‘DSI’ระทึกต่อ ‘ประจิน’เขย่า โยกย้ายภาค2


เพิ่มเพื่อน    

  เขย่า DSI "บิ๊กจิน" ส่งสัญญาณโยกย้ายครั้งใหญ่ สับเก้าอี้อีก เพิ่มประสิทธิภาพ ปัดล้างขั้วตำรวจ ออกตัวการทำงานของกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีเพียงกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่าไปมองว่าดีเอสไอต้องรับผิดชอบงานทั้งหมด 

    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีการปรับย้าย ปรับปรุงโครงสร้างของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ว่าเหตุผลที่ต้องมีการปรับโยกย้าย คือ 1.ต้องมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาเสริม 2.คนที่อยู่ในหน้าที่การงานปัจจุบัน ต้องมีการเจริญเติบโตในสายงานขึ้นไป ซึ่งต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาส คนในดีเอสไอสามารถเติบโตขึ้นมาในหน่วยงานที่อยู่ในกระทรวงยุติธรรมได้ และมีอนาคตจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม หรือรองปลัดกระทรวงยุติธรรมได้เช่นกัน ไม่ใช่จบแค่ดีเอสไอ
          “ดีเอสไอไม่ใช่จุดสุดท้ายที่จะจบตรงนั้น ทุกคนมีโอกาสที่จะเติบโตและขยับขยายเพื่อมาทำงานร่วมกัน ในลักษณะผู้บริหารงานที่สูงขึ้นในกระทรวงยุติธรรม และยืนยันว่าต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญครบถ้วนในทุกด้านสาขามาทำงานในดีเอสไอ เพื่อให้งานของดีเอสไอมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” 
       ถามถึงกระแสข่าวว่ากำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเพื่อจะย้าย หรือล้วงระดับ ผอ.กองคดี ของดีเอสไอ โดยโยกออกมาและสลับเอาคนนอกหน่วยงานดีเอสไอเข้าไปแทนนั้น พล.อ.อ.ประจินตอบว่า เรื่องนี้ต้องให้อธิบดีดีเอสไอเป็นผู้พิจารณา ว่าการทำงานของแต่ละกองและแต่ละแผนกรับผิดชอบอะไร และมีคนครบถ้วนแล้วหรือไม่ ถ้าครบถ้วนแล้วก็ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่หากไม่ครบถ้วน ก็ต้องมีการสลับสับเปลี่ยน ยืนยันว่าไม่ได้เจาะจงลงไปว่าเป็นตำรวจแล้วต้องเอาออกไปจากดีเอสไอ 
     รองนายกฯ กล่าวว่า การพิจารณาสัดส่วนแต่ละแผนกไม่เท่ากัน การพิจารณานั้น ส่วนที่ 1 ขึ้นอยู่กับเนื้องานที่จะมีภารกิจและบทบาทที่แตกต่างกันออกไป และมีความจำเป็น คนในสายงานไหนซึ่งจะได้มีการเติมเต็มในส่วนดังกล่าว ส่วนที่ 2 ผู้บริหารในแต่ละสาย ต้องมีการขยับขึ้นไปตามลำดับ และส่วนผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านเทคนิค ก็ต้องขยับขึ้นเดินไปคู่กัน ทั้งนี้ การทำงานของกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีเพียงดีเอสไอ แต่ต้องเกี่ยวข้องและทำงานบรูณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
         “อย่าไปมองว่าดีเอสไอต้องรับผิดชอบงานทั้งหมด ตามความต้องการของพวกเรา เพราะว่าดีเอสไอก็มีขีดจำกัดในการรับภาระมา ซึ่งเมื่อมีโครงสร้างเช่นนี้ และมีคนที่อยู่ในหน่วยงาน จะต้องมีสัดส่วนในด้านของเทคนิค นอกจากนี้ประกอบกับเหตุผลต้องมีผู้บริหารที่เหมาะสมและดูในภาพรวมที่ทุกคนต้องเติบโตก้าวหน้าขึ้นมาทำงานในภาพรวมให้กับกระทรวงยุติธรรมต่อไปได้” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
          ด้านนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีคำสั่งให้นายมณฑล แก้วเก่า รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอแทน และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีดีเอสไอ ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่ากระทรวงยุติธรรมมีหน่วยงานที่มีความสามารถในด้านการสืบสวนมีด้วยกันหลายหน่วยงาน ไม่ใช่เฉพาะดีเอสไอ ซึ่งงานของกรมคุมประพฤติเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการสืบสวน สืบเสาะหาข้อเท็จจริงในการที่จะช่วยข้อมูลให้กับศาลในงานผู้ที่ถูกคุมประพฤติ ดังนั้นในแง่ของการทำเทคนิค การทำคดีอาญาในภาพของประชาชนนั้น คนของกรมคุมประพฤติสามารถที่จะทำงานในส่วนนี้ได้ ซึ่งความจริงนั้นยังมีคนมีอีกหลายหน่วยที่สามารถทำได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"