่า คนเข้ามาหาเยอะส่วนมากมาขอถ่ายรูป ส่วนน้องเติ้ล มีเพื่อนมาถามว่า เติ้ลคนเก่าอยู่ไหน เพราะผอมลง 

น้องไตตั้น กล่าวว่า มีเพื่อนถามว่า ในถ้ำหนาวมั้ย เพื่อนสนิทอีกคนก็บอกว่า ลองเข้าไปดูสิน่าสนใจดี   ส่วนน้องมาร์ค กล่าวว่า เพื่อนที่โรงเรียนบอกตายแน่ เพราะการบ้านเยอะ นอกจากนี้ในส่วนการเรียน น้องมาร์ค ได้เป็นผู้แทนกล่าวว่า ได้เรียนเสริมในวันจันทร์ถึงศุกร์ โดยปกติจะเลิกเรียนเวลา 15.00 น. แต่เรียนเสริมในเวลา 15.30-17.00 น.ของทุกวัน หลังจากที่ได้สอบไปแล้ว ทุกคนต่างตอบว่า ทำข้อสอบได้ เมื่อพิธีกรถามว่า ใครเรียนเก่ง กลับไม่กล้ามีใครยกมือ กระทั่งพระเอกพล ตอบแทนว่า น่าจะเป็นน้องอดุล 

จนมาถึงคำถามว่า ในอนาคตเด็กๆอยากเป็นอะไร ซึ่งทุกคนตอบคล้ายกันว่า อยากเป็นนักฟุตบอล โดยมีน้องไนซ์ เป็นแกนนำบอกว่า อยากพาบอลไทยไปบอลโลก ขณะที่น้องตี๋ อยากเป็นทหารอากาศ น้องเติ้ล อยากเป็นสถาปนิก น้องบิว อยากเป็นนายร้อยและหน่วยซีล ส่วนน้องอดุลอยากเป็นนักดนตรี เพราะชอบร้องเพลง

ในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์พิธีกรถามว่า อยากบอกความในใจใดแก่สังคม โดยพระเอกพล กล่าวว่า ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานความช่วยเหลือตลอดมา ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่คอยสั่งการให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนชาวบ้าน และพี่น้องชาวต่างชาติ ที่เข้ามาช่วยเหลือน้องๆ ออกจาก้ำหลวง ขอขอบคุณจากใจ ขณะที่น้องๆหมูป่ากล่าวขอบคุณคนทั้งโลกที่เสียสละช่วยเหลือชีวิตพวกเราทั้ง 13 คน            เมื่อพิธีกรถามว่า ทำไมคนทั่วโลกถึงรู้สึกส่งกำลังใจให้ทีมหมูป่า 

น้องอดุลย์ เป็นตัวแทน กล่าวว่า สิ่งที่เดียวที่ทุกคนรักและเอ็นดูพวกเรา เพราะทุกคนมีความห่วงใยและคอยให้กำลังใจ ช่วงเวลาอยู่ในถ้ำจนได้ออกมาทุกคนคอยต้อนรับ รู้สึกตื้นตันใจขอบคุณคนทั่วโลกจากใจ 

เมื่อพิธีกรถามอีกว่า บทเรียนสำคัญกรณีถ้ำหลวงควรเรียนรู้สิ่งใด พระเอกพล กล่าวว่า ให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เพราะประมาทแม้เพียงนิดเดียวก็อาจจะพลาดได้ เช่นกรณีถ้ำหลวงเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้ศึกษาสภาวะอากาศตั้งแต่แรก แม้แดดออกท้องฟ้าสดใส พอเข้าไปกลับพบกับน้ำเขาปิดปากถ้ำจนออกไม่ได้ ฝากทุกคนให้มีสติและสมาธิอย่าประมาทกับชีวิตเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ 

เมื่อเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องๆทีมหมูป่าฯ และครอบครัวได้เยี่ยมชมนิทรรศการปฏิบัติการถ้ำหลวงวาระแห่งโลก ซึ่งนิทรรศการจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 กันยายน ณ ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

จากนั้นทีมหมูป่าได้เข้าชมสยามโอเชียนเวิลด์ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่พระลานพระราชวังดุสิตในเวลา 18.00 น.ต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"