นางแบบดังซดยา โดดตึกฆ่าตัวตาย


เพิ่มเพื่อน    

    นางแบบดังเจ้าของธุรกิจความงาม "เก๋ เลเดอเรอร์" ฆ่าตัวตายสยอง ดื่มยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดจากชั้น 3 อาคารที่ทำงาน ร่างกระแทกระเบียงชั้น 2 ถูกนำส่ง รพ. แต่อยู่ได้ข้ามคืนก็สิ้นใจ ตำรวจได้ข้อมูลก่อนเกิดเหตุผู้ตายบ่นกับเพื่อนสนิทว่ากำลังมีปัญหาชีวิตอย่างหนัก
    เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เอกฤทธิ์ รูปสะอาด รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งจากโรงพยาบาลลาดพร้าว ว่า มีผู้พลัดตกจากที่สูงมารักษาตัวแล้วเสียชีวิต จึงไปตรวจสอบ พบศพ น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ อายุ 30 ปี หรือ "เก๋ เลเดอเรอร์" นางแบบชื่อดัง สภาพมีแผลแตกฉกรรจ์ที่ศีรษะ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายตกจากอาคาร ลา พรีม คลินิก เลขที่ 756 ซอยร่วมน้ำใจ แยก 4 ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ตั้งแต่เวลา 21.32 น. วันที่ 7 กันยายน โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้บ่นกับเพื่อนสนิทว่ากำลังมีปัญหาชีวิตอย่างหนัก และจากการตรวจสอบในห้องนอนบนชั้น 3 ของอาคารเกิดเหตุ พบขวดยาฆ่าหญ้าตกอยู่ในห้องน้ำ 
    ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะดื่มยาฆ่าหญ้าก่อนกระโดดจากอาคารเพื่อฆ่าตัวตาย อยู่ระหว่างสอบสวนและเชิญคนใกล้ชิดมาสอบปากคำ
    น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ “เก๋ เลเดอเรอร์” เคยผ่านเวทีประกวดนางงาม ได้เป็นรองอันดับ 2 มิสเวิลด์ เน็กซ์ ท็อป โมเดล 2012 นางงามผิวสวยในเวทีประกวดมิสไทยแลนด์ เวิลด์ 2012 มิสซูเปอร์คาร์ 2013 ถ่านหันมาเป็นนางแบบ เคยถ่ายแบบให้นิตยสารเพลย์บอล รวมทั้งถ่ายมิวสิกวิดีโอ และยังทำธุรกิจด้านความงาม ก่อตั้งบริษัท เลเดอเรอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กระทั่งปี 2559 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ม่านฟ้า กรุ๊ป จำกัด ของไฮโซม่านฟ้า และบริษัท เลเดอเรอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ น.ส.กันยกรเป็นกรรมผู้มีอำนาจ ในความผิดฐานเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ต่อประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต
    มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.โชคชัยได้สอบพยานในที่เกิดเหตุ พบว่าคืนเกิดเหตุพยานได้ยินเสียงดังคล้ายของหนักตกใส่ระเบียงชั้น 2 จึงพากันไปดูที่ห้องทำงานชั้น 3 พบ น.ส.กันยกรนอนบาดเจ็บอยู่ที่ระเบียง จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว ส่วนหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า น.ส.กันยกรกระโดดลงมาจากหน้าต่างห้องพักที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว 
    ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 9 กันยายน ร.ต.สุวิทย์ ขันแก้ว อายุ 58 ปี ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพบก บิดาของ น.ส.กันยกร และภรรยา พร้อมญาติจำนวนหนึ่ง เดินทางไปรับศพ น.ส.กันยกรที่โรงพยาบาล โดยมารดาผู้ตายมีน้ำตาไหลตลอดเวลา ทั้งนี้ ครอบครัวจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ศาลา 10 วัดนวลจันทร์ ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.
    สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพแล้ว ระบุว่า น.ส.กันยกรเสียชีวิตจากการเสียเลือดในช่องท้องปริมาณมากจากกระดูกเชิงกรานหัก
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 21.30 น. สน.โชคชัยได้รับแจ้งเหตุมีคนตกจากที่สูง บริเวณลา พรีม คลินิก ซอยร่วมน้ำใจ แยก 4 ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพผู้ตายเบื้องต้น ณ โรงพยาบาลลาดพร้าว
    จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ขณะกำลังทำงานอยู่อาคารที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 1 พร้อมด้วยพยานอีกคน ซึ่งเป็นแม่บ้าน ได้ยินเสียงดังตุ้บคล้ายของหนักตกใส่ระเบียงชั้น 2 จึงพากันขึ้นไปดูที่ห้องทำงานชั้น 3 พบผู้ตายนอนบาดเจ็บอยู่ที่ระเบียง จึงช่วยกันนำส่ง รพ.ลาดพร้าว
    ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณเกิดเหตุพบว่า ผู้ตายได้กระโดดลงมาจากหน้าต่างห้องพักที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว และจากการตรวจสอบภายในห้องพักพบยาฆ่าหญ้ากรัมม็อกโซน เปื้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำและในห้องนอน
    จากการติดตามดูอาการผู้ตายและสอบถามแพทย์ รพ.ลาดพร้าว ในเวลาต่อมา ทราบว่า ผู้ตายมีอาการบาดเจ็บจากบาดแผลตกจากที่สูง และภายในร่างกายพบว่ามีสารพิษ เบื้องต้นอยู่ในอาการสาหัส ซึ่งแพทย์ให้การรักษา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 20.30 น. ได้รับแจ้งว่าผู้ตายได้เสียชีวิตแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สน.โชคชัยจะได้ส่งศพผู้ตายไปสถาบันนิติเวชฯ โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า สำหรับสาเหตุการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ สันนิษฐานว่าแรงจูงใจของผู้ตายมาจากความเครียดเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ในสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพอย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมา ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวชเป็นสำคัญ พร้อมกำชับฝ่ายสืบสวนสนับสนุนข้อมูลในการพยานหลักฐานจากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมต่างๆ ทางคดี เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ที่แท้จริง และสามารถตอบคำถามของญาติผู้เสียชีวิตและสังคมได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"